จนถึงณ วันนี้ (2 กรกฎาคม 2566 ) เหลืออีกเพียงแค่สองวันจะเลือก"ประธานสภา" แต่ 2 พรรคแกนนำร่วมจัดตั้งรัฐบาล คือ "ก้าวไกล" กับ"เพื่อไทย"ยังยืนคนจะมุม เล่นกันคนละเกม และชิงไหวชิงพริบ ชิงความได้เปรียบกันทุกเม็ด จนน่ากังวลว่า หลังผ่านเรื่องประธานสภาไปแล้ว 2 พรรคนี้จะยังร่วมงานกันได้อยู่หรือไม่
"ฝั่งก้าวไกล" ยังคงเดินหน้าสร้างกิจกรรมเพื่อความชอบธรรม โดยใช้ "ด้อมส้ม - ประชาชน และ 8 พรรคร่วมฯ" เป็นหลังพิง ดังปรากฎภาพลงพื้นที่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตั้งแต่"พิษณุโลก" พื้นที่ "หมออ๋อง" ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ซึ่ง "พิธา" ควง "หมออ๋อง" ขึ้นรถแห่ปราศรัยเสียงดังฟังชัด "หมออ๋อง คือ แคนดิเดตประธานสภา" ถึงกับพลพรรค"เพื่อไทย"ได้ยินแล้วต้องออกอาการขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ไม่เพียงเท่านั้น "ก้าวไกล"เดินสายต่อถิ่นเมืองหมอแคน จ.ขอนแก่น ปลุกพลังมวลชนให้รับรู้ วันเลือกนายกฯ ต้องมีคนชื่อ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เป็นนายกฯของพ่อแม่พี่น้อง
"ก้าวไกล"ใส่เกียร์ห้าเหยียบคันเร่งเต็มที่ กวาดต้อนพลังมวลชนเป็นกำแพง ตามมาด้วยวันนี้ ( 2 กรกฎาคม ) โชว์ปฏิทินการเมืองให้โลกรู้ว่า มีนัดหมายประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลใหม่ โดย "ว่าที่นายกฯ พิธา" ยังเชื่อมั่นว่าจะได้ข้อยุติเรื่องปัญหา"ประธานสภา"
แม้ "พรรคเพื่อไทย" ยืนยันไปแล้วว่า การประชุม 8 พรรควันนี้ จะยังไม่มีเรื่องของประธานสภา เพราะต้องนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยวันที่ 3 กรกฎาคม เสียก่อน แต่"พรรคก้าวไกล" โนสนโนแคร์ สร้างภาพการประชุม 8 พรรคร่วมยังต้องดำเนินต่อไป พร้อมโชว์กำหนดการให้สาธารณชนรับทราบ
10.00 น. ประชุมหัวหน้าและแกนนำ 8 พรรค ที่ห้องประชุมชั้น 7 อาคารอนาคตใหม่
12.00 น. แถลงข่าวร่วมกันระหว่างหัวหน้าและเลขาธิการพรรคทั้ง 8 พรรค ที่ห้องแถลงข่าว ชั้น 1
12.30 น. รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ที่ห้องประชุมชั้น 7
ถอดรหัส "พรรคก้าวไกล"กำลังทำ ดังนี้
1.กอดมติ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพื่อรักษาความชอบธรรมของตนในฐานะพรรคอันดับ 1
2.หากพรรคเพื่อไทยทำอะไรนอกเหนือข้อตกลง และเอ็มโอยู เท่ากับ"เพื่อไทย"ตระบัดสัตย์ มีภาพเป็นผู้ร้าย ส่วน"ก้าวไกล"เคารพกติกา รักษาข้อตกลง
3.สื่อสารผ่านแกนนำพรรคอย่างเป็นทางการน้อยมาก แต่ใช้การให้ข่าวทางลับ ให้สอดรับกับทิศทางการเดินเกมที่ตนเองวางไว้
4.สื่อสารกับแฟนคลับ-ด้อมส้ม โดยทีมโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้สนับสนุนตามทันเกมการเมือง และรู้ทันเกมของ"เพื่อไทย"
5.เครือข่ายด้อมส้มรุมถล่มโจมตี"เพื่อไทย" ทั้งวิจารณ์ตรงๆ และเอาทัวร์ไปลง ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งในแง่ที่ทางพรรคไม่รู้ไม่เห็น หรือแอบรู้เห็น
ฟากฝั่ง"เพื่อไทย" แม้ในวันนี้ (2 กรกฎาคม 2566 ) จะส่งหัวหน้าและแกนนำพรรคไปร่วมประชุม แต่จะไม่มีคำตอบเรื่อง"ประธานสภา"ให้พรรคก้าวไกล โดยอ้างว่าจะต้องรอผลประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเสียก่อนในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 3 ก.ค. ก่อนร่วมรัฐพิธี
ผลก็คือ "ก้าวไกล"จะไม่ได้คำตอบเกี่ยวกับท่าทีหรือจุดยืนของพรรคเพื่อไทยในตำแหน่งประธานสภา แต่"ก้าวไกล"ก็จะยังเดินหน้าให้มีการแถลงร่วมกัน และใช้การแถลงนั้น มัดเพื่อไทยทางอ้อม ทำให้เพื่อไทยเดินเกมชิงเก้าอี้"ประธานสภา"ยากขึ้นไปอีก คือแม้จะได้เก้าอี้ไปแต่ก็ไม่มีความชอบธรรม
ในมุมนี้อาจมองได้ว่า "ก้าวไกล"แพ้ศึก หมายถึงศึกชิงเก้าอี้ประธานสภา และอาจรวมถึงนายกฯ แต่"ก้าวไกล"ชนะสงคราม คือ ชนะเพื่อไทยในระยะยาว เพราะเชื่อว่าสิ่งที่"เพื่อไทย"ทำ จะส่งผลให้เพื่อไทยเสียคะแนนนิยม และกลายเป็นจำเลยของก้าวไกลไปตลอด โดย"ก้าวไกล"เชี่ยวชาญในการใช้สื่อตอกย้ำ
แต่"เพื่อไทย"มองคนละมุมกับ"ก้าวไกล" กล่าวคือ
1.ยุทธศาสตร์ของ"เพื่อไทย" คือต้องได้อำนาจมาก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
2.ในทางการเมือง เมื่อได้อำนาจมา จะมีโอกาสได้สร้างผลงาน สร้างพันธมิตรทางการเมืองเพิ่มเติม ขณะที่ก้าวไกลจะยิ่งโดดเดี่ยว
3."เพื่อไทย"ยอมถูกด่าตอนนี้ โดยมีแกนนำหลายคนยอมสังเวย รับรถทัวร์จาก "ด้อมส้ม" แต่จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า
4."เพื่อไทย"มีนโยบายหลายอย่างที่หากได้อำนาจมาแล้ว จะเร่งดำเนินการ และจะทำให้คนลืมก้าวไกล โดยเน้นไปที่การแก้ปัญหาปากท้อง ทำเศรษฐกิจให้ดี
5.เพื่อไทยแบ่งเกมกันเล่น แต่ละคนเล่นตามบท ทำให้ภาพรวมไม่ได้ดูแย่ไปทั้งพรรค
6."เพื่อไทย"มีภารกิจใหญ่กว่าและอาจสำคัญกว่าเรื่องการได้อำนาจมาบริหารประเทศ นั่นก็คือการช่วยใครบางคนกลับบ้าน
ฉะนั้นเกมจึงถูกล็อกไว้แล้วว่า...
-ต้องได้ประธานสภา (ประกาศศิตจากโทรศัพท์ทางไกล)
-ประธานสภาชื่อ "สุชาติ ตันเจริญ"
-เดินหน้าผลักดันแคนดิเดตของพรรคตนเป็นนายกฯ
-จองเก้าอี้นายกฯ และรมว.ต่างประเทศ สร้างผลงานในฐานะผู้นำ ทั้งในและต่างประเทศ เปิดตลาดการค้า ฟื้นเศรษฐกิจให้ได้โดยเร็ว
-ก้าวไกลมีโอกาสสูงที่จะเป็นฝ่ายค้าน คาดว่า"ก้าวไกล"จะถอนตัวไปเอง โดยเลือกจังหวะที่ตนเองได้ประโยชน์ทางการเมืองสูงสุด
-หากต้องจับมือกับ"พรรคลุง" จะเลือก"พรรคลุงป้อม" แต่ไม่เอาตัว "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" โดยจะทำข้อตกลงให้ส่งตัวแทนเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรี
ส่วนความเป็นไปได้ของ “ลุงป้อม” ที่จะขึ้นเป็นนายกฯเอง หรือตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยสู้ มีการพูดคุยกันในหมู่พรรครัฐบาลรักษาการแล้ว และมีแนวโน้มที่การเมืองจะพลิกขั้วอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน