
11 พฤษภาคม 2566 โค้งสุดท้ายแล้ว สำหรับการ เลือกตั้งทั่วไป 2566 ที่อีกไม่กี่วัน ก็จะถึงการชี้ชะตา บรรดานักเลือกตั้งทั้งหลายที่ "คูหาเลือกตั้ง" โดยหนึ่งในพื้นที่ ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษอีกแห่งคือ "สนามเลือกตั้งชัยนาท เขต 1" พื้นที่ของ "นายอนุชา นาคาศัย" ที่ครั้งนี้ย้ายสังกัดมาอยู่กับ "ลุงตู่" รวมไทยสร้างชาติ มีทั้งกระสุน และบารมี คับชัยนาท มาตลอดสิบกว่าปี น่าจะนอนมาแบบสบาย ๆ ทุกสมัย
แต่ครั้งนี้ กลับต้องมีการลงพื้นที่ด้วยตัวเอง เพราะมีหน้าผู้สมัครหน้าใหม่ แต่น่าจับตา อย่าง ผู้สมัคร เบอร์ 4 นายโอฬาร ตั้งวงศ์กิจ จากพรรคชาติพัฒนากล้า มาเป็นคู่แข่ง เป็นการแข่งกันระหว่าง คนเก่าที่มีความเก๋าในพื้นที่ กับคนใหม่ ที่มีความสด อยากเปลี่ยนแปลงจังหวัดชัยนาท
โดยทั้งคู่ต่างมีนโยบายที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว ซึ่งทําให้กองเชียร์สามารถเลือกตัดสินใจเลือกได้ไม่ยาก ส่วนผู้สมัครอื่นๆในเขต 1 ของชัยนาทถือว่า เป็นเรื่องของการรักษาฐานคะแนนของพรรคตัวเองไว้เสียมากกว่า
จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ว่า ทําไม ชัยนาท เขต 1 ถึงเหลือการแข่งขันกันเพียง ระหว่าง นายอนุชา เบอร์ 9 และนายโอฬาร เบอร์ 4 เพียง 2 คนเท่านั้น แหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลเปรียบเทียบว่า นายอนุชา ชูนโยบาย โคล้านครอบครัว สนับสนุนให้เกษตรกรเลี้ยงโค เพื่อสร้างรายได้ ซึ่งอาจจะไม่ค่อยได้เสียงฮือฮาตอบรับสักเท่าไหร่
เนื่องจากนโยบายนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เคยประกาศ มาก่อนแล้ว ตั้งแต่สมัยเมื่อยังอยู่กับบ้านเดิมไทยรักไทย เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังมั่นใจได้ในฐานเสียงนักการเมืองท้องถิ่น และหัวคะแนนของตัวเอง ที่มีมานาน
แต่ นายโอฬาร เบอร์ 4 ชู นโยบาย ชัยนาทต้องเปลี่ยน เน้นเรื่องพัฒนาจังหวัดชัยนาทในทุกมิติ ทั้งเรื่องการแก้ผังเมือง เพื่อเพิ่มการลงทุน เพิ่มการจ้างงาน เปลี่ยนชัยนาทเป็นเมืองท่องเที่ยว เพื่อดึงเงินเข้ามาสู่จังหวัดชัยนาท ซึ่งสร้างความฮือฮา กับกองเชียร์พอสมควร เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหม่ สําหรับชาวชัยนาท เนื่องจากที่ผ่านมา ชัยนาทถือว่าไม่เคยมีการพัฒนาในเรื่องเหล่านี้มาก่อนเลย ร่วมสิบกว่าปี จนกลายเป็นจังหวัดติดอันดับ 1 ใน 10 จังหวัดด้อยพัฒนาของประเทศไทย
ความได้เปรียบเสียเปรียบ ระหว่างผู้สมัครสองคนนี้ เบอร์ 9 ได้ความเก๋า เป็น ส .ส . หลายสมัย เป็นถึงระดับรัฐมนตรี อยู่พรรคใหญ่ อย่างรวมไทยสร้างชาติของ "ลุงตู่" รวมถึงกระสุนเพียบ และความเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ที่ฝังตัวมานาน มีเครือข่าย นักการเมืองท้องถิ่น ครอบคลุมทุกพื้นที่ ย่อมได้เปรียบ นายโอฬาร เบอร์ 4 ในด้านนี้
ส่วนเบอร์ 4 ค่อนข้างเสียเปรียบ เพราะความเป็นผู้สมัครพรรคเล็ก อย่างชาติพัฒนากล้า ที่ไม่ได้มีเครือข่ายหัวคะแนน และนักการเมืองท้องถิ่น แต่มีดีที่นโยบาย และความสดใหม่ แถมได้ลูกขยันลงพื้นที่ คลุกคลีกับชาวบ้านมานานกว่า 2 ปี จึงถือได้ว่า นายโอฬาร เป็นที่รู้จักมากกว่า ผู้สมัครจากพรรคอื่น ๆ ที่เพิ่งจะมาสมัคร เมื่อช่วงก่อนวันรับสมัครเลือกตั้งได้ไม่นาน
จึงทําให้เลือกตั้ง เขต 1 จังหวัดชัยนาทเป็นที่น่าจับตาว่า ครั้งนี้หน้าใหม่อย่าง นายโอฬาร เบอร์ 4 จะสามารถฝ่าแนวกระสุน และกําแพงอิทธิพลทางการเมือง ของนายอนุชา บ้านใหญ่แห่งชัยนาทได้หรือไม่ เพราะถ้าสามารถทําได้ ถือได้ว่าครั้งนี้ คนชัยนาท อยากเปลี่ยน เหมือนนโยบาย ชัยนาทต้องเปลี่ยน ที่ นายโอฬาร เบอร์ 4 นําเสนอเอาไว้ 14 พฤษภาคม นี้ มาลุ้นกันว่า คนชัยนาทจะเปลี่ยนชัยนาทกันได้จริงไหม