เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
31 มกราคม 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่อุตตม สาวนายน , สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ที่ในอดีตนายสมศักดิ์ เคยร่วมกันขับไล่ออกจากพรรค ว่า อย่าใช้คำว่าลงชื่อขับไล่ เพราะตนไม่เคย ช่วงนั้นจำได้ว่า เป็นเรื่องของการเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ที่ต้องมีความเหมาะสมกับสถานการณ์
พร้อมยืนยันว่า ไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน เป็นเรื่องของการตัดสินใจของผู้ใหญ่ภายในพรรค และเป็นเรื่องของกระบวนการทางการเมือง ที่ผู้ใหญ่ในพรรคกำหนดทิศทาง แต่อย่างไรแล้วเราสามารถทำตัวให้เหมือนกับน้ำในแก้ว ที่มีน้ำแข็ง ต้องแทรกแซง และประสานให้เป็นเนื้อเดียวกันในทำงานด้วยกันให้ได้
ส่วนนายสนธิรัตน์ , นายอุตตม จะกลับมาพรรคจะดีขึ้นหรือมีความขัดแย้ง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีบุคลากรของพรรค มีผู้สมัคร และมีผู้ที่มีความรู้ในทิศทางทางการเมือง การบริหาร เข้ามาเสริมให้แน่นขึ้น ตนคิดว่าไม่แย่ไปกว่าเดิม คงต้องดีขึ้น
เมื่อถามว่า ทั้งสองคนจะสามารถทำงาน ร่วมกับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ ย้ำว่า ต้องทำตัวให้เหมือนน้ำ ที่สามารถพัฒนาหรือปรับไปสู่พาชนะที่รองรับ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยืนยันได้หรือไม่ จะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น
ส่วนกลุ่ม 3 สามิตร จะยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ทั้งหมดหรือไม่ ตนเข้าใจว่า มันเหมือนครอบครัวใหญ่ มีลูกมีหลานต้องออกเรือนไปเติบใหญ่ เป็นเถ้าแก่ ที่อื่นได้ก็ดี แต่ห่างออกไปแล้วไม่สามารถเป็นผู้ใหญ่ได้ ก็ถือว่าเท่าทุน จึงให้โอกาสทุกคนไม่ได้บังคับ เพราะเราไม่ใช่นักเลง เป็นนักทำงานที่ต้องให้โอกาสคน ซึ่งตนเชื่อมั่นว่า พรรคพลังประชารัฐ จะได้กลับมาเป็นรัฐบาล 99%
เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้ได้มีการเชิญ นายสิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ไปร่วมงาน จะชวนมาอยู่ร่วมในพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า ตนคุยกับทนายตั้มแล้ว ไม่ต้องการเล่นการเมือง แต่จะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เมื่อโอกาสและเวลามาถึงก็เป็นเรื่องของทนายตั้ม ต้นไม่ได้ไปพบกับทนายตั้มตลอดเวลา แต่เป็นการไปพบในเรื่องของคดีอนาจรของดาราสาว และช่วยประชาสัมพันธ์ในเรื่องของกฎหมายเท่านั้น