svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นายกฯ ชี้ ไม่ได้แข่งกับ เศรษฐา รับอ่านจม. ลุงป้อม ระบุ ยังเป็นพี่ผมเหมือนเดิม

09 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นายกฯ ชี้ ไม่ได้แข่งกับ "เศรษฐา" แค่อยากให้เห็นภาพใหญ่ของรัฐบาล รับอ่านจดหมาย "ลุงป้อม" แล้วระบุ "ยังเป็นพี่ผมเหมือนเดิม" ปรี๊ด "คนมองจ้องรัฐประหาร" ย้อมถาม ใครจะทำ ปัดทิ้งทวนงบประมาณ เปรย ยังเจ็บมือมากพร้อมใช้ใจลงพื้นที่

9 มีนาคม 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีที่หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า การอนุมัติงบต่างๆในช่วงนี้ เป็นการทิ้งทวนเพื่อหาเสียงการเลือกตั้ง ทั้งค่าป่วยการอสม. และค่าตอบแทนสมาชิกอบต. ว่า

เรื่องนี้มีมานานแล้ว และเป็นข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาล ที่เสนอเข้ามา ซึ่งเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณเป็นเรื่องของวันข้างหน้า ที่ต้องจัดหางบประมาณให้เพียงพอ โดยเป็นการใช้งบประมาณปี 2567 ที่ต้องมีการเสนอแผนการใช้จ่ายของงบประมาณปี 2567 ซึ่งจะต้องเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง เป็นไปตามหลักการ พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้ทำให้ใคร แต่เป็นการทำให้ประชาชนด้วยกัน ซึ่งต้องไปดูปริมาณงานของเขาและความเหน็ดเหนื่อย

ส่วนในฐานะนายกรัฐมนตรีมองบรรยากาศการหาเสียงขณะนี้เป็นอย่างไร พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนหาเสียงในสิ่งที่ตัวเองจะทำในวันข้างหน้า ตนไม่อยากไปเกี่ยวข้อง เพราะต่างคนต่างหาเสียง ในส่วนพรรรครวมไทยสร้างชาติ ตนเคยบอกไปแล้วว่าต้องระมัดระวัง จะทำให้เกิดภาระปัญหาในวันข้างหน้า เราแก้มานานแล้วหลายเรื่องดีขึ้น หากกลับไปที่เก่าทั้งหมดก็มีปัญหา

นายกฯ ชี้ ไม่ได้แข่งกับ เศรษฐา รับอ่านจม. ลุงป้อม ระบุ ยังเป็นพี่ผมเหมือนเดิม

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ได้อ่านจดหมายฉบับที่ 5 ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ใครจะเขียนก็เขียนได้ทั้งนั้น คิดเอาเองแล้วกัน

เมื่อถามย้ำว่า ข้อความของพลเอกประวิตร  หลายฉบับมีการกล่าวย้อนถึงการถึงเหตุการณ์รัฐประหาร นายกรัฐมนตรี มีท่าทีที่หงุดหงิด ก่อนที่จะกล่าวว่า " เขาทำรัฐประหารปีไหนมาแล้วหา ผมมายืนอยู่ตรงนี้ มายืนด้วยอะไร รัฐธรรมนูญ ระบบรัฐสภาฯไม่ใช่หรือ ช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ลองคิดดูสิว่า ถ้าไม่มีอะไรที่ทำให้ความขัดแย้งลดลง มันจะเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ เราจะยืนอยู่แบบนี้ได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย"

ผู้สื่อข่าวถามต่อ บรรยากาศบ้านเมืองในขณะนี้ จะไม่มีอะไรแบบนั้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เพียงแต่ว่าประชาชนทุกคนต้องคิด ว่ามันเคยเกิดขึ้นมาแล้วนะ ทุกอย่างจะพัฒนาได้ ประเทศนี้ต้องมีความสงบเรียบร้อยมีความสุข ไม่มีเรื่องความรุนแรงเกิดขึ้น อย่ากลับไปที่เดิมอีกเลย

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า จดหมายของพลเอกประวิตร มักเขียนย้อนถึงการกระทำรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ท่าน และเมื่อถามต่อว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี โอกาสการรัฐประหารจะเกิดขึ้นหรือไม่ หากอีกฝ่ายได้เป็นรัฐบาล 

พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า "ใครจะทำรัฐประหาร ใครจะทำผมถาม" และเมื่อถามย้ำอีกว่า จะเกิดรัฐประหารอีกหรือไม่  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ผมเคย พูดไปตั้งนานแล้วว่า ครั้งสุดท้ายแล้ว มันไม่ควรจะมีอะไรได้อีกแล้ว มันอยู่ที่พวกเรานั่นแหละ จะช่วยกันได้อย่างไร ถ้าขัดแย้งรุนแรงกัน ผมก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยอะไร"

นายกฯ ชี้ ไม่ได้แข่งกับ เศรษฐา รับอ่านจม. ลุงป้อม ระบุ ยังเป็นพี่ผมเหมือนเดิม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้ไปจะเป็นประชาธิปไตยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้อนถามกลับทันทีว่า "แล้ววันนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยหรือ" ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า หมายถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายกรัฐมนตรี จึงระบุว่า ก็ประชาธิปไตย ให้ทุกคนพยายามรักษากฎกติกา กฎหมายมีอยู่ทุกอย่าง

ส่วนที่มีการนำเหตุการณ์รัฐประหาร มาพูดจะเป็นการดิสเครดิตนายกรัฐมนตรี ในช่วงการเลือกตั้งหรือไม่และครั้งนี้นายกรัฐมนตรีก็ลงสนามการเมือง พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า "สื่อฯก็ถามแบบนี้อยู่แล้ว แน่นอนเขาต้องดิสเครดิตเราอยู่แล้ว ก็อธิบายชี้แจงไปหลายครั้งแล้วในสภาฯตนก็พูด ไปคิดเอาเองแล้วกัน"

เมื่อถามว่าวันนี้มองว่า พล.อ.ประวิตร เปลี่ยนไปหรือไม่ในทางการเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เขาก็เป็นพี่ผมเหมือนเดิม” เมื่อถามย้ำว่าเปลี่ยนไปในการสื่อสารทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า มีคนช่วยท่านมากอยู่แล้ว ส่วนจะมาจากคนรอบข้างหรือไม่ ตนไม่รู้ไม่ทราบ

เมื่อถามย้ำว่า จากข้อความในจดหมายเป็นตัวตนของพล.อ.ประวิตรใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า “ไม่ทราบๆ ไม่รู้”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ มองว่าพรรคการเมืองใดเป็นคู่แข่งตัวจริง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ทุกพรรคแข่งกันหมด

นายกฯ ชี้ ไม่ได้แข่งกับ เศรษฐา รับอ่านจม. ลุงป้อม ระบุ ยังเป็นพี่ผมเหมือนเดิม

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ชูจุดขายก้าวข้ามความขัดแย้ง นายกรัฐมนตรี ย้อนถามกลับทันทีว่า “แล้วมันขัดแย้งกันตรงไหน” โดยผู้สื่อข่าวอธิบายว่า “มีการแบ่งขั้วทางการเมือง” นายกรัฐมนตรี ถึงกับขึ้นเสียง พร้อมกับกล่าวว่า แบ่งขั้วอะไร ตนไม่เห็นมีขั้วอะไรสักขั้ว ก่อนที่จะถอนหายใจพร้อมข่มอารมณ์ว่า "เหอะ คิดกันไปเองหมดเน๊าะ" พร้อมกล่าวว่า

"สื่อมวลชนอย่าไปสร้างความสับสนมาก ไม่ใช่ใครพูดอะไรมาแล้วนำมาขยายหมด ก็มีแต่เรื่องนั่นแหละ ผมจะไม่พูดอะไรเรื่องพวกนี้ จบไปแล้ว ก็ให้มันจบไป ของเก่าคือของเก่า วันนี้ไปเดินหน้าประเทศกันเถอะ ท่ามกลางความสงบสุขเรียบร้อยของประเทศชาติไม่ดีกว่าหรือ ผมก็คิดแค่นี้แหละ ที่ผ่านมาผมก็คิดแบบนี้มาตลอด"

และกล่าวต่อ "ความขัดแย้งมันไม่มี มันขัดแย้งตรงไหน ไม่เห็นมีอะไรขัดแย้งกันทั้งสิ้น ความเห็นต่าง โอเค ผมรับได้ ความขัดแย้งมันต้องต่อยตีกัน หรือทำอะไรกันสักอย่าง ทุกคนทราบดีกันอยู่แล้ว หลายปีที่ผ่านมาอย่าให้มันเกิดขึ้นอีกเลย"

เมื่อถามว่า เหมือนนายกรัฐมนตรีอยู่ในกติกา แต่มีคนพยายามดึงออกมานอกกติกา นายกรัฐมนตรี ตอบทันทีว่า "เรื่องอะไรจะให้เขาลากออกไปล่ะ ผมก็อยู่ในกติกาของผม ของประชาธิปไตย วันนี้ต่างประเทศประเมินจัดลำดับเรื่องประชาธิปไตยของไทยดีขึ้น ขอให้ไปดูตรงนั้น โลกเขาลงคะแนนมาแล้ว ให้คะแนนสูงขึ้น แล้วบอกเราไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน"

ส่วนที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงสนามการเมือง ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปแข่งอะไรกับท่าน สิ่งที่ตนพูดถึง คือการให้มองภาพใหญ่ของรัฐบาลในขณะนี้ ทุกคนเก่งหมด หลายคนอาจมองว่าตนไม่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ ตนอยู่มาหลายปีแล้ว ก็ศึกษา มีคนเก่งๆช่วยงานเป็นร้อย

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินออกจากจุดสัมภาษณ์ไปยังต้นพุดพิชญา และก้มไปดมที่ดอกพุด พร้อมกับกล่าวถึงอาการเจ็บมือมาก ขณะนี้ยังให้ยาปฏิชีวนะทุกวัน ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าแล้วจะไปหาเสียงอย่างไร รัฐมนตรีจึงใช้มือขวาชี้ที่หน้าอกบอกข้างซ้ายเบาๆ พร้อมกับกล่าวว่า "ก็ไปด้วยใจ" และเดินเข้ายังตึกไทยคู่ฟ้าในทันที

นายกฯ ชี้ ไม่ได้แข่งกับ เศรษฐา รับอ่านจม. ลุงป้อม ระบุ ยังเป็นพี่ผมเหมือนเดิม

logoline