svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ศรีสุวรรณ"จี้ กกต.ตรวจสอบ"ไลน์หลุด" นายก ท.ครอบงำพรรคการเมืองหรือไม่

02 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ไลน์หลุด" ศรีสุวรรณ จรรยา หอบหลักฐาน ยื่นกกต. ตรวจสอบปมการเผยแพร่ข้อความผ่านไลน์ โยงนักการเมือง ช่วงเลือกตั้ง 66 ครอบงำพรรคการเมืองอาจถึงข้้น"ยุบพรรค"หรือไม่

3 พฤษภาคม 2566 "นายศรีสุวรรณ จรรยา" เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย" เปิดเผยว่า จากกรณีที่"นายสมชาย แสวงการ" สมาชิกวุฒิสภาได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพข้อความแชทไลน์ พร้อมระบุข้อความว่า ไลน์หลุดครับนาย ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ยุบพรรค กกต.รู้หรือยัง หลักฐานไลน์หลุดชิ้นสำคัญนี้แค่ออเดิร์ฟการเมือง เห็นชัดถึงการสั่งการ ครอบงำพรรคการเมือง และการจ่ายเงินซื้อเสียง ผ่านกลุ่มบุคคล เพื่อเอาชนะเลือกตั้งของนาย ซึ่งกำลังจะทำให้พรรคการเมืองหนึ่งถึงกับแลนด์ไถลเข้าสู่การอาจถูกยุบพรรคได้ในเร็ว ๆ นี้

"ผมจึงได้เดินทางมายื่นคำร้องชี้เบาะแสให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการตรวจสอบ ไต่สวน สอบสวน กรณีมีภาพข้อความแชทไลน์หลุดของบุคคลที่มีชื่อเดียวกันกับอดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่แดนไกล กับบุคคลที่อ้างว่าเป็นแกนนำเสื้อแดงซึ่งกำลังหาเสียงเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสาน โดยมีการโอนเงินล้านให้ไปทำกิจกรรมดึงคนเสื้อแดงที่แปรพักตร์กลับมา ซึ่งเข้าข่ายความผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่

กรณีดังกล่าว ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรนั้น ต้องให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบได้พิจารณาไต่สวน สอบสวน และเอาผิดตามกฎหมาย คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ซึ่งข้อความในไลน์ดังกล่าวที่ปรากฏข้อความและภาพ อาทิ (1) กราบเท้านาย ที่เคารพรักยิ่ง คนในพรรค : ได้นัดคุย 6 จังหวัด มีข้อสรุปคือโครงการชวนเสื้อแดงกลับบ้าน ให้ชนะแลนด์สไลด์ เป็นพรรคแกนนำตั้งรัฐบาล ให้นายกลับบ้านให้ได้ นาย:ใช้เงินเท่าไหร่ (2) 20 จังหวัด (24 กลุ่ม) จังหวัดละ 3 แสนบาทค่ะนาย แต่จะเป็นภารกิจจ่ายตามสภาพของแต่ละกลุ่ม นาย :ได้พิมพ์ตอบว่า 300,000 X 20 = 6,000,000 เยอะอยู่นะใครจะดูแล ส่งไปรวมทีเดียวหรือกระจาย และสุดท้ายได้พิมพ์ว่า “วันนี้ส่งให้ 1 ล้านก่อน” ฯลฯ

"ศรีสุวรรณ"จี้ กกต.ตรวจสอบ"ไลน์หลุด" นายก ท.ครอบงำพรรคการเมืองหรือไม่

กรณีดังกล่าว หากเป็นข้อเท็จจริง อาจถือได้ว่าว่าเป็นพฤติการณ์ที่จงใจฝ่าฝืนมาตรา 73(1) มาตรา 75 ประกอบมาตรา 158 ของพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร2561 ที่บัญญัติห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนน ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคํานวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด 

 

รวมทั้งห้ามมิให้ผู้ใดเรียกหรือรับทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้สมัครอื่นหรือ พรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้ง และทําให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ซึ่งมีโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี รวมทั้งอาจนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้ด้วย

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรนั้นต้องให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบได้พิจารณาไต่สวน สอบสวน และเอาผิดตามกฎหมาย วันนี้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงได้นำความพร้อมพยานหลักฐานมาร้องเรียนชี้เบาะแสให้ กกต. ดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ต่อไป นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด

อนึ่ง เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566  "นายสมชาย แสวงการ" สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสข้อความพร้อมเอกสารหลักฐานซึ่งเป็นข้อความผ่านทางไลน์ ของนักการเมืองในพื้นที่ต่างจังหวัด สนทนาถึงการใช้จ่ายเงินในช่วงหาเสียง"เลือกตั้ง 66"

เอกสาร ที่นายสมชาย แสวงการ นำมาโพสต์ พร้อมเรียกร้องให้กกต.เร่งเข้าไปตรวจสอบ

"นายสมชาย"  โพสต์ข้อความไว้ดังนี้  หลักฐานไลน์หลุดชิ้นสำคัญนี้แค่ออเดิร์ฟการเมืองเห็นชัดถึงการสั่งการ ครอบงำพรคการเมือง และการจ่ายเงินซื้อเสียง ผ่านกลุ่มบุคคล เพื่อเอาชนะเลือกตั้งของนาย…ซึ่งกำลังจะทำให้พรรคการเมืองหนึ่งถึงกับแลนด์ไถลเข้าสู่การอาจถูกยุบพรรคได้ในเร็วๆนี้

คณะกรรมการการเลือกตั้งมีหน้าที่และอำนาจต้องเร่งดำเนินการสอบสวนและหากพบการกระทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีตามพรบประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส และพรบประกอบรัฐธรรมนูญว่าพรรคการเมือง ที่ระบุไว้ชัดเจนครับ

@มาตรา ๗๓ ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนน ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

(๑) จัดทํา ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพ่ือจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคํานวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด……………

ความผิดตาม (๑) หรือ (๒) ให้ถือว่าเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้คณะกรรมการมีอํานาจส่งเรื่องให้สํานักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจได้

@มาตรา ๗๕ ห้ามมิให้ผู้ใดหรือพรรคการเมืองใดเรียกหรือรับทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด เพ่ือลงสมัครหรือส่งผู้สมัคร หรือไม่ลงสมัครหรือไม่ส่งผู้สมัครอันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้สมัครอื่นหรือ พรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้ง และทําให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม

@มาตรา ๑๕๘ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๓ (๑) หรือ (๒) มาตรา ๗๕ มาตรา ๗๖ หรือมาตรา ๙๔ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี

ในกรณีที่ศาลมีคําพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้กระทําความผิดตามมาตรา ๗๓ (๑) หรือ (๒) ให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนําจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากจํานวนเงินค่าปรับแก่ผู้แจ้งความนําจับ

ในกรณีที่พรรคการเมืองกระทําความผิดตามมาตรา ๗๕ หัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการ บริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั้นซึ่งรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทําความผิดต้องระวางโทษ ตามท่ีกําหนดไว้ในวรรคหนึ่ง และให้ศาลส่ังเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการ บริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั้น และให้ถือเป็นเหตุที่จะยุบพรรคการเมืองนั้นตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

@มาตรา ๙๒ เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น………………………………

(๔) มีเหตุอันจะต้องยุบพรรคการเมืองตามที่มีกฎหมายกําหนดเมื่อศาลรัฐธรรมนูญดําเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทําการ ตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น

 

logoline