9 มีนาคม 2566 ที่ ดี อามาน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดสงขลา น.ส.วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) ประธานคณะทำงานวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมงานวันสตรีมุสลิมต้อนรับเดือนรอมฎอน จังหวัดสงขลา ซึ่งจัดโดยสมาคมสมาพันธ์สตรีมุสลิมประเทศไทย สมาคมสตรีมุสลิม 14 จังหวัดภาคใต้ ร่วมกับสมาคมสตรีจิตอาสาจังหวัดสงขลา
โดย น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้เป็นครั้งแรกในที่ได้ใส่ผ้าคลุมฮิญาบ จะบอกว่าเมื่อใส่แล้วรู้สึกตื่นเต้น และเวลามองเข้าไปตนเห็นว่าผ้าคลุมฮิญาบ หรือวัฒนธรรมการแต่งตัวของสตรีชาวมุสลิม เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงพลังศรัทธาอันแรงกล้าของสตรีชาวมุสลิมที่มีต่อพระอัลเลาะห์ และศาสนาอิสลาม
นอกจากนี้ ผ้าคลุมนี้ยังแสดงออกถึงความยำเกรงที่ทำให้สตรีไม่ต้องไปเผชิญกับสายตา หรือความไม่ปลอดภัยที่จะเข้ามาได้ แต่ยังสะท้อนให้เห็นอีกมุมว่าการที่เป็นสตรีเราไม่ได้นำเรือนร่างของความเป็นเพศสตรีออกไปสู่สายตาสาธารณะ แต่เราต้องการให้เขามองข้ามรูปลักษณ์ภายนอก แต่ให้เขามองเห็นศักยภาพของเราจริงๆ
น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า เมื่อวาน (8 มีนาคม) เป็นวันสตรีสากลโลก ซึ่งในปีนี้จะเห็นว่ากระแสความตื่นตัวของวันสตรีสากลมีมากกว่าปีก่อน ๆ และวันนี้บทบาทของสตรียุคใหม่มีมากยิ่งขึ้น ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม กระทั่งบทบาทต่อการเมือง ที่คนมักจะมองแต่ผู้ชาย และอย่างตนที่เคยผู้ตัดการทีมฟุตบอลทีมชาติชาย ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีผู้หญิงคุมฟุลบอลทีมชาติ
ดังนั้นสิ่งที่อยากจะบอก ตนเองเป็นคนที่ไม่ได้เชื่อในความที่ต้องออกมาเรียกร้องในความเป็นสิทธิสตรี เพราะว่าทุกครั้งที่เราออกมาพูดคำว่าสตรี นั่นหมายความว่าเรากำลังตอกย้ำเรื่องของการแบ่งแยกทางเพศ แต่การที่ตนไม่ได้ออกมาพูดเรื่องสตรีนั่นไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ให้ความสำคัญ ในทางกลับกันการเป็นเพศหญิง ตนมองว่าเรามีความภาคภูมิในมากกว่าเพศชายด้วยซ้ำ
เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้เลย เพศหญิงที่คนมักจะมองว่าเป็นเพศที่อ่อนแอ แต่ตนมองว่าเพศหญิงไม่ได้เป็นเพศที่อ่อนแอ แต่เป็นเพศที่เขามีความละเอียดอ่อนมากกว่าค่างหาก และสิ่งที่เขามองข้ามคือแท้จริงแล้วเป็นเพศที่มีความอดทนสูงยิางกว่าเพศชายด้วยซ้ำ
“เดียร์ไม่เคยที่จะรู้สึกว่าการที่เป็นเพศหญิงแล้วแปลว่าเราจะต้องเป็นที่อ่อนแอหรือด้อยกว่า แต่ในทางกลับกันเดียร์เชื่อในความเป็นคุณค่า ศักยภาพ ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ นั่นก็คือจะเป็นเพศชาย หรือเพศหญิงก็ตาม แท้จริงแล้วถ้าเรามองก้าวข้ามเรื่องเพศไป เดียร์มองว่าคุณค่าของเราอยู่บนความเป็นมนุษย์และอยู่บนความเท่าเทียมกัน” น.ส.วทันยา กล่าว