8 มีนาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจติดตามการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
พร้อมรับฟังแผนบรรเทาอุทกภัย-ความก้าวหน้าโครงการระบายน้ำหลาก ชัยนาท - ป่าสัก - อ่าวไทย และการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขตอำเภอท่าเรือ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนพระราม 6 และพบปะประชาชนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยเมื่อมาถึงวัดสะตือพุทธไสยาสน์ พล.อ.ประวิตร ได้กราบสักการะ และปิดทององค์พระพุทธไสยาสน์ (หลวงพ่อโต) เพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วเข้าไปนมัสการ ถวายดอกไม้ ปัจจัยแด่เจ้าอาวาสวัดสะตือฯ
ซึ่งเจ้าอาวาสได้มอบรูปหล่อพระพุทธไสยาสน์ และผ้ายันต์คาถาชินบัญชร ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โตให้แก่ พล.อ.ประวิตร ขณะเดียวกัน มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา พรรคพลังประชารัฐ รวมถึงนายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี พปชร. และนางสมทรง เจริญพันธุ์วรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา มาร่วมต้อนรับด้วย
จากนั้น พล.อ.ประวิตร รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเป็นการนำเสนอแผนบรรเทาอุทกภัยพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง และแผนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในพื้นที่ ซึ่งภาพรวมปัญหาส่วนใหญ่ของจังหวัด เป็นปัญหาน้ำท่วมซึ่งเกิดจากน้ำหลากของแม่น้ำเจ้าพระยา มากเกินขีดความสามารถในการระบายน้ำได้
ประกอบกับเป็นพื้นที่ลุ่มลำน้ำตื้นเขินและประสิทธิภาพการระบายน้ำต่ำ มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพการใช้ที่ดิน ซึ่งพบปัญหาใน 9 อำเภอ สำหรับแนวทางแก้ไขทางรัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือผ่านโครงการต่าง ๆ ได้แก่
การป้องกันน้ำท่วมชุมชนสำคัญ,การปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ,การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในลำน้ำสายหลัก,การพัฒนาอาคารบังคับน้ำและทางผันน้ำ,การจัดทำผังเมืองและผังระบายน้ำ และการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กในพื้นที่นอกเขตชลประทาน เป็นต้น ทั้งนี้ จังหวัดยังได้รับการสนับสนุนโครงการสำคัญ อีก 9 โครงการวงเงิน 54,434 ล้านบาท ซึ่งสามารถป้องกันน้ำท่วม ได้ 265,553 ไร่ และราษฎรได้รับประโยชน์ 26,002 ครัวเรือน
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนเดินทางมาติดตามเร่งรัดที่พระนครศรีอยุธยาหลายครั้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่มักประสบปัญหาน้ำหลากน้ำท่วม ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่มีความห่วงใยติดตามสั่งการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการให้การช่วยเหลือทันที พร้อมทั้งวางแผนแก้ไขปัญหาในระยะยาวให้เกิดความมั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไป
จึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ มอบสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเร่งรัดดำเนินการตามแผนงานบรรเทาอุทกภัยพื้นที่เจ้าพระยาตอนแรก 9 แผนโดยเฉพาะโครงการคลองระบายน้ำชัยนาทป่าสักอ่าวไทยและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่อำเภอท่าเรือที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนพระราม 6 สั่งการกรมชลประทานเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการระบายน้ำหลากบางบาล บางไทร ให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ ฝากอธิบดีกรมชลประทานด้วย
รวมถึงซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานในฤดูน้ำหลากที่จะมาถึงนี้ อย่าให้มีน้ำหลากน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกต่อไป พร้อมก่อสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมเขตโบราณสถาน สำหรับปัญหาอุทกภัย วาตภัย น้ำหลาก น้ำลด รัฐบาลจะเยียวยาให้ประชาชนจนได้รับค่าชดเชยกันตลอดไม่เคยว่างเว้น เพราะเราเห็นใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ระหว่างนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สอบถามกรมชลประทาน ว่าปีนี้สามารถทำนาได้หรือไม่ ซึ่งรองอธิบดีกรมชลประทานตอบว่า ทำได้ ทำให้ พล.อ.ประวิตร ประกาศกับประชาชนว่า โอเคทำนาได้ น้ำไม่ท่วมแล้ว จะพยายามทำให้น้ำไม่ท่วม ป้องกันไม่ให้น้ำท่วม ประชาชนดีใจต่างปรบมือเสียงดัง
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังให้คำมั่นสัญญาว่ารัฐบาลมีความตั้งใจทำงานหลายโครงการต้องใช้งบประมาณที่ตอนนี้กำลังทำงบประมาณโครงการต่างๆ และเตรียมงบประมาณปี 2567 ก็มีงบประมาณต้องทำให้ยั่งยืน ที่สำคัญรัฐบาลต้องการการสนับสนุนจากประชาชน
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้พบปะประชาชนที่มารอต้อนรับ โดยมีประชาชนตะโกนเป็นระยะว่า รักลุงป้อม , ลุงป้อมสู้ๆ บางส่วนนำดอกไม้มาให้ และยังมีประชาชนบางส่วนหอมแก้ม หอมมือ นอกจากนี้ ยังมีป้ายข้อความ อาทิ เคียงข้างลุงป้อม, ขอให้ลุงป้อมเป็นนายกฯ