ขยี้ต่อ "อำนาจเจริญโมเดล" ชูวิทย์ ระบุ เดี๋ยวหาว่า โอละพ่อ
"ชูวิทย์" ขยี้ต่อ "อำนาจเจริญโมเดล" ล่าสุด โพสต์ข้อความพร้อมคลิป ระบุ เดี๋ยวจะหาว่า "โอละพ่อ" เพราะมันมีแต่ "อุแม่เจ้า"
8 พฤษภาคม 2566 จากกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เจ้าของฉายา "จอมแฉ" โพสต์คลิป "อำนาจเจริญโมเดล" มีชายปริศนาแฉกลุ่ม อสม.อำนาจเจริญ นำบัตรประชาชนไปลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ตามที่เป็นกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชายในคลิปดังกล่าวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอำนาเจริญแล้ว พร้อมแฉกลับว่า ถูกเบี้ยวค่าจ้าง จากที่ตกลงกันไว้ 5,000 บาท แต่จ่ายเพียงแค่ 1,000 บาทเท่านั้นฃ
ด้าน อสม.ที่ถูกกล่าวหาในคลิป วันนี้ได้เดินทางมาแจ้งความ เพื่อเอาผิดกับทางผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องดังกล่าว เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ขณะที่กลุ่ม อสม.ในหมู่บ้านเองก็เดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมกับปฏิเสธเรื่องการเป็นหัวคะแนนว่าไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ โพสต์คลิปวิดีโอ "อำนาจเจริญโมเดล" พร้อมข้อความระบุว่า..
พยานให้การถูกลวงเอาบัตรประชาชนไปทำการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ที่อำนาจเจริญ แจ้ง กกต. จังหวัดแล้วบอก “บ่มีหยัง” กกต. มีทำไมแบบนี้ ไม่เสาะหาความจริง ปล่อยให้มีการโกงเลือกตั้งล่วงหน้าทุกรูปแบบ พูดอย่างเดียว “ไม่มีอะไรผิดปกติ”
“อำนาจเจริญโมเดล” เป็นตัวอย่างครับ ผมบอกแล้วไง ประเทศไทยราคาถูก “ซื้อง่าย ขายคล่อง ปิดปากได้” เลิกเลือกตั้งแล้วมาจับสลากเลือกผู้แทนเถอะ หากเลือกกันแบบนี้
คลิปเริ่มแล้วอำนาจเจริญโมเดล
ล่าสุดเช้าวันนี้( 8 พ.ค.) นายชูวิทย์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิป ระบุว่า สัมภาษณ์ในหน่วยเลือกตั้ง เดี๋ยวจะหาว่า “โอละพ่อ” เพราะมันมีแต่ “อุแม่เจ้า” เสียมากกว่า ครั้งแรกให้การคือของจริง แต่โดนอุ้มไปให้กลับคำให้การใหม่พร้อมยัดเงินแกมขู่ ผู้สมัคร หัวคะแนน ล้วนมีอิทธิพลทั้งนั้น กกต. ไม่ยอมเก็บปกป้องพยาน
ใครให้การไปก็เปล่าประโยชน์ ท้ายสุดชาวบ้านตาสีตาสาใครจะสู้ได้?
แต่อันนี้เด็ด เพราะคุยกันเปิดเผยในเหตุการณ์จริงภายในหน่วยเลือกตั้งเลย ที่หน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนประทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ แสดงถึงการขนคนจาก ทับเมย เขต 1 มาลงคะแนนล่วงหน้าที่ เขต 2 มาคันละ 10 คน และมีสัญญาว่าจะให้เงินอีก 500 บาท เดี๋ยวจะหาว่า “จัดฉาก” อีก ต้องจับให้มั่นคั้นให้ตาย
ขนคนพาเหรดมา แต่ กกต. นอกจาก “เป็นใบ้“ แล้วยัง “ตาถั่ว” หลักฐานมีอีกมากครับ อยู่ที่ กกต. จะตื่นล้างหน้า มีสติสตังทำงานได้หรือยัง!?