svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"พปชร." จี้ "นิพนธ์" ขอขมาด่วน หลังบูลลี่"บิ๊กป้อม" เดินไม่ไหว (มีคลิป)

08 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“อันวาร์” จี้ “นิพนธ์ บุญญามณี” ขอขมา “บิ๊กป้อม” ซัด ปชป. ตกต่ำจนต้องบูลลี่คู่แข่ง เชื่อหลังคะแนนพรรคตกเป็นรอง

8 มีนาคม 2566 นายอันวาร์ สาและ อดีต ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ย้ายมาสังกัดพรรค พลังประชารัฐ กล่าวตำหนิ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีขึ้นเวทีปราศรัย จ.พัทลุง เมื่อ 4 มี.ค. 66 แล้วล้อเลียน ท่าทางการเดินของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า การที่นายนิพนธ์ พูดว่า “หัวหน้าพรรคหนึ่ง อยากจะเป็นนายกฯ แต่เดินก็เดินไม่ไหว” แล้วก็ทำท่าเดินเซ

อันวาร์ สาและ

ทั้งนี้ ถึงไม่เอ่ยชื่อก็เป็นที่ทราบดีว่าหมายถึง พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เป็นการเล่นการเมืองที่ล้าหลัง สมควรถูกประณาม ไม่คิดว่าผู้ใหญ่ระดับรองหัวหน้าพรรคเก่าแก่ จะยังหาเสียงด้วยการบูลลี่ ด้อยค่าคนอื่น

โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน การบูลลี่รูปร่าง หน้าตา บุคลิกลักษณะของคนอื่น เป็นเรื่องน่ารังเกียจ ไม่ใช่เฉพาะสังคมไทย แต่นานาชาติต่างต่อต้านคนที่มีพฤติกรรมดังกล่าว เพราะสะท้อนจิตใต้สำนึกของผู้นั้นว่าชอบดูถูกเหยียดหยามคนอื่นให้ อับอาย ยิ่งคนที่กล้าพูดบูลลี่ผู้อื่นต่อหน้าคนเป็นพัน ๆ โดยไม่ละอายใจก็ยิ่งสะท้อนตัวตน อย่างที่โบราณว่าสำเนียงส่อภาษากริยาส่อสกุล

"พปชร." จี้ "นิพนธ์" ขอขมาด่วน หลังบูลลี่"บิ๊กป้อม" เดินไม่ไหว (มีคลิป)

นายอันวาร์ ยอมรับว่า แม้ พล.อ.ประวิตร จะเดินไม่คล่องแคล่วเหมือนคนหนุ่มสาว แต่ก็ไม่ได้กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน ทุกคนต่างก็เห็นว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ทำหน้าที่รองนายกฯ ไม่เคยบกพร่อง เดินทางไปตรวจราชการทั่วประเทศ ตอนที่ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ ก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก ตรงกันข้ามกับคำพูดของนายนิพนธ์


ทั้งนี้ ตนอยู่พรรคประชาธิปัตย์มานาน เป็น ส.ส. ปัตตานี มา 4 สมัย ได้สัมผัสผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคมาหลายคน อีกทั้งตนก็เคยเสนอแนะและท้วงติงพรรคในหลายเรื่อง แต่ไม่เป็นผล จนมาวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างที่เห็น หรือว่าจะถึงยุคตกต่ำแล้วจริง ๆ ตามที่สื่อมวลชนและกระแสสังคมพากันวิจารณ์

ชัยชนะ เดชเดโช ขอขมาอธิบการบดี ม.ทักษิณ หลังปราศรัยพาดพิง

นอกจากนี้ยังมีกรณีของ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรค ประชาธิปัตย์ และยังเป็นรองเลขาธิการพรรค ปราศรัยดูแคลน นายพลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร หรือ ดร.บอย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พัทลุง พรรคพลังประชารัฐ ว่าจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทักษิณ ไม่ได้จบจากต่างประเทศเหมือนผู้สมัครพรรค ประชาธิปัตย์

ซึ่งคำพูดดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าละอายมาก เพราะมหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ประสาทวิชาความรู้แก่ลูกหลานชาวใต้ รวมทั้งเยาวชนจากภูมิภาคอื่นๆ  มาแล้วจำนวนมาก เพื่อเป็นกำลังสำคัญของชาติ แต่ยังดีที่นายชัยชนะ มีความสำนึกรู้ผิดชอบ รีบไปขอขมาผู้บริหารของสถาบันแล้ว ก็ถือว่าให้อภัยกันได้

อย่างไรก็ตาม ขอตั้งคำถามไปยัง นายนิพนธ์ ว่าจะสำนึกผิดเหมือนนายชัยชนะ แล้วเข้าไปขอขมา พล.อ.ประวิตร หรือไม่ ที่ผ่านมาเวลานายนิพนธ์ พบกับ พล.อ.ประวิตร ก็สวัสดี นอบน้อม หรือว่าแค่ทำไปตามมารยาท ไม่ได้เคารพกันด้วยใจจริง เมื่อทำผิดก็ไม่ คิดจะมาขอโทษ ถ้าเช่นสังคมจะได้รับรู้ไว้

นิพนธ์ บุญญามณี

"แม้ พล.อ.ประวิตร จะไม่ติดใจ แต่สมาชิก พรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะตนจะไม่ลืมเรื่องนี้แน่นอน แล้วถ้านายนิพนธ์ คิดว่า จะได้คะแนนจากการบูลลี่คนอื่น ก็คิดผิดแล้ว สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับคือ จะยิ่งสูญเสียคะแนนนิยม โดยเฉพาะจากกลุ่มคนหนุ่มสาว" นายอันวาร์ กล่าว

นายอันวาร์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมแกนนำพรรคประชาธิปัตย์จึงเปิดเกมแรง ใช้วิธีปราศรัยบูลลี่คนของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ หรือจะเป็นเพราะร้อนตัวรู้ว่าคะแนนนิยมเป็นรอง หวั่นว่าจะสูญเสียฐานที่มั่นในภาคใต้ จึงงัดกลยุทธ์ทุกอย่างมาใช้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงขอให้เอานโยบายมาสู้กันดีกว่า เพื่อให้ ประชาชนตัดสิน ใครเป็นผู้ชนะก็จะมีความสง่างาม ดีกว่าใช้การบูลลี่กัน

logoline