21 กุมภาพันธ์ 2566 "นายสมศักดิ์ เทพสุทิน" รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ "นายสมชัย ศรีสุทธิยากร" อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งข้อสังเกต ที่ กกต. ออกระเบียบว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ. 2566 ที่ปรับแก้เรื่องการยุบพรรคการเมือง จะถือเป็นการทำให้รวดเร็วเหมือนเป็นการติดเทอร์โบหรือไม่ เนื่องจากจะพรรคพลังประชารัฐ พึ่งมีประเด็นกลุ่มทุนจีนสีเทาบริจาคเงินให้พรรค ถือว่ามีนัยทางการเมืองหรือไม่ ว่า กกต. ถือเป็นหน่วยงานที่มีสิทธิ์ที่จะออกประกาศได้
ทั้งนี้ แต่การประกาศเดิมใช้ระยะเวลา 3 ปี 7 ปี แต่เมื่อมาใช้ 3-7 เดือน ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งส่วนตัวก็มองว่าอำนาจของ กกต.ที่จะฟังเสียงประชาชนหรือไม่ เพราะถ้าไม่ฟัง ก็จะเกิดการวิพากษ์วิจารณ์
เมื่อถามว่า ประกาศดังกล่าวนี้มีผลย้อนหลังทางพรรคพลังประชารัฐมีความกังวลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็มีผลกับทุกพรรคที่มีคดีความอยู่ แต่ก็มีความแตกต่างกันไป พร้อมย้ำว่า อดีตมีความล่าช้าแต่เมื่อมีการปรับให้มีความรวดเร็ว ก็จะทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่า ถูกต้องหรือไม่ และยังมองว่า ในการทำกฎหมาย ต้องทำประชาวิจารณ์หลายๆ รอบ
ส่วนที่สังคมมองว่าพรรคพลังประชารัฐ จะตกเป็นเหยื่อในการยุบพรรคเป็นพรรคแรก หลังออกประกาศนี้ เพราะมีประเด็นร้อนรับเงินบริจาคจากกลุ่มทุนจีนสีเทา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องถามยังฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชารัฐว่าเดือดร้อนขนาดไหนอย่างไร แต่ตนไม่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ พร้อมทั้งปฏิเสธว่าจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร
เมื่อถามว่า หวั่นหรือไม่เพราะช่วงนี้เป็นช่วงใกล้การเลือกตั้ง นายสมศักด์ กล่าวว่า ในชีวิตทางการเมืองมีประสบการณ์ยุบพรรคแล้วถึง 2 ครั้ง ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ดังนั้น มองว่าการยุบพรรคสามารถทำได้ง่ายเหมือนกัน ถ้าหากต้องการให้ยุบหรือมีพลังอะไรเข้ามา ซึ่งต้องดูว่าถ้าพรรคการเมืองมีพลังต่อต้านการยุบก็คงไม่ง่าย แต่ยอมรับการยุบพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่กลัวที่สุด ซึ่งก็ต้องมีเหตุแห่งปัญหา
อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวกลุ่มสามมิตรจะย้ายพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายของยุบสภา ว่า วันที่ 7 ก.พ. ถือว่าหมดเวลาที่จะย้ายพรรค แต่ยืนยัน ว่า "นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.อุตสาหกรรม ไปไหน ตนก็ไปด้วยเพราะฉะนั้นนักข่าว ก็ไม่ต้องมาถามตน นายสุริยะ ว่าอย่างไร ก็ว่าตามนั้น
เมื่อถามย้ำว่า เมื่อมีการยุบสภาแล้ว ก็มีช่วงเวลาที่สามารถจะย้ายพรรคได้อีก นายสมศักดิ์ ระบุว่า "ก็ไม่รู้สิ ไปเปิดทางให้เขา"
เมื่อถามย้ำว่า หากยุบสภาแล้วไม่เปลี่ยนใจใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ยังคงย้ำว่า "ไม่เปลี่ยนใจและ ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกับนายสุริยะ เพิ่มเติม ซึ่งให้เขาเป็นคนตัดสินใจ เพราะรู้จักกันมานาน 30 ปี"