svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

วงเสวนา"สถาบันพระปกเกล้า" ผลักดันให้มีส.ส.หญิงในสภาเพิ่มมากขึ้น

14 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วงเสวนา"สังคมดี-การเมืองดี ต้องมีสตรีร่วมทาง" ผลักดันให้มีส.ส.หญิงในสภาเพิ่มมากขึ้น ด้าน พรรคการเมืองต่างเสนอนโยบายเด็ก สตรี LGBT ผู้พิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ ให้ได้รับความเท่าเทียมเสมอภาค

14 มีนาคม 2566 ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ในเวทีเสวนาประชาหารือ "สังคมดี-การเมืองดี ต้องมีสตรีร่วมทาง" นางถวิลวดี บุรีกุล รองเลขาธิการ สถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้าได้พยายามส่งเสริมประชาธิปไตย แต่ยังเป็นประชาธิปไตยไม่ได้ เพราะยังขาดความเสมอภาค ธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้าจึงเริ่มหันมาสนใจในการศึกษาวิจัยเรื่องการเสมอภาคระหว่างเพศผลักดันสิ่งดี ๆ ให้เป็นวาระแห่งชาติ และการคำนึงถึงความเสมอภาคในรัฐธรรมนูญ

วงเสวนา"สถาบันพระปกเกล้า" ผลักดันให้มีส.ส.หญิงในสภาเพิ่มมากขึ้น

โดยสถาบันพระปกเกล้ามีการศึกษาค่านิยมของแต่ละเพศ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่แล้วผู้หญิงไปเลือกตั้งมากกว่าผู้ชาย และมีผู้สมัคร ส.ส.ผู้หญิงเยอะ แค่ผู้สมัครส.ส.ผู้หญิงได้เป็นส.ส.น้อยกว่าผู้ชาย ซึ่งคนที่เลือกผู้สมัครผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ในอนาคตถ้าเราเตรียมความพร้อมก็มีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มช่วงวัยในการเลือกผู้สมัคร ส.ส.หญิง

วงเสวนา"สถาบันพระปกเกล้า" ผลักดันให้มีส.ส.หญิงในสภาเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ การเลือกผู้สมัครส.ส.หญิง จะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องพรรค และผลงานในอดีต ผู้สมัครส.ส.หญิงที่ลงสมัครในภาคเหนือจะเหนื่อยกว่าผู้หญิงที่ลงสมัครในภาคอีสาน เพราะในภาคเหนือจะเลือกคนที่ชอบ และทำงาน ส่วนภาคอีสานให้โอกาสผู้สมัครผู้หญิงมากกว่า

"สถาบันพระปกเกล้าพยายามจะผลักดันเพื่อให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยเพศสภาวะ ซึ่งเป็นการใส่ใจค่านิยมที่แตกต่าง เคารพสิทธิ์ ให้โอกาสและคำนึงถึงความสามารถของคนที่มีความแตกต่าง เพื่อให้เกิดความเสมอภาคและได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง" นางถวิลวดี ระบุ
 
นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองหญิงจากแต่ละพรรคการเมืองร่วมแสดง นโยบายเกี่ยวกับเด็ก สตรี ผู้พิการ ผู้มีหลากหลายทางเพศ ผู้สูงอายุ และกลุ่มชาติพันธุ์ 

วงเสวนา"สถาบันพระปกเกล้า" ผลักดันให้มีส.ส.หญิงในสภาเพิ่มมากขึ้น

โดยน.ส.พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคผลักดันสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า เช่น 1,200 บาทถ้วนหน้าเด็กเล็ก เงินสำหรับผู้พิการ 3,000 บาท เงินสำหรับผู้สูงอายุ 3,000 บาท ,ผลักดันสภาเยาวชนส่งกฎหมายร่างกฎหมายขึ้นสู่สำนักงานเลขาธิการสภาได้ทันที ,พ.ร.บ. ชาติพันธุ์เราเคยส่งเข้าสภาแล้วด้วย ส่วนผู้พิการ จะบังคับให้รัฐจ้างงาน 20,000 คนต่อปีและสวัสดิการคนพิการเข้าใจว่าไม่พอเพียง ผู้พิการไม่ได้ต้องการแค่เงินแต่ต้องการสิทธิ์การทำงานให้เท่าเทียมกับคนอื่น ส่วนความเท่าเทียมระหว่างเพศ เราก็มีนโยบายนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ด้าน น.ส.ยศยา ชิยาปภารักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า จะสร้าง 5 แสนตำแหน่ง ของผู้สูงอายุวัยที่ยังต้องการทำงาน , 50,000 บาทมอบกับผู้พิการกับคนชราเบิกตามจริง , สำหรับความหลากหลายทางเพศมีนโยบายสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+

ส่วนนโยบายเด็กมีการสนับสนุนเด็กให้พูดได้ 3 ภาษา ทั้งไทย อังกฤษ จีน ,มอบทุนสร้างสรรค์ 1 ล้านบาทสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ทุกวุฒิ ที่มีโครงการริเริ่มสร้างสรรค์ ยืนยันสนับสนุนคนทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นทั่วทั้งประเทศ

วงเสวนา"สถาบันพระปกเกล้า" ผลักดันให้มีส.ส.หญิงในสภาเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ น.ส.ศิริภา อินทรวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ เน้นสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ให้มั่นใจว่าทุกคนจะมีความมั่นคง มีระบบการศึกษาที่ทันสมัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตลอดจนแผนการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน โดยนโยบายที่ตอบโจทย์โดยตรง คือนโยบายสนับสนุนชมรมผู้สูงอายุจำนวน 30,000 บาทต่อชมรม ,ที่ผ่านมาพรรคเคยเสนอกฎหมายคู่ชีวิตเข้าสภา ส่วนกลุ่มแรงงานมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสร้างเสริมคุณภาพชีวิตให้มีความมั่นคงทั้งสภาพแวดล้อมและในที่ทำงาน

ส่วน น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคเน้นการช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่เกิด จนแก่ มีสวัสดิการดูแลมารดาตั้งครรภ์ที่จะมีการดูแลทั้งแม่และลูก และให้สวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า การเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี สนับสนุนให้กลุ่มคนตัวเล็กหรือ SME สามารถเข้าถึงกองทุนต่างๆได้ หรือกองทุนเพื่อคนตัวเล็ก และนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท,

วงเสวนา"สถาบันพระปกเกล้า" ผลักดันให้มีส.ส.หญิงในสภาเพิ่มมากขึ้น

นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา สสกทมพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ด้วยสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้ นโยบายที่ทุกคนพูดมาสามารถเกิดขึ้นได้จริงแต่การที่จะทำต้องใช้งบประมาณมากมายซึ่งค่อนข้างยากเพราะประเทศเป็นหนี้มหาศาล จึงมองว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยมีอยู่แล้วและสามารถทำได้เลยขณะนี้คือกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีซึ่งก่อตั้งมาเพื่อที่จะให้ผู้หญิงและองค์กรต่างๆสามารถใช้ได้เลย ทั้งกองทุนหมุนเวียนและกองทุนเงินกู้

สำหรับ นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค กล่าวว่า พรรคจะให้เงินอุดหนุนทุกกลุ่มเปราะบางอย่างเหมาะสมตามสภาวะเศรษฐกิจ เด็กเล็ก 3,000 บาทผู้สูงอายุ 3,000 บาทและผู้พิการ 3,000 บาท จะมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอย่างทั่วถึง สำหรับคนชาติพันธุ์ก็มีกฎหมายขอสำหรับกลุ่มชาติพันธุ์เฉพาะเพื่อเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้

ส่วนผู้ใช้แรงงานเราจะผลักดันแรงงานคือลูกจ้างในสถานประกอบการในส่วนราชการและงานบ้านเข้ามาตรา 33 หรือประกันสังคม ส่วนผู้ติดยาเสพติดเราจะผลิตจากแผนไทยมารักษา และจัดให้เพิ่มกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ให้เฉลี่ยหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท พรรคมองว่าควรแก้ปัญหาสังคมที่ต้นเหตุคือความยากจน และความด้อยโอกาสต่างๆ ด้วยมาตรการที่ได้กำหนดเป็นนโยบายที่ชัดเจน

ด้าน น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า พร้อมผลักดันบูรณาการให้สตรีอยู่ในทุกกลุ่มงาน , นโยบายน้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูก , ต้องการให้ยาเสพติดเป็น0 ,เรียนฟรีจบปริญญาตรี ,เบี้ยผู้พิการ 3,000 บาท , นโยบายจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชน

logoline