svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ชัยวุฒิ" ชู "บิ๊กป้อม" เป็นนายกฯในโลกจริงไม่ใช่โลกออนไลน์

18 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ชัยวุฒิ" ชู"บิ๊กป้อม" เป็นนายกฯในโลกจริงไม่ใช่โลกออนไลน์ ย้ำชัด ประเทศชาติต้องมีทหารให้เพียงพอต่อสถานการณ์ในอนาคต จะยกเลิกเกณฑ์ทหารไม่ได้เด็ดขาด เหตุภัยคุกคามความมั่นคงยังมีอยู่

18 เมษายน 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ในทางการเมืองแต่ละพรรคสามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้ เช่นเดียวกันเราก็มีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพรรคการเมืองอื่น ตามระบอบประชาธิปไตยโดยเฉพาะนโยบายเรื่องการยกเลิกเกณฑ์ทหาร ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ เพราะอยากให้มีการเกณฑ์ทหารและพัฒนากองทัพ

เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติไว้ ซึ่งทุกวันนี้ก็มีนโยบายการสมัครใจอยู่แล้ว และต้องเพิ่มสวัสดิการของทหาร ให้ทหารที่สมัครเข้ามาใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ และเป็นกำลังสำรองของชาติด้วยที่อาจจะมีการคุกคามในอนาคตซึ่งก็จะกลับมาทำหน้าที่รับใช้ชาติกันได้

นอกจากเรื่องความมั่นคงยังมีเรื่องการดูแลประชาชนทั้งภัยธรรมชาติ ภัยแล้งก็จะมีทหารลงมาช่วยประชาชนอยู่โดยตลอด ซึ่งก็เป็นภารกิจสำคัญไม่อยากให้คิดนโยบาย ที่เอาใจประชาชนเกิดค่านิยมที่ผิดไม่เสียสละต่อแผ่นดิน ตนไม่อยากใช้คำว่า "ชังชาติ" คิดว่าเป็นค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง อยากให้มองกองทัพว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องช่วยกันสร้างกองทัพให้เข้มแข็ง เพราะนี่คือความมั่นคงของชาติที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้

ทั้งนี้ มองว่าการเกณฑ์ทหารต้องได้รับความสมัครใจมากกว่า ซึ่งเป็นแนวคิดของพรรคการเมืองอื่น ข้อเท็จจริงวันนี้มีแผนพัฒนากองทัพ มีการวางการใช้กำลังทหารซึ่งปัจจุบันมีการปรับลดจากประมาณ จาก 100,000 คนเหลือประมาณ 60,000 คน โดยมีการสมัครเข้ามาได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันคนที่สมัครเข้ามาไม่เพียงพอจึงต้องมีระบบการเกณฑ์ทหาร

ซึ่งในอนาคตไม่รู้ว่าต้องเพิ่มหรือลดจำนวนทหารก็อยู่ที่สถานการณ์ความมั่นคง อยากให้มองเรื่องนี้เป็นความมั่นคงของชาติเป็นความจำเป็นที่ทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพและเข้มแข็ง เพราะตนเชื่อว่าภัยคุกคามยังคงมีอยู่ อย่างชายแดนพม่ามีการรบกัน ก็มีทหารชายแดนที่ช่วยยันเอาไว้อยู่ บางเรื่องที่นักการเมืองไม่รู้แต่ฝ่ายความมั่นคงรู้เราควรที่จะรับฟังและคุยกันด้วยเหตุด้วยผล

สำหรับผลสำรวจของสวนดุสิตโพธิ์ที่ยกให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นอันดับ 1 ในเรื่องของการก้าวข้ามความขัดแย้ง นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นนโยบายของหลักของพรรคอยู่แล้วพลเอกประวิตรมีแนวคิดและแนวทางการทำงานที่ชัดเจนว่าอยากประนีประนอมและพูดคุยกับทุกฝ่ายเพราะทุกวันนี้สังคมไทยมีความขัดแย้งทางการเมืองสุดโต่ง มีทั้งซ้ายจัด ขวาจัด บางคนก็อยากเปลี่ยนประเทศซึ่งเป็นการเปลี่ยนที่ไกลเกินไป คนไทยรับไม่ได้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในอนาคต

รวมถึงบางคนก็คิดแต่เรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัวมากเกินไป ทำให้สังคมอีกกลุ่มหนึ่งรับไม่ได้เหมือนกัน โดยความขัดแย้งต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นได้ในการเมืองถ้าการเลือกตั้งครั้งนี้ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และทำให้บ้านเมืองมีปัญหาได้ในอนาคต ซึ่งพล.อ.ประวิตร มองว่าอยากเป็นคนที่จะเข้ามาก้าวข้ามความขัดแย้งนี้อยากรับฟังทุกกลุ่มทุกฝ่ายประสานให้ทุกคนทำงานร่วมกันให้ได้ที่สำคัญเราคิดต่างกันได้แต่ต้องมาหาทางออกร่วมกัน

"ลุงป้อมจะเป็น Soft Power ที่ทำให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้ รักและสามัคคีกัน และเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติเราเดินหน้าไปได้ประชาชนก็จะอยู่ดีกินดีก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อก้าวข้ามความยากจน" นายชัยวุฒิ กล่าว

สำหรับผลสำรวจอื่น ๆ ที่พล.อ.ประวิตร ไม่ติดโพลเป็นแค่คนกลุ่มหนึ่ง แต่ในผลสำรวจที่เราทำ พล.อ.ประวิตร มีคะแนนนิยมพอสมควร คนที่เข้าใจแนวทางของพรรคมีเยอะ คนที่ชอบนโยบายของพรรคก็มีมาก เพียงแต่คนเหล่านี้ไม่ได้ตอบ ไม่ได้แสดงความเห็นในโพล บางโพลเป็นโพลออนไลน์ แฟนคลับบางส่วนก็ไม่ได้เข้าร่วมความคิดเห็น ซึ่งทำให้คะแนนนิยมในการทำโพลอาจจะไม่ดี แต่โพลในโลกความเป็นจริงเป็นนายกรัฐมนตรี

logoline