
3 พฤษภาคม 2566 นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. พร้อมด้วย นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สาธิตการจัดสถานที่ออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการลงคะแนนแก่ผู้มาใช้สิทธิ ตลอดจนเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.)
ทั้งนี้ กกต. ได้สาธิตวิธีการออกเสียงลงคะแนนเพื่อความโปร่งใสในกระบวนการจัดการเลือกตั้ง โดยในสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งจะมีองค์ประกอบและวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญ ประกอบด้วย คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) จำนวน 9 คน ,เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำที่เลือกตั้ง (รปภ.) จำนวนอย่างน้อยที่เลือกตั้งละ 1 คน ,ผู้แทนพรรคการเมือง ,ป้ายปิดประกาศหน้าหน่วยเลือกตั้ง ,คูหาออกเสียงลงคะแนนอย่างน้อย 3 คูหา วางห่างกัน (อย่างน้อย 0.5 ม.) และควรวางห่างจากฝาผนัง หรือฝาทึบ ไม่น้อยกว่า 1 เมตร ระหว่างคูหาให้ใช้เชือกกั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการเดินอ้อมหลังผู้อื่น
หีบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ (หีบใส่บัตรแบบบัญชีรายชื่อ และหีบใส่บัตรแบบแบ่งเขต) ,ป้ายไวนิลแนะนำตัวผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ ติดหน้าหน่วยเลือกตั้ง และติดภายในสถานที่ลงคะแนนออกเสียงเลือกตั้ง
นอกจากนี้ กกต. ยังสาธิตการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการทางสายตาได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยใช้เป็นบัตรทาบ และมีอักษรเบล ที่ตรงกับบัตรเลือกตั้งจริงทุกประการ ให้ผู้พิการทางสายตาสามารถสัมผัสได้อย่างถูกต้องและชัดเจน รวมถึงผู้พิการที่เดินไม่ได้หรือผู้สูงอายุ ก็จะมีรถเข็นวีลแชร์ และเจ้าหน้าที่คอยให้บริการพาเข้าไปในคูหาเลือกตั้งด้วย แต่ยืนยันว่าการลงคะแนนจะเป็นความลับ เพราะผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องลงคะแนนด้วยตัวเองและหย่อนบัตรเอง เว้นแต่จะขอความช่วยเหลือจากกรรมการประจำหน่วย ซึ่งคนพิการสามารถร้องขอให้ญาติลงคะแนนแทนได้ โดยยื่นคำร้อง 5/6 ส่วนคนที่ไม่มีแขนหรือมือทั้งสองข้าง ไม่สามารถพิมพ์ลายนิ้วมือได้ ก็ต้องลงคำร้อง 5/6 ด้วยเช่นกัน
ส่วนผู้ที่ลงคะแนนนอกเขตเลือกตั้ง จะต้องมีการบรรจุบัตรเลือกตั้ง 2 ใบใส่ซองเพื่อส่งกลับไปยังเขตเลือกตั้งต้นทางของผู้มาใช้สิทธิ
อย่างไรก็ตาม กกต. ย้ำให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเฝ้าระวังผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งที่อาจจะกระทำผิดกฎหมายในคูหาเลือกตั้ง จึงได้มีการติดป้ายข้อห้ามกระทำไว้ในคูหา เช่น การห้ามถ่ายรูปบัตรที่กากบาทลงคะแนนไปแล้ว ซึ่งหากมีการกระทำเกิดขึ้นก็จะทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยลับ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย หรือกรณีการฉีกทำลายบัตรเลือกตั้งก็เป็นความผิดตามกฎหมายเช่นกัน ส่วนข้อกังวลที่ว่าผู้ใช้สิทธิไม่สามารถจำหมายเลขผู้สมัครได้ กรรมการประจำหน่วยจะปิดป้ายไวนิลหมายเลขพร้อมภาพผู้สมัครติดตั้งไว้ในที่เลือกตั้งให้เด่นชัดให้เป็นที่สังเกตก่อนทำการลงคะแนน
โดย นายแสวง เปิดเผยว่า หากจำผู้สมัครไม่ได้ หน้าหน่วยเลือกตั้งมีข้อมูลของผู้สมัครติดไว้ มั่นใจว่าจะไม่มีการกาผิดเจตจำนง เพราะบัตรทั้ง 2 ใบมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งจะลดจำนวนบัตรเสียในการกา พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนไปเลือกตั้ง ทั้งคนที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 และ 14 พ.ค. แต่ถ้าวันที่ 7 พ.ค. มีเหตุให้ไปเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ได้ ก็ต้องแจ้งเหตุก่อนหรือเลือกตั้ง 7 วัน
ส่วนการกู้รายชื่อผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ในช่วงระบบล่มนั่น นายแสวง กล่าวว่า สำนักทะเบียนแจ้งว่าประชาชนสามารถตรวจสอบจากแอปฯ สมาร์ทโหวต ได้ แต่หากชื่อของใครตกหล่น ซึ่งยอมรับว่ายังไม่ทราบจำนวน แต่ก็ยังสามารถไปใช้สิทธิวันที่ 14 พ.ค.ได้
ส่วนการหาเสียงในวันเลือกตั้งล่วงหน้านั้น พรรคการเมืองยังสามารถหาเสียงได้ปกติ แต่อย่ารบกวนสถานที่ที่มีการจัดเลือกตั้งล่วงหน้า ขณะที่โพล ต้องทำโดยสุจริต หากไม่สุจริตถือว่ามีความผิด ซึ่งก่อนวันเลือกตั้ง 7 วัน ไม่ให้มีการเปิดเผยผลโพล