"เพื่อชาติ"ดันการศึกษานอกกรอบพัฒนาเยาวชนสู่รากฐานสำคัญประเทศ

17 เมษายน 2566 "น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช" หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมทีมกรรมบริหารพรรค ประกอบด้วย นพ.วิรัช ตวงจารุวินัย รองหัวหน้าพรรค นายมูฮัมหมัด นอร์แมน กานตี้ รองโฆษกพรรค นายภูวนัย มลิชู ทีมที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และ "น.ส.ศณิศา จิรเสวีนุประพันธ์" ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เบอร์ 9 เขต 4 คลองเตย-วัฒนา ร่วมทำกิจกรรม "AbstractArt" หรือ ศิลปะนามธรรม ณ สตูดิโอ ART101 เพื่อผลักดันนโยบายการศึกษาเด็กไทย มาใช้กับเด็กๆเขตคลองเตย-วัฒนา

โดย น.ส.ปวิศรัฐฐ์ กล่าวว่า วันนี้ (17เม.ย.) พรรคเพื่อชาติหยิบยกนโยบายเกี่ยวกับการศึกษามานำเสนอเพราะการศึกษาถือเป็นรากฐานของเด็กและเยาวชน ที่ควรได้รับการวางรากฐานตั้งแต่แรกเกิด คนไทยทุกคนต้องได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียมกัน ทั้งในเรื่องคุณภาพการศึกษา การใช้ชีวิตในสถานศึกษา รวมถึง ผลักดันความสามารถและความชอบที่ต่างกันออกไปในเด็กแต่ละคนด้วย

"วันนี้เด็กๆหลายคน ได้เข้าใจคำว่าการศึกษานอกกรอบมากขึ้น ซึ่งนั่นก็คือ ไม่มีอะไรตายตัว ศิลปะไม่จำเป็นจะต้องวัดได้เพียงแค่จากภาพวาดที่เหมือนต้นฉบับที่สุด แต่หากเป็นการที่เราสามารถนำความชอบ ความรู้สึกของเรา ใส่ไปในผลงานของเราต่างหาก พรรคเพื่อชาติ มุ่งเน้นเรื่องการศึกษาที่ดี และมีประโยชน์กับชาวไทยเป็นอันดับหนึ่ง เพราะหากการศึกษาของเด็กไทยแข็งแรง มีพื้นฐานที่ดีและมั่นคง เศรษฐกิจ การเมือง การท่องเที่ยว หรือแม้แต่ ปัญหาบ้านเมือง ก็จะดีขึ้นตามไปอย่างแน่นอน" น.ส.ปวิศรัฐฐ์ กล่าว

ด้าน น.ส.ศณิศา กล่าวว่า วันนี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กๆ โดยนำนโยบายการศึกษาของพรรค มาพัฒนากับเยาวชนเขตคลองเตย-วัฒนา ซึ่งการศึกษาไม่ได้มีกฏเกณฑ์ตายตัว และทุกวันนี้เกรดไม่สามารถใช้วัดความสามารถเด็กได้ เนื่องจากวิธีการสอน การให้คะแนน และการให้เกรดของแต่ละโรงเรียนต่างกัน

"หากเรามุ่งเน้นการเรียนการสอนให้พัฒนา และหาความชอบความถนัดของเด็ก เราจะสามารถสร้างเด็กไทยให้เก่งเทียบเท่านานาประเทศได้" น.ส.ศณิศา กล่าว

นอกจากนี้ หากเยาวชนรู้และเข้าใจความชอบความถนัดของตนเอง และพัฒนาให้เก่งจนเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ ประเทศไทยก็จะมีบุคคลากรที่เก่ง มากความสามารถ สร้างชื่อเสียงและคุณงามความดีให้แก่ประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นการศึกษาของประเทศไทย จะสามารถดึงดูดให้ชาวต่างชาติอยากเข้ามาเรียน ซึ่งนั้นก็จะเป็นผลดีกับการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจไทย