svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ก้าวไกล-รวมไทยสร้างชาติ"เปิดศึกชิงเก้าอี้รองประธานสภา คนที่ 1

04 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดศึกชิงเก้าอี้รองประธานสภา คนที่ 1 "เพื่อไทย" เสนอ "หมออ๋อง ปดิพัทธ์" ส่วนรวมไทยสร้างชาติดัน "วิทยา แก้วภราดัย" เข้าท้าชิง 

4 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภาและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังที่ประชุมได้มีมติให้ "นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาติ ดำรงตำแหน่งประธานสภา

จากนั้น "นายประเสริฐ จันทรรวงทอง" ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้เสนอชื่อ "นายปดิพัทธ์ สันติภาดา" ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภา คนที่ 1 ขณะที่ "นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์" ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เสนอชื่อ "นายวิทยา แก้วภราดัย" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ท้าชิง

ทั้งนี้ ทำให้ ทั้ง 2 คน ต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ก่อนการลงคะแนน 

นายปดิพัทธ์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ในการทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยหวังเห็นประชาชนกลับมามีความมั่นใจในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง และจะทำให้สภา กลับมามีตัวตน และศักดิ์ศรี ไม่อยู่ภายใต้อาณัติของฝ่ายบริหาร และเมื่อตนเองได้พิจารณาภารกิจของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ก็สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของตน เป็น SMART Parliment พัฒนากระบวนการนิติบัญญัติให้มีประสิทธิภาพ มีมาตรการสากล เรียกความเชื่อมั่นจากทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ

ขณะเดียวกัน ขอเสนอกระบวนการตรวจสอบนิติบัญญัติในการพิจารณาร่างกฎหมายต่าง ๆ ได้อย่างโปร่งใส ให้ประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ติดตามการพิจารณากฎหมายได้ และมีการรับฟังความคิดเห็นประกอบการพิจารณากฎหมายอย่างจริงจัง จึงขอความไว้วางใจจาก ส.ส. และเชื่อว่า ส.ส.ที่เคยร่วมงานกับตน จะมั่นใจในความเป็นกลางของตนเองในการทำหน้าที่ดังกล่าว พร้อมสัญญาว่า จะสนับสนุนการทำหน้าที่ของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ดีที่สุด และทำงานร่วมกับ ส.ส.ทุกคนโดยปราศจากอคติ 

ด้าน นายวิทยา กล่าวว่า พร้อมที่จะรักษาองค์กรนิติบัญญัติให้ทรงเกียรติ และศักดิ์สิทธิ์ในการออกกติกา เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กติกา และกฎหมาย โดยเชื่อมั่นว่า หากตนได้ทำหน้าที่ตำแหน่งรองประธานสภา ก็พร้อมทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และเสมอภาค และทำงานร่วมกับประธานสภาผู้แทนราษฎร ฟื้นความเชื่อมั่น และเกียรติภูมิของสภาได้ ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นได้ แม้บางยุคสมัย ประชาชนจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับสภา แต่ ส.ส.ก็จะต้องช่วยกันเพื่อความเชื่อมั่น ซึ่งตนเองหน้าทำหน้าที่อย่างดีที่สุด 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเสร็จสิ้นการแสดงวิสัยทัศน์ ที่ประชุมได้ดำเนินการลงมติตามขั้นตอน ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องเป็นการลงมติแบบลับ โดยการเข้าคูหา เขียนชื่อบุคคล ก่อนบรรจุใส่ซองสีน้ำตาล และนำไปหย่อนในหีบใส โดยเมื่อ ส.ส.ลงคะแนนเสร็จสิ้น จึงจะมีการนับคะแนนต่อไป

 

logoline