2 กุมภาพันธ์ 2566 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ส.ส.ชัยนาท เขต 1 กล่าวถึงกรณีการแยกทางกับกลุ่มสามมิตร ว่า เป็นไปตามที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้พูดไว้ว่า งานด้านการเมือง อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยส่วนตัวได้ทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แล้วตนมีความสุข รวมไปถึงได้เห็นถึงความจริงใจในการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์
ส่วนกรณีที่กลุ่มสามมิตร แยกตัวกระจายออกไปอยู่สามพรรคการเมืองนั้น นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ตอนนี้นายสมศักดิ์ยังอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ แต่หลังจากนี้ตนเองก็ไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกันเชิงลึก เนื่องจากเป็นเรื่องบริบทการเมือง แต่ยังคงรักษาความเป็นพี่เป็นน้องและยังรักกัน มั่นคงเหมือนเดิม
ขณะที่ตนเองนั้นยังคงต้องทำหน้าที่ ส.ส. จ.ชัยนาทอยู่ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะไปเขียนใบสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติวันไหน แต่ตนเองพยายามที่จะทำงานในส่วนของหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบ เพราะได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ เป็นตัวแทนรัฐบาล ในการทำหน้าที่ประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
นายอนุชา ยังกล่าวอีกว่า ได้ตัดสินใจแล้ว ที่จะไปร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าไม่มีดีลเรื่องใดใดทั้งสิ้นกับการย้ายพรรค เนื่องจากตนเองทำงานการเมืองมานานทั้งในอดีตกล้าพูดเลยว่าไม่มีดีลทางการเมือง หรือเรื่องผลประโยชน์แม้แต่ครั้งเดียว ในชีวิตการเมืองของตนเองซึ่งตนใช้การทำงานอย่างเดียว เชื่อว่าสื่อมวลชนจะเห็นว่าตนเองเป็นคนไม่ชอบพูด ดังนั้นเรื่องต่อรองจึงไม่ต้องคุยแต่ถ้าหากสิ่งที่ได้พูดกับตนเองและรับปากไว้ไม่ทำตนเองจึงจะออกมาพูด
ส่วนเหตุผลที่ย้ายไปทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์นั้น นายอนุชา ย้ำว่า เพราะชื่นชอบถึงความตั้งใจจริงของนายกฯในการทำงาน ซึ่งรักทุกคนทำให้กับทุกคนไม่เช่นนั้นรัฐนาวาที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีอยู่หลายพรรค จะขับเคลื่อนมาจนครบวาระเช่นนี้ไม่ได้ หากไม่มีความจริงใจหรือเป็นผู้บริหารพอสมควร จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีภาวะผู้บริหารมีความสามารถในระดับหนึ่ง ที่สามารถนำรัฐนาวามาจนใกล้ยุบสภาและใกล้ครบกำหนดสภา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ สามารถที่จะอยู่จนครบเทอมได้ แต่จะเลือกวิธีไหนตนเองไม่สามารถที่จะพูดได้
นายอนุชา ยังปฏิเสธว่า ไม่ใช่การตัดสินใจ ระดับเซียนของกลุ่มสามมิตร ที่ตัดสินใจแยกพรรคกันอยู่ แต่เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งตนเองก็อยากทำงานกับสิ่งที่ตนเองทำแล้วมีความสุข เมื่อเป็นพี่ยอมเข้าใจว่าน้องคิดเช่นนี้ ก็ต้องจะสนับสนุนน้อง ไม่มีการพูดถึงในแง่ลบแม้แต่นิดเดียว
เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังเป็นที่เคารพนับถือไม่มีเปลี่ยนแปลง ในส่วนของการทำงานยังคงยึดม่านและเคารพ พล.อ.ประวิตร เพราะเป็นคนดีมีความสามารถ ส่วนการย้ายพรรคของตนเองนั้นได้แจ้งกับ พล.อ.ประวิตร บ้างแล้วหรือยัง นายอนุชา กล่าวว่า กึ่งแจ้งไปแล้วเนื่องจากยังเกรงใจ และย้ำว่าการแยกทางกับกลุ่มสามมิตรเป็นไปด้วยดี ความเป็นพี่น้อยยังเหมือนเดิม แต่การเมืองต้องยอมรับว่าบางสิ่งบางอย่างอยู่ที่การทำงานด้วย
ส่วนคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร บางคนอาจจะมาอยู่กับตนเองก็ได้หรืออยู่พรรคอื่นเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนในอนาคต โดยตนเองไม่สามารถที่จะไปพูดได้แล้ว แต่ต้องตัดสินใจโดยเร็วเพื่อที่จะเกิดทิศทางการเมืองให้ชัดเจน เพื่อกำหนดทิศทางการเมืองที่ตนเองสามารถที่จะคิดอ่านในอนาคตในการที่จะช่วยเหลือพรรครวมไทยสร้างชาติ และช่วย พล.อ.ประยุทธ์ ขับเคลื่อนงานต่อไป