ข้าราชการพึงสังวร "นิพิฏฐ์" ยกเคส "ธาริต" ติดคุก เพราะ ทำตามสั่งนักการเมือง

11 กรกฎาคม 2566 จากกรณีศาลฎีกาสั่งจำคุก นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) 2 ปี ไม่รอลงอาญา จากคดีที่ถูกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ยื่นฟ้องนายธาริต และชุดพนักงานสอบสวนดีเอสไอรวม 4 คน ฐาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา จากการกล่าวหาว่าใช้อาวุธสั่งฆ่าประชาชนจากการสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.เมื่อปี 2553

ล่าสุดนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กว่า อยากให้ข้าราชการได้เสียสละเวลาอ่านเรื่องนี้ครับ

ฟังข่าวศาลฎีกาตัดสินจำคุก คุณธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แกล้งฟ้องคุณอภิสิทธิ์ และ คุณสุเทพ กรณีสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ผมไม่มีความเห็นอะไรที่จะกล่าวต่อในเรื่องนี้

มีสิ่งเดียวที่จะเขียน เพื่อให้ผ่านสายตาข้าราชการทั้งหลาย ซึ่งท่านต้องปฏิบัติตามคำสั่งของนักการเมือง คือ บรรดาข้าราชการทั้งหลายท่านต้องกล้ายืนหยัดถึงความถูกต้อง อย่าตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองในคำสั่งที่ไม่ชอบ

เหตุผลที่สำคัญที่ศาลฎีกาลงโทษคุณธาริต คือ การกระทำของคุณธาริต “ฟังได้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งให้โจทก์ทั้งสอง(คุณอภิสิทธิ์ และ คุณสุเทพ) ได้รับโทษทางอาญา เพื่อสนองความต้องการของรัฐบาลใหม่” ซึ่งคือ รัฐบาลเพื่อไทย ของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นเอง สุดท้าย คุณธาริตติดคุก แต่คุณยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีก็ลอยตัวไป

รัฐบาลเพื่อไทย ที่สถาปนาตัวเองว่า “เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย” ทำให้ข้าราชการติดคุกเยอะมาก ย้ำว่า ติดคุกเยอะมาก เพราะทุจริตและประพฤติมิชอบตามคำสั่งของรัฐบาล

นี่แหละครับ ที่ผมแย้งมาเสมอว่า ระบอบประชาธิปไตย เป็นระบอบที่ป้องกันการทุจริตได้ดีกว่าระบอบอื่น แต่เมืองไทย รัฐบาลที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย กลับทำให้ข้าราชการติดคุกกันมากที่สุด ที่ร้ายไปกว่านั้น แล้วยังอ้างตัวเองหน้าตาเฉยว่า เป็นประชาธิปไตยเสียอีก เมืองไทย เราช่างไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน กับคำว่า“ประชาธิปไตย”

สิ่งหนึ่งที่ผมดีใจ และ ขอกล่าว คือ ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง พ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรักษ์ และพวกอีก 2 คน (รวมเป็น 3 คน) ว่า ไม่มีเจตนาทุจริต แต่กระทำไปตามคำชี้นำของคุณธาริต ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา

ผมดีใจเป็นที่สุด ที่พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ พ้นพงหนามเสียที พ.ต.ท.วรรณพงษ์ เป็นลูกชายของพล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ เป็นนายตำรวจมือปราบ ฝีมือดี เป็นคนดีที่เป็นตัวอย่างแก่นายตำรวจทั้งหลาย ผมเคยทำงานร่วมกับพล.ต.ท.วรรณรัตน์ ท่านเป็นสุภาพบุรุษและเป็นคนดีจริงๆ

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ ก็เป็นนายตำรวจที่ดีเหมือนคุณพ่อ แต่เมื่อย้ายออกจากกองปราบมาอยู่ ดีเอสไอ ก็เหมือนอยู่ในพงหนาม วันนี้ ท่านพ้นพงหนามมาแล้ว ผมดีใจเป็นที่สุด

จากนี้ ขอให้ท่านและครอบครัวใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีเกียรติ มีศักดื์ศรี ผมยินดีกับท่านด้วยความจริงใจครับ