ลุยต่อ! "สรรเพชญ" ถกที่ประชุมสภาฯแก้ไข 3 ปมปัญหาเรื้อรังเมืองสงขลา (มีคลิป)

วานนี้ (20 ก.ค.66) ที่อาคารรัฐสภา นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ หารือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับปัญหาในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา จำนวน 3 เรื่อง ได้แก่



1. ปัญหาความล่าช้าโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรืออควาเรียมหอยสังข์ ซึ่งเป็นโครงการที่เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดยมีสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เป็นผู้เสนอโครงการ ขณะนี้ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 1,400 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 15 ปี และยังไม่แล้วเสร็จจนกลายเป็นอนุสรณ์สถาน “การคอรัปชั่น” มีสภาพทิ้งร้างเนื่องจากเกิดข้อพิพาทด้านงานวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม ทำให้โครงการต้องหยุดก่อสร้าง และขณะนี้คดีความอยู่ในชั้นการพิจารณาของ ปปช. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 ประชาชนล้วนตั้งตารอคำตอบว่า “อควาเรียมแห่งนี้จะแล้วเสร็จเมื่อใด”
 

2. ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ และเดือดร้อนจากน้ำท่วมบ่อยครั้ง ในช่วงฤดูฝนเวลามีฝนหนักติดต่อกัน ก็จะทำให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบาย โดยเฉพาะบริเวณ ห้าแยกน้ำกระจาย บริเวณแยกสวนตูล บริเวณแยกบ้านแขยง ตำบลทุ่งหวัง และบริเวณริมคลองสำโรง ซึ่งเป็นเส้นทางหลักสำคัญที่ประชาชนใช้สัญจร ส่งผลกระทบให้การจราจรติดขัด สัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนอีกด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แล้วไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง



3. ปัญหาการทำประมง ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของ IUU ซึ่งความเข้มงวดของกฎหมายฉบับนี้ และการออกพระราชกำหนดการประมงปี 2558 รวมถึงการใช้มาตรวัดของ IUU มากเกินไป ทำให้ชาวประมงพื้นบ้าน และผู้ทำอาชีพประมงพาณิชย์ รวมทั้งเครือข่ายประมงทั้งหมด ได้รับผลกระทบ และเกิดช่องว่างในช่วงเวลาที่ผ่านมาอย่างมาก 

จากนั้นได้มีการเสนอกฎหมาย ถึง 8 ฉบับ มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และเรื่องดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯเรียบร้อยแล้ว จึงขอให้สภาฯ ชุดปัจจุบัน ได้เร่งนำเอาเรื่องนี้กลับเข้ามาพิจารณาโดยเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมงที่ยังคงตั้งตารอให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพต่อไปได้

“ทั้งสามปัญหาเป็นปัญหาที่เรื้อรังมาอย่างยาวนาน ควรได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะหากได้รับการแก้ไขแล้ว จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อสภาฯ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสงขลาต่อไป จึงขอฝากท่านประธานสภาฯผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดดำเนินการ” นายสรรเพชญ กล่าว