svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นิพนธ์" เห็นด้วย "อภิสิทธิ์" สร้างเอกภาพในพรรคสำคัญ ชี้มีบทเรียนหลายครั้ง

"นิพนธ์" เห็นด้วย "อภิสิทธิ์" สร้างเอกภาพในพรรคสำคัญ ชี้มีบทเรียนหลายครั้ง หลังสะพัดกลุ่ม "เฉลิมชัย" กุมเสียงโหวต

25 มิถุนายน 2566 นายนิพนธ์ บุญญามณี รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 9 ก.ค.ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกัน แต่ส่วนตนคิดว่าหลังได้อ่านคำสัมภาษณ์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) เห็นว่าแนวทางที่เสนอมา จะทำให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ การสร้างเอกภาพภายในพรรคเป็นสิ่งจำเป็น จึงเห็นด้วยกับแนวทางของนายอภิสิทธิ์ ถ้าไม่มีเอกภาพ เรามีบทเรียนมาหลายครั้งแล้ว

\"นิพนธ์\" เห็นด้วย \"อภิสิทธิ์\" สร้างเอกภาพในพรรคสำคัญ ชี้มีบทเรียนหลายครั้ง

 

ส่วนเรื่องตัวบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ในประชาธิปัตย์ใครก็ได้ มีคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่วันนี้ต้องคุยกัน และต้องเห็นพ้องต้องกันก่อนว่า ถ้าจะแก้ปัญหาได้พรรคเรามีบทเรียนมาแล้วหลายครั้งว่า ถ้ามันไม่มีเอกภาพ จะเดินไปข้างหน้าลำบาก ฉะนั้น การทำให้พรรคมีเอกภาพเป็นสิ่งจำเป็น ตนเห็นด้วย ถ้าคุยกันได้ก็ต้องคุยกัน เราไม่ใช่คนอื่นคนไกล ทุกคนเป็นคนในพรรคด้วยกัน มีอะไรก็คุยกัน ในทางการเมืองไม่มีใครได้อะไร 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างคุยกันแบบพี่แบบน้อง เป็นเรื่องของคนภายในพรรค

เฉลิมชัย ศรีอ่อน

เมื่อถามถึง กรณีกลุ่ม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรค ยังกุมความได้เปรียบเรื่องเสียงโหวตอยู่ที่ 70 ต่อ 30 เปอร์เซ็นต์ นายนิพนธ์ ชี้แจงว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ฝั่งของใคร ทุกคนเป็นประชาธิปัตย์ และตนเชื่อมั่นและคิดว่าทุกคนคิดถึงอนาคตของพรรคเป็นหลัก ตัวบุคคลมาแล้วก็ไป แต่พรรคต้องอยู่ ซึ่งตัวบุคคลนั้นเราเปลี่ยนมาหลายยุคแล้ว

“หากย้อนไปตั้งแต่ตนเคยเป็นยุวประชาธิปัตย์ สมัย นายพิชัย รัตตกุล เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายพิชัย ไป นายชวน หลีกภัย มา นายชวน ไป นายบัญญัติ บรรทัดฐาน มา นายบัญญัติ ไป นายอภิสิทธิ์ มา นายอภิสิทธิ์ ไป นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มา ซึ่งตัวบุคคลไปได้แต่พรรคจะต้องอยู่ ถ้าคิดว่าตัวบุคคลมาก่อนพรรค ก็เป็นคนละหลักการ ฉะนั้นในฐานะที่เป็นพี่เป็นน้องกัน มีอะไรก็คุยกันฉันพี่ฉันน้อง คุยกันฉันมิตร” นายนิพนธ์ กล่าวในที่สุด