svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

รังสิมันต์ เชื่อ ปมหุ้นไอทีวี ไม่กระทบสมาชิกพรรค ย้ำ ปิยบุตร ไม่ได้ครอบงำ

01 มิถุนายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"รังสิมันต์" เชื่อ ปมหุ้นไอทีวี ไม่กระทบสมาชิกพรรค ต้องว่าไปตามคดีความ ย้ำ "ปิยบุตร" แค่วิจารณ์ไม่ได้ครอบงำพรรค มอง เป็นเรื่องดีหลัง กลาโหมปรับลดกำลังพล เชื่อจะทำงานร่วมกันได้

1 มิถุนาย 2566 ที่พรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีข้อบังคับของพรรค อาจทำให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค พ้นสภาพการเป็น ส.ส. จะส่งผลต่อ ส.ส. คนอื่นๆ ของพรรคหรือไม่ หากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองว่า ต้องดูกฎหมายอื่นด้วย ตนไม่อยากจะลงรายละเอียดมาก เพราะเป็นเรื่องที่ต้องว่าไปตามคดีความ  แต่ขอยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นอุปสรรคในการเป็นสมาชิกพรรคของนายพิธาแน่นอน

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา จะประชุมรับฟังข้อเสนอแนะนโยบาย ด้านการกระจายอำนาจ กับนายกสมาคมองค์กรบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทยช่วงบ่ายวันนี้(1 มิ.ย.)ว่า การคุยวันนี้ไม่ใช่การละลาบละล้วง แต่เป็นการเตรียมความพร้อมในการทำหน้าที่ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรที่ไม่สอดคล้องกับผลการเลือกตั้ง เป็นไปเพื่อเตรียมตัวเป็นรัฐบาล ซึ่งท้องถิ่นอาจจะไม่ใช่ระบบราชการแบบที่เราเข้าใจ การพูดคุยกับท้องถิ่นจึงเป็นการแลกเปลี่ยนกันตามธรรมดา ไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แกนนำคณะก้าวหน้า ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ จะเข้าข่ายเป็นการครอบงำพรรคหรือไม่ว่า ตนคิดว่าถ้าจะบอกว่า เป็นการครอบงำพรรคต้องมีหลักฐาน และข้อเท็จจริงมากกว่าที่ปรากฏตามข่าว นายปิยบุตร เป็นคนหนึ่งที่ชอบวิจารณ์พรรคก้าวไกลมาก เราต้องบอกอย่างตรงไปตรงมา ว่าเราและนายปิยุบตรไม่ได้มีความเห็นตรงกันทุกเรื่อง ซึ่งบทบาทของนายปิยบุตรคือ ประชาชนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่เขายังมีสิทธิ์เลือกตั้งและมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์

การจะมาบอกว่า นายปิยบุตรครอบงำพรรค ตนนึกไม่ออก เพราะมีประชาชนจำนวนมากวิจารณ์พรรคก้าวไกล เช่นกัน จะเรียกการกระทำของนายปิยบุตรว่า เป็นการครอบงำพรรค ตนคิดว่าไม่เป็นธรรม พร้อมยืนยันว่า บรรดานักร้องทั้งหลายที่ไปหยิบเอาเรื่องต่างๆ มาใช้ในการร้อง เจตนาของเขามีแค่เรื่องเดียวคือ ต้องการให้พรรคก้าวไกล ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลและเตะตัดขานายพิธา ไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาไม่เป็นความจริง และเรามีการเตรียมการอยู่เป็นระยะ ถ้าเราโดนร้องไม่ว่าเรื่องอะไร เราพร้อมที่จะต่อสู้ตามกฎหมาย รวมไปถึงการดำเนินคดีในส่วนที่ใส่ร้าย และนำเรื่องเท็จไปร้อง

เมื่อถามถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหมมีการปรับลดกำลังพล ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เป็นการลอกการบ้านนโยบายพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้มองว่า เป็นการลอกการบ้าน เราไม่ได้หวงอะไร การที่หลายฝ่ายออกมาเตรียมความพร้อมเป็นเรื่องที่น่ายินดี ต้องขอบคุณที่กลาโหม มีทิศทางไปเช่นนั้น

ตนเชื่อว่าเราสามารถทำงานร่วมกันได้ โดยตั้งเป้าหมายในการปฏิรูปกองทัพให้มีคุณภาพ และมีศักยภาพที่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีที่กลาโหมปรับตัว อย่างไรก็ตามเรายังมีเรื่องที่ต้องดำเนินการอีกมาก ทั้งในเรื่องการเกณฑ์ทหาร ที่จะเปลี่ยนไปเป็นการสมัครใจ ในเรื่องของการปรับลดกำลังพล นี่เป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกันทำ เชื่อว่าเราน่าจะมีทิศทางที่ใกล้กันมากขึ้น

logoline