svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"มดดำ" ขอคนวิจารณ์ นโยบาย "เงินดิจิทัล" ใจเย็น ศึกษาก่อน

"มดดำ" ขอคนวิจารณ์ นโยบาย "เงินดิจิทัล" เพื่อไทย ใจเย็นก่อน อยากให้ศึกษาดีๆ มองจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ชี้อาจดีเหมือน "30 บาทรักษาทุกโรค" ตอนแรกถูกต่อว่าเหมือนกัน แต่วันหนึ่งก็ยอมรับ

13 เมษายน 2566 นายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ ภายหลังร่วมงานทำบุญรวมญาติและบำเพ็ญอุทิศกุศลพระภิกษุมรณภาพ ที่วัดพระพิเรนท์ โดยกล่าวถึงโอกาสในการช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้ง ว่า จริงๆแล้วพรรคเพื่อไทยก็เหมือนครอบครัวตน เพราะนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. พรรคเพื่อไทย ก็เปรียบเสมือนแม่ตน และหลายคนในพรรคก็เปรียบเหมือนพี่น้อง จนวันนี้ตนมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเพื่อไทย และก็เป็นมานานแล้ว

"มดดำ" ขอคนวิจารณ์ นโยบาย "เงินดิจิทัล" ใจเย็น ศึกษาก่อน

ส่วนโอกาสก้าวสู่ถนนการเมืองจะมีหรือไม่ นายคชาภา กล่าวว่า ไม่มี โอกาสยัง 0.00 % และยืนยันว่า วันนี้ก็ยังไม่มีความสนใจที่จะเล่นการเมือง แต่ตนมองว่า นี่เป็นเหมือนกิจกรรมครอบครัว และนางพวงเพ็ชร ก็เป็นคนพานายสุชาติ ตันเจริญ บิดาของตนกลับมาพรรคเพื่อไทย ส่วนจะมีโอกาสมาช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงบ่อยขึ้นหรือไม่ ขณะนี้ทางพรรคได้ทำเรื่องไปยัง กกต. เพราะตนยังอยู่ในสถานะดารา พิธีกร หากจะมาหาเสียงเต็มตัวคงไม่ใช่ เพราะด้วยเนื้องาน ก็ยังคงต้องสัมภาษณ์บุคคลทางการเมืองอีกหลายคน

"มดดำ" ขอคนวิจารณ์ นโยบาย "เงินดิจิทัล" ใจเย็น ศึกษาก่อน

ส่วนที่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยถูกวิจารณ์นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายคชาภา กล่าวว่า นโยบายนี้ที่เป็นเงินในอนาคต ตนอยากให้ทุกคนศึกษากันดีๆ ก่อน ที่กำลังตำหนิในวันนี้ขอให้ใจเย็นก่อน ซึ่งถ้าเกิดขึ้นได้จริงจะเป็นผลดีต่อส่วนรวม

ส่วนพรรคเองก็ต้องไปอธิบายว่า จะเอาเงินจากส่วนไหนมาให้ แต่มองว่าถ้าเกิดขึ้นจริงก็จะทำให้เกิดการใช้สอยในทุกพื้นที่ และจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ พร้อมยกตัวอย่างโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคในอดีต ที่ออกมาตอนแรกก็โดนด่า แต่วันนึงเมื่อเป็นประโยชน์ ทุกคนก็ยอมรับได้ โครงการเงินดิจิทัลก็เช่นกัน วันหนึ่งที่คนไทยเข้าใจ มันก็อาจเป็นประโยชน์ก็ได้ แต่ตอนนี้ยังเป็นแค่นโยบาย รอให้พรรคเพื่อไทยได้อธิบายก่อน

เมื่อถามว่าในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ถ้าเลือกพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค คนไทยจะได้อะไร นายคชาภา กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่ร่วมเวทีกรุงเทพฯ อยากให้มองว่า วันนี้เราเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยแล้ว ดังนั้นวันนี้อยากให้ทุกคนคิดว่า ไม่อยากให้เอาเงินเก็บทั้งหมดที่มี หมดไปกับค่ารักษาพยาบาล จึงอยากเห็นว่าโครงการ 30 บาทนั้นทำได้จริง ที่ไม่ต้องทำให้คนทุกอาชีพล้มละลายเพราะการรักษา จึงอยากให้โครงการ 30 บาทพลัส หรือบัตรทองพลัส เกิดขึ้นจริง