28 มกราคม 2566 ที่จังหวัดหนองคาย น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีปราศรัย ที่บริเวณเทศบาลท่าบ่อ ถึงกรณีการดีลกลับมาร่วมงานกันของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชานัฐ และกลุ่มของ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ว่า
เป็นเพียงเกมการเมือง แต่พรรคเพื่อไทยใช้นโยบายแลกกับความไว้ใจของประชาชน แม้ว่าจะเคยถูกยุบพรรคและกลับมาใหม่ ก็ยังตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายและจุดประสงค์หลักของพรรค และพรรคเพื่อไทยจะตั้งใจทำพรรคให้แข็งแรง และสื่อสารในสิ่งที่พรรคต้องการให้เกิดขึ้นกับประชาชนและประเทศชาติ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐ น่าจะเป็นภาระของพรรครวมไทยสร้างชาติ มากกว่าพรรคเพื่อไทย เพราะแม้ว่าจะเห็น พล.อ.ประวิตร เดินช้า แต่ลีลานั้นเดินเร็ว และเดินเร็วกว่า พล.อ.ประยุทธ์ หลายเท่า
การดึงกลุ่มการเมืองเข้าพักแม้ว่าจะเป็นคนกันเอง ไม่ใช่คนหน้าใหม่ และเคยอยู่ในพรรคพลังประชารัฐมาก่อน แต่ภาพสะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประวิตร มีบารมีและได้รับการยอมรับในกลุ่มของตังเองมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเห็นได้ชัด
เพราะอย่างน้อยที่สุดเมื่อวาน (27 ม.ค.) ก็มีการปิดดีลกับกลุ่ม 4 กุมาร แต่พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่เปิดตัวก็เห็นแต่แรมโบ้ อีสานเป็นกำลังหลักเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องระหว่าง 2 พรรคการเมือง ส่วนพรรคเพื่อไทยก็เดินหน้าหาเสียงและเตรียมเปิดนโยบายใหญ่หลังยุบสภา
ส่วนมี่มีการมองว่า พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ เป็นการแยกกันเดินรวมกันตีเพื่อมารวมกันทีหลัง จะทำให้พรรคเพื่อไทยสู้ได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เป็นอำนาจของประชาชนที่จะเป็นคนตัดสินว่าพรรคเพื่อไทย จะมีแรงเพียงพอหรือไม่ที่จะต่อสู้ทางการเมือง เพื่อไทยขอให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของประชาชน
ส่วนตัวไม่ได้สนใจว่าทั้ง 2 คนจะรวมกันหรือไม่ ตนขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะการจะทำแคมเปญออกมาให้ประชาชนรับรู้เป็นเรื่องที่ยากและเป็นงานหนักที่ทุกคนต้องช่วยกัน เรื่องอื่นตนไม่ได้โฟกัส
ซึ่งตนมองว่ายังเร็วไปที่จะพูดถึงกลุ่มการเมืองต่าง ๆ เช่น กลุ่มสามมิตร หรือนายสุชาติ ตันเจริญ ที่จะมีกระแสข่าวกลับมาพรรคเพื่อไทย เพราะตอนนี้ขอเดินหน้าหาเสียงเพื่อให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์
เมื่อถามว่า หลังเลือกตั้งจะยังมีการจับมือกับพรรคก้าวไกล อยู่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลเราไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน และทั้ง 2 พรรค เป็นฝั่งประชาธิปไตยด้วยกัน เรื่องการจับมือจึงเป็นเรื่องของอนาคต
เมื่อถามย้ำว่า พรรคก้าวไกล ประกาศชัดว่าจะไม่ร่วมจับมือ หากเพื่อไทยจับมือกับพล.อ.ประวิตร หรือพล.อ.ประยุทธ์ นายณัฐวุฒิ ได้รีบพูดตัดบทว่า เรื่องนี้ยังไม่เกิดขึ้น ส่วน น.ส.แพทองธาร กล่าวเสริมว่า “นั่นหน่ะสิ” นายณัฐวุฒิ จึงกล่าวต่อว่า เป็นการมองของสื่อเอง ไม่ต้องห่วงเรื่องดีลลับ เพราะทั้ง 2 คนก็เดินจับมือกันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงขอให้รอหลังการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า พร้อมวัดพลังกับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ เพราะวันนี้เปิดเปิดเวทีปราศรัยชนกัน น.ส.แพทองธาร ถามนายณัฐวุฒิ ว่า พร้อมหรือไม่ที่จะวัดพลัง โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราแข่งขันกับตัวเอง แข่งขันกับกติกาและเสียงส.ว. 250 เสียง ส่วนจะประเมินพลังกันอย่างไร ให้เป็นวิจารณญาณของประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ ไปขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดชุมพรเป็นครั้งแรก ขณะที่แพทองธาร ก็มาขึ้นเวทีปราศรัยที่จังหวัดหนองคาย เป็นครั้งแรก ซึ่งอาจจะเห็นการแลนด์สไลด์ ในยุคของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นครั้งแรกก็ได้ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่ที่ประชาชน
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนมีความตั้งใจและนโยบายที่จะสื่อสารไปยังประชาชน จึงขอใช้ความจริงใจเป็นหมัดเด็ด
เมื่อถามถึง กรณีพรรคพลังประชารัฐ จะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม พรรคเพื่อไทยจะร่วมด้วยหรือไม่ นายณัฐวุฒิ รีบกล่าวตัดบท ก่อนที่น.ส.แพทองธาร จะตอบว่า เรื่องนั้นยังอีกไกล ไม่รู้ว่าว่าพรรคพลังประชารัฐ จะได้ส.ส. มาเท่าไหร่ และไม่รู้ว่าจะได้เสนอ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ ได้หรือไม่ รวมถึงนโยบายต่าง ๆ ที่เคย ประกาศไว้จะได้ทำหรือไม่
นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทย กรณี “ตะวัน-แบม” อดอาหารประท้วงเรียกร้องความยุติธรรม ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ได้ออกแถลงการณ์ไปเมื่อวานนี้ (27 ม.ค.) ซึ่งเนื้อหาชัดเจนในการเรียกร้องกระบวนการยุติธรรม ทำหน้าที่เพื่อยุติวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นกับสถานการณ์ต่อสู้ของน้องทั้งสองคน
ดังนั้นตนคิดว่าในบทบาทพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยได้แสดงจุดยืนชัดเจนต่อเรื่องนี้แล้ว ส่วนในทางส่วนตัวตนก็ได้เสนอข้อเรียกร้องต่อสาธารณะเช่นเดียวกัน ว่ากระบวนการยุติธรรม ควรเข้ามาพิจารณาเรื่องนี้ด้วยเมตตาธรรม จะทำให้สถานการณ์ที่น่าวิตกกังวลนี้คลี่คลายได้
ผู้สื่อข่าวพยายามย้ำถามความเห็นจาก น.ส.แพทองธาร ในเรื่องนี้ ซึ่ง น.ส. แพทองธาร กำลังจะตอบคำถาม แต่ถูกนายณัฐวุฒิ พูดตัดบทเป็นรอบที่ 2 โดยระบุ ว่าเราเห็นตรงกันในเรื่องนี้ พร้อมขอบคุณสื่อมวลชล เพื่อจบการสัมภาษณ์ โดยที่ น.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้ตอบคำถามในประเด็นนี้