svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ดร.วันวิชิต" ชี้ ได้นายกฯ-รัฐบาล ไม่เกินสิ้นเดือน ก.ค. แนะก้าวไกลปรับตัว

04 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ดร.วันวิชิต" ชี้ ได้นายกฯ-รัฐบาล ไม่เกินสิ้นเดือนก.ค. ระบุ เพื่อไทย มีโอกาสพลิกเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แนะก้าวไกลต้องปรับตัว ระวัง ติดกับดักอำนาจ แจงรัฐบาลเสียงข้างน้อย ถ้ากล้าทำก็วอดวาย

4 กรกฎาคม 2566 ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ให้สัมภาษณ์รายการเก็บตกจากเนชั่น ทาง "เนชั่นทีวี" ในประเด็น "ประธานสภาฯ ชี้ชะตานายกฯ" ว่า หลังจากได้ตัวประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว คาดว่าต่อจากนี้อีกไม่เกินสิ้นเดือน ก.ค. ถ้าจะได้ตัวนายกรัฐมนตรี เพราะถ้าช้า ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ความคาดหวังของประชาชน จะเป็นแรงกดดันที่สูงขึ้น ถ้าปิดจ็อบได้เร็ว มีคณะรัฐมนตรี งานข้างหน้า

อย่าลืมว่า ส.ค.-ก.ย.จะมีการเกษียณอายุราชการในหลายกรม หลายกระทรวง การเข้าไปสร้างกลไกหรือมือไม้ให้ตนเอง จึงมีความจำเป็น ถ้ายื้อเวลาไปไม่ส่งผลดี แม้จะเข้าไปเป็นรัฐบาลใหม่ ก็จะทำอะไรไม่ได้มาก ต้องเจอสิ่งที่รัฐบาลชุดเก่าเขาทำ เขาก่อร่างไว้อยู่แล้ว

ทั้งนี้ทั้ง 8 พรรคร่วมรัฐบาล อย่ากลายเป็นรัฐบาล "ปราสาททราย" สร้างไว้สวย สุดท้ายแล้วโดนคลื่น หรือใครวิ่งมาจากไหนแล้วเตะฟุตบอลอัดจนฟัง ฉะนั้นต้องอยู่ในภาวะความไม่ประมาท ต้องช่วยกันดู ช่วยกันระมัดระวัง

เมื่อถามว่า ถ้าให้อ่านใจ อ.วันนอร์(นายมูหะหมัดนอร์ มะทา) ถ้าครั้งแรกโหวตไม่ผ่าน อ.วันนอร์จะตัดสินใจอย่างไร

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า ถ้าครั้งแรกไม่ผ่าน ต้องไปดู 1.ดูจากเสียงว่าเสียงส่วนไหนที่ยังขาด คุณพิธา(ลิ้มเจริญรัตน์) ต้องไปเจรจากับส.ว.ด้วยตัวเอง 2.พรรคร่วมฝ่ายค้าน แม้ว่าจะเห็นต่าง มีบางพรรคหรือไม่ ที่อาจจะปรับเปลี่ยนท่าที หมายความว่าในแง่ของหลักการ นักวิเคราะห์ หรือนักวิชาการอาวุโส อย่าง อ.สุขุม นวลสกุล ท่านก็รู้สึกผิดหวังกับนักเลือกตั้ง เพราะว่าหลายพรรคการเมืองก่อนหน้านี้ ถ้าจำได้ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. เห็นร่วมด้วยกันเกือบหมดที่จะปิดสวิตช์ส.ว. แต่วันดีคืนดีพอพลิกขั้ว กลับเอามาเป็นข้ออ้างกับพรรคก้าวไกล ตนเข้าใจว่าความขัดแย้งทางการเมือง ความเห็นต่างมีได้ แต่ในแง่หลักการ สารตั้งต้นร่วมกันเห็นด้วยแล้ว ควรปิดสวิตช์ส.ว.ให้จบตรงนี้

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคอื่นที่จะไปยกมือให้คุณพิธา จะไปอธิบายกับคนที่เลือกเขามาอย่างไร

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า ในแง่หลักการใช่ หลายคนพูดว่าการสมคบคิดระหว่างส.ว.กับเสียงข้างน้อย ถามว่า คิดได้กล้าทำหรือเปล่า เพราะแคนดิเดตที่ถูกเสนอตัวขึ้นมาแข่ง จะถูกตั้งคำถามว่าแล้วประเทศชาติจะบอบช้ำขนาดไหน เอนฟลูเอนเซอร์หลายคน เช่น คุณจตุพร(พรหมพันธุ์) คุณชูวิทย์ (กมลวิศิษฎ์) บอกว่า พล.อ.ประวิตร(วงษ์สุวรรณ) จะได้เป็นนายกฯ ถามว่า คิดได้แต่กล้ากระทำหรือเปล่า กล้าขืนใจประชาชนหรือเปล่า หลังวันที่ 14 พ.ค.เสียงออกมาเป็นอย่างนี้

เมื่อถามต่อ เชื่อหรือไม่ว่าจะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า หลายคนบอกว่าสิ่งไม่น่าเชื่ออาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ตนมองขำๆ ว่า พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้พล.อ.ประวิตร เป็นปาร์ตี้ลิสต์คนเดียว ได้คะแนนเสียง 5 แสนกว่าจากทั่วประเทศ ถ้าไปเทียบกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ได้มา 1.4 ล้านเสียงตัวเลขกลมๆ มันอธิบายอะไรได้ในแง่ของความสง่างาม ถ้านำมาเปรียบเทียบ อีกประเด็นคือ ความพลาดของทีมงานพล.อ.ประวิตร ที่สร้างภาพลักษณ์ เพื่อลดความขัดแย้ง แต่พลาดเรื่องไปกดดัน พล.ต.อ.สมยศ  พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งเกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องภาพลักษณ์ อย่าลืมว่า การกีฬาระดับโลก เขารังเกียจมากในการเข้าไปแทรกแซง

ถ้ามีนักร้องดีๆนำไปร้องโดยดูจากเจตนาของพล.อ.ประวิตร จะเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของพล.อ.ประวิตรได้ และขอบรรดานักร้องทั้งหลายไปกดดันป.ป.ช.ให้เปิดข้อมูล นาฬิกาเพื่อน-แหวนแม่ ตามที่ศาลปกครองชี้มาด้วย ถ้าอยากให้พล.อ.ประวิตร สง่างามก็ต้องทำตรงนี้

เมื่อถามว่า ไม่เชื่อว่าจะมีรัฐบาลเสียงน้อย

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า ถ้ากล้าทำก็วอดวาย

เมื่อถามต่อว่า ถ้าเลือกไปในทางวอดวาย

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า หลายคนก็ดักไว้ เช่น เตรียม คฝ.(ควบคุมฝูงชน) คนก็มองไว้แบบนั้น แต่ตนมองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะคิดว่า ประชาชนเรียนรู้ที่จะอดทน มีวุฒิภาวะมากขึ้น รอคอยวันที่เหมาะสม อย่างวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.ที่ผ่านมา การเมืองแบบเก่าที่นำมวลชนลงถนน เป็นการทำลายความชอบธรรม นำข้ออ้างจากการจับผิดอะไรต่างๆ จะถูกปลุกกระแสขึ้น ดังนั้นการรักษาฐานเสียง หรือความชอบธรรม ความสง่างามทางการเมืองมีความจำเป็น จึงควรให้เป็นไปตามระบบ ตามครรลองประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า ก้าวไกลไม่ได้ประธานสภาฯแล้วนายกฯจะได้ไหม

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า ถ้าพรรคก้าวไกล เซตวิธีคิดว่า ลุยเดินหน้าฆ่ากันอย่างเดียว คิดว่าอาจจะได้มรสุมอีกแบบหนึ่ง แต่เมื่อเข้าไปสู่อีกบทบาทหนึ่งกับการมีอำนาจ เข้าสู่ตำแหน่งฝ่ายบริหาร เพื่อผลักดันนโยบายสู่สาธารณะ หรือสร้างผลงานตัวเอง บางครั้งเรื่องอุดมการณ์จะต้องประคับประคองไปในระดับหนึ่ง ผลักดันเต็มตัวไม่ได้ เพราะสิ่งหนึ่งอาจจะขาดความเจนจัดหรือฉากทัศน์ในด้านประสบการณ์ การต่อสู้ทางการเมืองในสภาฯ

ทั้งนี้ตนพยายามมองว่า ทำไมกลายเป็นชื่อ อ.วันนอร์ นอกจากความเหมาะสมแล้ว อาจจะมาจากการถอดบทเรียน การถูกรัฐประหาร 2 ครั้ง เครือข่ายที่เชื่อมโยงกับคุณทักษิณ(ชินวัตร) หรือไทยรักไทยเดิมก็ตาม เห็นบทเรียนจากการต่อสู้ของนักอนุรักษ์นิยมหรือกลไกระบบราชการด้วย เขาจึงพยายามเล่นบทประณีประนอมว่า เพื่อไทยพยายามไปสร้างดีล แต่ตนมองว่าไม่ใช่ เพื่อไทยพยายามรีแบรนด์ตัวเอง เพื่อเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ คือ ไม่เห็นด้วยต่อการรัฐประหารหรือเผด็จการ แต่รักษาโครงสร้าง ระบบจารีตที่ดีไว้ ก็เลยมีเคมีบางอย่างที่แตกต่างจากพรรคก้าวไกล แต่มีธงที่ร่วมกันได้ เช่น ไม่เอารัฐประหาร การสืบทอดอำนาจ ทำให้สองพรรคจำเป็นและเต็มใจที่จะอยู่ร่วมกันได้ในโหมดตรงนี้

แต่เรื่องของวิธีคิดหรือประเพณีบางอย่าง บางเรื่องอาจจะแตกต่างกัน ดังนั้นถ้าถอดความคิดที่ผ่านมา ที่เขาว่าเพื่อไทย เป็นหมู่บ้านกระสุนตก สิ่งที่เขาโดน เพราะว่าการที่เขาได้รับชัยชนะเลือกตั้งแบบถล่มทะลาย แต่สุดท้ายถูกขบวนการเซาะหรือทำลายต่างๆ หรือจากพฤติกรรมรัฐมนตรีบางคน กลายเป็นช่องให้ถูกอภิปรายต่างๆ บั่นทอนความเข้มแข็งของเขา ซึ่งบทเรียนเหล่านี้ ก้าวไกลจะต้องศึกษาด้วย

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าก้าวไกล ยังอยากได้อำนาจบริหาร แม้ไม่ได้นายกฯ ต้องถอย

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าต้องถอย แค่ปรับ พยายามรักษากรอบ บทบาทของตัวเอง อย่างน้อยถ้าพรรคก้าวไกลได้ กระทรวงผลักดันการแก้ไขคอรัปชันอย่าง เรื่องระบบส่วย  อยากรู้ใครจะออกมาต่อต้าน ถ้าเขาทำได้จะได้คะแนนนิยม ในขณะที่ถ้าไม่ได้ ไปเป็นฝ่ายค้านเลย 4 ปี ถามว่ารอได้ไหม รอได้ แต่คุณคิดว่า เขาจะปล่อยให้อยู่ต่อ 4 ปีหรือ เขาเห็นแล้วว่าจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.การเติบโตแบบก้าวกระโดด ฝ่ายที่เห็นต่าง เห็นแล้วว่าการเข้าสู่ระบบการเมืองที่แข็งแกร่ง การเมืองแบบใหม่ของก้าวไกล คิดหรือว่าเขาจะไม่เรียนรู้หรือถอดบทเรียน จากปรากฏการณ์ของคุณ

เมื่อถามว่า หากต้องเดินบนระบบต่างๆแบบประนีประนอม ฐานเสียงเดิมจะยอมรับได้หรือ

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า ไม่ใช่ บางเรื่องประนีประนอมไม่ได้ ความไม่ถูกต้อง ประนีประนอมไม่ได้ ก็ทำไปเลย ชนไปเลย แบบคุณวิโรจน์ ลักขณาอดิสร หรือคุณรังสิมันต์ โรม ทำเรื่องการปฏิรูปตำรวจ ตนคิดว่าประชาชนก็เอาใจช่วย คือ เดินหน้าแล้วอยู่ในกรอบความสุจริต จะเป็นโล่กำบัง และลดเพดานบางประเด็น ที่อาจจะนำไปสู่การก่อหวอด ความขัดแย้ง ที่จะเป็นข้ออ้างที่จะไม่เอาคุณ

อย่างเรื่องการเปลี่ยน “วันชาติ” เรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็เป็นการขยายหรืออภิปรายต่อได้ นี่คือสิ่งหนึ่งที่พรรคก้าวไกลต้องเรียนรู้ แน่นอนว่าบทบาทการเป็นฝ่ายค้านตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เขาทำได้ดีเยี่ยม แต่เขาต้องเรียนรู้ใหม่ ในการวางระยะห่างกับอำนาจอันหอมหวนนี้ได้อย่างไร อำนาจอันหอมหวน ก็คือ หลงกับดักอำนาจ ถ้าเป็นเช่นนั้น ที่คุณบอก 14 ล้านเสียงมันอาจจะลดลงก็ได้ เช่น ไทยรักไทย ครั้งหนึ่งการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ปาร์ตี้ลิสต์เขาได้ 17-18 ล้านเสียง เขาก็เอาไปอ้างตลอด เสียงมีขึ้นมีลง การยึดโยงกับประชาชน ความตรงไปตรงมา การรักษาผลประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญ คนเห็นต่าง จะเพิ่ม จะลด เป็นปกติทางการเมือง

เมื่อถามว่า การยอมรับที่จะเสนอชื่ออ.วันนอร์ เป็นจุดหนึ่งที่ก้าวไกล เรียนรู้ที่จะถอยเพื่อรุก

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า เขาได้เรียนรู้ถึงพลังที่ต่อต้าน แม้จะเป็นในขั้วเดียวกัน ว่ามีพลังมากขนาดไหน บางอย่างถ้าไปสุด แตกหักแล้วก็จะไม่ได้อะไร

เมื่อถามว่า ขนาด ประธานสภาฯ ยังมีเรื่อง แล้วตำแหน่งต่างๆ จะเป็นอย่างไร

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า สนุก แนวโน้มอาจจะมีดรามา เมื่อได้กระทรวงเสร็จ แบ่งงานอีกใครคุม กรมไหน บทบาท อะไรแบบนี้

“ผมทิ้งบอมล่วงหน้าเลยนะ ถ้าเขาวางตัวรัฐมนตรีของทั้ง 2 พรรคแล้ว เชื่อว่าจะต้องมีการเทียบเคียงกัน ปอนด์ต่อปอนด์ ทั้งรัฐมนตรีว่าการก รัฐมนตรีช่วย จากพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ยกมาเทียบเคียงกัน เชื่อว่ามีดรามา แต่ถ้าส่งคนที่มีพื้นฐานที่ดี มีประสบการณ์ ก็เป็นเรื่องที่ดีได้ ควรถกเถียงกันให้ได้คนที่ถูกต้องเหมาะสมที่สุด

เมื่อถามย้ำ จากร่องรอยของการเลือกประธานสภาฯ อาจจะไม่ง่าย

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า ทฤษฎี zero some game ผู้ชนะทำให้ได้ทุกอย่างเป็นไปไม่ได้ การเมืองหรือการบริหารจัดการสมัยใหม่ถึงมีคำว่า ชนะด้วยกัน win win solution ไม่มีผู้แพ้ไว้ข้างหลัง บางครั้งต้องถอยเพื่อรอชนะ

เมื่อถามว่า จากร่องรอยประธานสภาฯ เพื่อไทยมีโอกาสแค่ไหน ในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ดร.วันวิชิต กล่าวว่า หลายคนเชื่อว่ามีโอกาสสูงกว่าก้าวไกล เพราะว่า ถ้าทบทวนหลังเลือกตั้งที่ผ่านมา ท่าทีของส.ว.เปลี่ยนไปมาก เพราะก่อนการเลือกตั้ง เพื่อไทยประกาศยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ เงินดิจิทัลวอลเลตก็ดี ทำให้มีศัตรูเต็มบ้านเต็มเมือง เพราะเชื่อว่า เพื่อไทยน่าจะไปถึงจุดนั้น แต่ผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปเป้า คนที่เคยต่อต้านพรรคเพื่อไทย กลับจะไม่โหวตพรรคก้าวไกล โอเคถ้าเพื่อไทย เปลี่ยนแคนดิเดตก็จะโหวตให้ แม้แต่ส.ว.ก็ตาม เมื่อเทียบเสียงที่จะโหวตนายกฯ เพื่อไทยน่าจะได้เสียงสูงกว่าก้าวไกล แต่ไม่ได้ว่าคุณพิธาไม่ได้นะ ถ้ามองแบบนี้ 1.เปรียบเทียบปอนด์ต่อปอนด์ เพื่อไทยสูงกว่า 2. พรรคเพื่อไทยสร้างโอกาสได้ดีกว่าพรรคก้าวไกล

logoline