24 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดอบรมสัมมนาเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวปฏิบัติ กฎหมาย กฎระเบียบที่ปรับปรุงเปลี่ยนไปตามห้วงเวลาระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งกับสื่อมวลชนและเครือข่าย สนง.กกต. เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป พ.ศ.2566 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพ
โดยมี "นายแสวง บุญมี" เลขาธิการ กกต. เป็นประธานในพิธีดังกล่าว พร้อมระบุว่า ความร่วมมือของสื่อมวลชนและเครือข่ายประชาสัมพันธ์เป็นกลไกสำคัญ เพราะการจัดการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรมย่อมเกิดจากการที่ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญ และมีความเชื่อถือในการปฎิบัติงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ การสื่อสารประชาสัมพันธ์จึงจำเป็น เพื่อให้การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องไปสู่ประชาชนทั่วประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง รวดเร็ว และสามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้เป็นจำนวนมาก จึงต้องอาศัยสื่อมวลชนและภาคีเครือข่ายร่วมมือกัน เพื่อให้การสื่อสารประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งทุกระดับเป็นไปโดยทั่วถึง และหวังว่าทุกคนจะช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลการเลือกตั้งให้เกิดประสิทธิผลอย่างดีที่สุดเพื่อให้การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างสุจริต โปร่งใส และชอบด้วยกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสื่อทุกสื่อให้ความร่วมมือกับ สำนักงาน กกต.เป็นอย่างดี แต่ที่ลงข่าวไม่ตรง ส่วนมากเกิดจากคอลัมนิสต์ และคนที่พยายามเป็นสื่อในโซเชียล เพราะไม่ใช่ข่าว แต่เป็นความเห็น บางครั้งจึงไม่ตรงกับข่าวข้อเท็จจริง ซึ่งยืนยันว่าทุกความเห็นก็จะเป็นข้อคิดในการทำงานของ กกต. และยืนยัน กกต.ทำงานเพื่อประเทศไทย ให้ถูกกฎหมาย ไม่ได้คิดเพื่อให้ถูกใจใคร
"ผมขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ผ่านมาที่ให้ความร่วมมือกับสำนักงาน กกต.และให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ส่วนประชาชนจะมีความเห็นอย่างไรก็เป็นเรื่องสิทธิและเสรีภาพ ผมพูดกับทีมงานเสมอว่า ต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับของทุกคน เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นทางออกของประเทศ" นายแสวง กล่าว
โดยใช้หลักการ 4 ข้อ
1.การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม หมายถึง เราทำถูกต้อง
2.การเลือกตั้งสุจริตโปร่งใส
3.การเลือกตั้งที่มีประสิทธิภาพ บ่งบอกถึงความเรียบร้อย
4.การมีส่วนร่วมของประชาชน เพราะการเลือกตั้งเป็นเรื่องของทุกคน ถ้าทุกคนรู้กติกา จะไม่ถูกชักนำจากแรงจูงใจทางการเมือง
เลขาธิการ กกต. ระบุต่อว่า ซึ่งทั้ง 4 หลักการ จะแทรกอยู่ในกระบวนการทำงานของ กกต. ทุกขั้นตอน แต่วันเลือกตั้งจริง อาจจะไม่ถูกต้อง 100% เช่น ข้อการมีส่วนร่วมของประชาชน เพราะกรรมการประจำหน่วยเป็นชาวบ้าน ความผิดพลาด ความคลาดเคลื่อนอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ก็พยายามทำให้การเลือกตั้งมีประสิทธิภาพและเป็นไปด้วยความเรียบร้อยให้ได้
หากสำนักงาน กกต. รักษา 18 ชั่วโมงในวันเลือกตั้งไม่ได้ คำถามจะเกิดกับเราทันที และก็จะยืนอยู่ยาก จึงให้โจทย์กับสำนักงาน กกต.ในการรักษา 18 ชั่วโมงช่วงวันเลือกตั้งให้เป็นด้วยความเรียบร้อยให้ได้
นายแสวง กล่าวต่อว่า วันนี้ (24ก.พ.) ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่ได้ช้า ไม่ได้เร็ว แต่เป็นไปตามแผน ซึ่งก็ต้องดูพรรคการเมืองด้วย โดยเฉพาะการส่งผู้สมัครให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตอนนี้ กกต. มีเวลาตามกฎหมาย และมีเวลาให้พรรคการเมืองเท่ากัน ซึ่งยอมรับว่า กกต.อยากให้พรรคการเมืองแข็งขันเยอะๆ และมีความพร้อมเพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน
ขณะเดียวกัน กกต.ก็ต้องช่วยพรรคการเมืองให้ทำไพรมารีโหวต และส่งผู้สมัครได้อย่างเรียบร้อย แต่ต้องยอมรับว่า ในการทำไพรมารีโหวตครั้งนี้ยากขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว แต่จากภาพรวมยังไม่เห็นว่า มีพรรคการเมืองใดที่ไม่เรียบร้อย
ขณะเดียวกัน มั่นใจเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต.ทุกคน ที่วันนี้ได้เตรียมความพร้อมตามเงื่อนเวลาที่เกิดขึ้น แต่การเลือกตั้งจะเรียบร้อย และเป็นที่ยอมรับนั้น จะต้องได้รับความร่วมมือจากคนในชาติ รวมทั้งขอความร่วมมือพรรคการเมือง ให้แข็งขันกันโดยเคารพกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าผลน่าจะออกมาดี หากหวังแต่ชัยชนะ ผลก็จะแตกต่างออกไป ไม่ต้องร่วมมือกับ กกต. แต่ร่วมมือกับประเทศชาติ ยืนยัน กกต.ไม่ได้ตัดสินใจบนพื้นฐานทางการเมือง แต่ตัดสินใจบนพื้นฐานและประโยชน์ของประเทศชาติ