
23 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้กล่าวในงาน เพื่อร่วมงาน สุราก้าวหน้า พลังแห่ง Soft Power ผลักดันซอพพาวเวอร์ ที่ตลาดดิโอโซน อ.เมือง จ.ระยอง คืนวานนี้( 22 ก.ค.) ว่า จ.ระยอง เปรียบเป็นเมืองหลวงของผลไม้ ที่นโยบายนี้จะช่วยเปลี่ยนโภคภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ เมื่อถึงฤดูกาลที่ผลไม้ราคาตกต่ำ ก็สามารถขายผลิตภัณฑ์จากผลไม้ได้ และเวลาผลไม้ที่ราคาสูง รัฐบาลก้าวไกลก็จะเร่งผลักดันการส่งออกผลไม้ให้เกิดการผลักดันให้ได้มากที่สุด
นี่เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่พรรคก้าวไกล ต้องการยืนยันว่าเรารักษาสัจจะ ก่อนเลือกตั้งอย่างไรหลังเลือกตั้งยังเหมือนเดิม และทำให้นโยบายที่เกิดขึ้นมาได้ ตนเชื่อว่ายังอยู่ในช่วงเวลาของการจัดตั้งรัฐบาล ในวันที่ 27 ก.ค.นี้จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี แม้ว่านายกฯจะไม่ได้เป็นตนแล้วก็ตาม
“แต่ยังไม่หมดสิทธิเป็นนายกฯนะบอกไว้ก่อน แค่ส่งไม้ต่อให้กับเพื่อไทยเท่านั้น แต่สิทธิการเป็นแคนดิเดตนายกฯยังอยู่เต็ม 100 % แน่นอน เพราะเราเอาประเทศมาก่อน เอาบ้านเมืองมาก่อน แล้วเรารู้ว่าพ่อแม่พี่น้องชาวระยอง ต้องการมีรัฐบาลโดยเร็ว เพราะฉะนั้นประเทศนี้สำคัญกว่าตัวผมมากๆ ถึงแม้ว่า “พิธา” จะได้เป็นนายกฯหรือไม่ได้เป็นนากยกฯก็ไม่สำคัญ ก้าวไกลเป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่สำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือการ รักษาสัจจะกับการหาเสียงต่อพี่น้องชาวระยองไว้ และสิ่งสำคัญก็คือยุติการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเผด็จการให้ได้” นายพิธา กล่าวและกล่าวต่อ
“นี่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ตนคิดว่า ก่อนเลือกตั้งเคยพูดอะไรไว้ เคยให้สัจจะกับประชาชนอย่างไรไว้ ก็ต้องพยายามที่จะรักษาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ หรือไม่ได้เป็นนายก ไม่ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นรัฐบาลแต่การรักษาฉันทามติกับประชาชน 25 ล้านเสียง ที่ให้ไว้กับ 2 พรรคใหญ่ 27 ล้านเสียงที่ให้ไว้กับ 8 พรรค จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งรัฐบาล8พรรคให้ได้”
มาวันนี้ พรรคก้าวไกลตั้งใจจะรักษาเรือลำนี้ที่เราได้ลงไว้ และหวังว่าสักวันหนึ่งเรือจะผลักดันการเพิ่มผลมูลค่าสินค้าการเกษตรให้กับชาวระยอง ทำให้นักท่องเที่ยงเข้ามาในพื้นที่ ทำให้เศรษฐกิจดี ซึ่งจะรักกษาสัจจะกับพี่น้องชาวระยอง จึงขอให้วันที่ 27 ก.ค.นี้ ขอให้พี่น้องชาวระยองช่วยให้กำลังใจกับพวกเราทั้ง 8 พรรคด้วย
นายพิธา กล่าวต่อ ถึงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนิคมพัฒนา และอำเภอเมือง เพื่อสื่อสารไปยังรัฐบาลรักษาการให้ช่วยแก้ปัญหา พร้อมขอให้นักการเมืองทุกคน อย่าสนใจแต่เรื่องการเมืองมากเกินไป ขอให้เอาความผาสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะประชาชนยังยากลำบากอย่างยิ่ง จึงเป็นหน้าที่ของตนที่ยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ ที่ประชาชนเคยให้ความไว้วางใจอย่างถล่มทลายเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่าตนจะไม่ได้อยู่ในสภาฯตอนนี้ แต่จะได้กลับไปแน่นอน
ช่วงหนึ่ง นายพิธา ถามประชาชนว่า “วันที่ประชุมรัฐสภามีสื่อมวลชนทำข่าวมากมาย ไม่รู้ว่ามีใครเห็นพิธาเดินออกจากสภาฯ ผ่านช่องไอทีวีบ้าง ยกมือหน่อย ใครเคยฟังดีเบตมากมายหลายช่อง ใครเคยเห็นดีเบต “พิธา” ในช่องไอทีวีบ้าง ยกมือให้ดูหน่อย ตอนนี้อยากดูว่าไอทีวีถ่ายทอดสดอยู่ที่ไหนใครบอกได้บ้าง ว่าต้องช่องไหนเนี่ย มันไม่มีใครที่เลือกคนๆนี้มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะได้ดูการดีเบตผ่านช่องไอทีวี หรอกครับ ไม่มี”
ฉะนั้นตนจึงมั่นใจมากในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ทั้งในแง่หลักการ และในแง่หลักฐาน และเชื่อเหลือเกินว่าจะมีโอกาสได้เดินกลับเข้าสภาฯ และเผลอๆจะได้เดินเข้าทำเนียบรัฐบาลด้วย แค่ขอให้เห็นหัวประชาชนบ้าง มาถึงจุดนี้ตนต้องย้ำอีกครั้งว่า ใครจะปล่อยมือจากเราก็ช่าง ขอแต่พวกเราประชาชนจับมือกันไว้ให้มั่นๆ ก็พอจำความรู้สึกและความหวังที่พวกเรามีด้วยกัน
นายพิธา กล่าวอีกว่า ถ้าพี่น้องประชาชนเคยฟังดีเบต เคยฟังคุณสมบัติของตน ชื่นชอบนโยบายดีๆทั้ง สุราก้าวหน้า, รัฐสวัสดิการ, นโยบายแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศดีๆ ที่พวกเราเคยมีก่อนการเลือกตั้ง พอหลังการเลือกตั้งแล้ว ขอให้พวกเราจำความหวังแบบนั้นไว้ อย่าปล่อยมือกัน ใครเขาจะถีบเราลงเรือ เราบอกเราไม่ลง เราขอชวนพวกเขากลับ รักษาสัจจะที่มีไว้กับประชาชน ช่วยซ่อมเรือให้แข็งแรงแล้วเดินหน้าไปด้วยกัน ช่วยกันส่งเสียงว่า 25 ล้านเสียง มีความหมายไม่น้อยกว่า 250 เสียง
“บ้านเมืองมีขื่อมีแปร มีวิถีของมันอยู่ ขอให้กลับมายึดเอาวิถีที่มีประชาชนเป็นที่ตั้งร่วมกัน สำหรับประชาชนที่ถามว่า พรรคก้าวไกลจะเอายังไง คุณพิธาจะเอายังไง ตัดสินใจง่ายนิดเดียว เอาหลักการมาเป็นที่ตั้ง คิดถึงประชาชนไว้มากๆ แล้วรักษาสัจจะ สัญญากับประชาชนไว้อย่างไร ก็รักษาสัจจะกับประชาชน เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้ มันจะยากตรงไหน ตอนเวทีดีเบตเคยพูดไว้อย่างไรก็ทำแบบนั้น หากคิดไม่ออกให้มาฟังเสียงประชาชน ถ้าเวียนหัวมากคิดไม่ออก ก็มาฟังเสียงประชาชนที่หาเสียงไว้สิ”
จากนั้น นายพิธา ถามประชาชน “บอกนักการเมืองที่สับสนอยู่ ว่าเขาไม่ควรจะตัดสินใจอย่างไร ให้ฟังเสียงประชาชนที่ส่งคะแนนให้ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. แค่นี้ก็ตัดสินใจได้แล้ว ก่อนเลือกตั้งเนี่ยฟังประชาชน หลังเลือกตั้งแล้วลืมประชาชน คราวหน้าจะเลือกเขากลับมาอีกมั้ย” นายพิธา ถาม ประชาชนตอบพร้อมกันว่า “ไม่”
นายพิธา ยืนยันว่า ส่วนตัวของตนไม่ต้องกังวลจะยังทำงานเพื่อชาวระยองต่อไปและภายหลังลงจากที่ปราศรัยเสร็จ ช่วงท้ายมีมวลชนนำช่อดอกไม้ และเบียร์ผลไม้ ของ จ.ระยอง ซึ่งถือเป็นสุราก้าวหน้า มามอบให้นายพิธา ขณะที่มวลชนต่างตะโกนเรียกชื่อนายพิธา และ ตะโกน คำว่า "นายกฯ" เป็นกำลังใจให้นายพิธาก่อนเดินทางกลับ