6 มกราคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จ.สิงห์บุรี โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย / นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม / นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมลงพื้นที่ตรวจราชการ พร้อมสวมเสื้อม่อฮ่อมทั้งคณะ
โดยทันทีที่เดินทางมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางสักการะพระนาคปรกเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพระวัดโพธิ์ศรี เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเจ้าอาวาสระบุกับนายกรัฐมนตรีว่า พระนาคปรกวัดนี้ศักดิ์สิทธิ์จะขออะไรก็ขอได้ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่จะมาบนและแก้บนด้วยคณะลิเกซึ่งมักจะสำเร็จทุกราย
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะได้ออกเดินทางไปยังพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี เพื่อตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ เดินทางต่อไปยังพื้นที่นานำร่อง หมู่ที่ 1 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อเป็นประธานเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” โดยนายกรัฐมนตรีขับรถดำนาปลูกข้าว ร่วมกับชาวนา พร้อมกับปล่อยปลา ร่วมกับเกษตรกร ก่อนไปยังจุดพิธีเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” โดยมีชาวบ้านมาผูกขาวม้าให้การต้อนรับ
รวมไปถึงนางภรณีย์ ธนาคมานุสรณ์ แม่ของนายชัยวุฒิ รัฐมนตรีเจ้าของพื้นที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ถามว่าแม่ใครนะ โดยนางภารณีย์ ได้กล่าวว่าเป็นแม่ของนายชัยวุฒิ วันนี้ ( 6 ม.ค.66 ) ทำอาหารมาให้รับประทานมีทั้งแกงไก่ไข่พะโล้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะจับสร้อยของนางภรณีย์ พร้อมกับแซวว่าเส้นโตของแท้หรือเปล่า ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับชาวบ้าน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้สาธิตขับรถดำนาด้วยความคล่องแคล่วเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ฝึกซ้อมขับที่สนาม เฮลิคอปเตอร์ จ.สิงห์บุรี โดยระหว่างที่ นายกรัฐมนตรีขับรถดำกล้า ชาวบ้านได้ตะโกนให้กำลังใจนายกฯ เป็นระยะ ขณะที่นายกฯ ได้หันกลับมาโบกมือทักทายและส่งสัญลักษณ์ I love you ให้กับประชาชน
นอกจากนี้ยังได้ปล่อยปลานิล ซึ่งมีความเชื่อว่าจะมีความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องของทรัพย์สินที่เพิ่มพูนมากขึ้น หลังจากนั้นได้เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าเกษตร พร้อมกับระบุว่าหากเป็นสินค้าเกษตรที่มีใบรับรอง จะไม่สามารถกีดกันการค้าได้ ซึ่งขณะนี้สินค้าการเกษตรมีปัญหาอยู่ประมาณ 50 รายการ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาแก้ไขปัญหา รวมไปถึงนายกรัฐมนตรียังมอบนโยบายในการแก้ไขปัญหาราคาปุ๋ย พี่จะทำอย่างไรให้ปุ๋ยอินทรีย์ไปสามารถทดแทนปุ๋ยเคมีได้ ซึ่งไม่ใช่ว่าปัญหานั้นเกิดจากการบริหารจัดการที่ไม่ดี แต่เพราะเกิดต้นทุนการผลิตที่แพง
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนรู้สึกยินดีครั้งที่ได้มาขับเคลื่อนโครงการรักข้าว ข้าวรักษ์โลกเป็นการทำนาปรังในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่ 10 และได้พบปะกับประชาชน ทุกครั้งที่มาที่นี่ตนดีใจชื่นใจ นี่รุ่นแม่รุ่นลูก ความรักความสามัคคีนี่คือสังคมไทยเราคือแกนหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำให้อยู่ทุกวันนี้วันนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ตนก็ไม่อยากทำอะไรพี่อยู่เหมือนกัน ตนก็ทำเกือบทุกเรื่องซึ่งใช้เวลามากบ้างน้อยบ้าง
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่าผมรู้สึกสงสารเห็นใจชาวนาเนื่องจากขับรถวนไป 3 รอบก็ร้อนหัว หน้าที่ที่ผมรับผิดชอบก็ต้องแก้ไขปัญหาให้ท่าน วันนี้จะทำให้ทุกคนในประเทศไทย อยู่รอด ปลอดภัยและอยู่บนเศรษฐกิจพอเพียง นั่นคือความมั่นคง
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวติดตลกว่า พูดแล้วก็เหนื่อย แต่ท่านก็เหนื่อยกว่าผมต้องทำงาน ตากแดด ผมก็คิดทุกวัน คิด คิด คิด สมองก็คิดและถอดออกมาและเขียนออกมา วันหนึ่งคิด 20-30 เรื่อง แก้ไขปัญหาทำได้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องบอกว่าไม่ได้เพราะอะไร หากได้ก็ได้แค่ไหน หากได้หมดเป็นไปไม่ได้หรอกบ้านเมืองเรา
พร้อมกับยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีมา 8 ปีไม่ได้ดูว่าเป็นของใคร ทุกจังหวัดคือคนไทย ผมต้องดูแลคนไทยทั้งประเทศมากบ้านน้อยบ้าง ตามแผนงานโครงการที่ขอขึ้นมาแต่ต้องมีการตรวจสอบ ผมไม่เลือกปฏิบัติขึ้นอยู่กับความต้องการว่าเร่งด่วนมากน้อยแค่ไหน เกิดประโยชน์กับคนเท่าไหร่ หากจำเป็นก็ต้องทำให้เขา ขออย่างเดียวอย่าทุจริต ต้นขอย้ำเตือน ตนมีหน้าที่เป็นกำกับดูแลอนุมัติอนุญาต แต่จะสั่งไว้เสมอว่าจะต้องโปร่งใสสุจริตและเป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ หางตรวจสอบแล้วมีการร้องเรียนสอบหมดตามกฎหมาย
คนทุกยุคทุกรุ่นทุกวัย ต้องทำให้มีความรักความสามัคคีมีความเข้าใจเดินหน้าไปพร้อมกันไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนได้ภายในวันเดียวหรือปีเดียว ตนอยู่มา 8 ปียังเปลี่ยนได้ไม่หมด ไม่ใช่ผมไม่อยากทำ ไม่กล้าทำ แต่เราคือประชาธิปไตยทำอะไรต่างๆ ก็ต้องรับฟังความคิดเห็น หากไม่เห็นชอบก็ทำไม่ได้ ขอให้ช่วยกัน ผมอาจพูดเยอะไปนิดนึง ปีใหม่หยุดไปหลายวันแต่ผมไม่หยุด ติดตามงานทุกวัน เป็นผู้บังคับบัญชามีเรื่องหนักใจมีหลายเรื่อง จะทำอย่างไรไม่ให้คนแตกความสามัคคี ส่วนการจะปลูกป่า จะปลูกที่ไหนก็ได้ แต่เริ่มต้นจะต้องปลูกป่าในใจก่อน
โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรียัง ระบุอีกว่า การเดินทางมาในวันนี้ ( 6 ม.ค.66 ) เป็นครั้งแรกที่มาต่างจังหวัด มาสิงห์บุรีของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทุกคน ต้องเรียนรู้ให้เปิด YouTube ดู แต่อย่าดูที่เขาด่ากันไม่เกิดประโยชน์ ให้เรียนรู้ทั้งจากไทยและต่างประเทศเพื่อเตรียมความพร้อม ตนขอให้กำลังใจทุกคน รู้ว่าลำบาก นี่คืออนาคตจะหาเงินที่ไหนมาดูแลตัวเอง ทุกอย่างต้องใช้เวลาวิธีการ นายกฯ ไม่เคยรักประชาชนน้อยกว่า รักมากกว่า 2 เท่า ต้องทนเพื่อเขา
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับประชาชน และถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง พร้อมระบุว่า นายกไม่เคยหยุดคิด คิดแล้วค่อยทำไป วันนี้สุขภาพก็ดีขึ้นมาก แล้วเราจะอยู่อายุยืนยาว นี่คืออนาคตจะทำอย่างไรจะอยู่ได้อย่างไร ต้องดูแลตัวเอง พร้อมกับระบุว่าให้ถ่ายรูปกับรัฐมนตรีคนอื่นบ้าง เนื่องจากมีรัฐมนตรีหลายท่านลงพื้นที่พร้อมกัน ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้าน นำสมุดมาให้นายกรัฐมนตรีเซ็น ได้เขียนข้อความว่า ลุงตู่สู้ๆ คนอินทร์บุรีเป็นกำลังใจให้ท่าน นายกอยู่คู่กับประชาชนชาวไทยตลอดปีได้ตลอดไป
นอกจากนี้ได้มีทหารผ่านศึก จากจังหวัดต่างๆ มาร่วมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณ ตอนนั้นตนเห็นว่าไปพบคณะอะไรสักอย่างขึ้นเวที มีรูปอยู่ ก่อนที่ทหารผ่านศึกจะตอบกลับว่าผมไม่ได้ไปครับ วันนี้ก็เพิ่มอะไรไปให้อีกไม่ใช่หรือ ยังเหลือเงินต่างๆ มาตรการกองทุน ที่จะทำให้เพิ่มรู้ว่าลำบาก จากนั้นได้ร่วมถ่ายรูปกับกลุ่มทหารผ่านศึก และสู่สัญลักษณ์ I love you นำมือทุบอก ใครจะรู้หัวอกพวกเรา ไม่มีใครรู้ว่าพวกเราต้องไปเสี่ยง เดินไปรบทั้งถือปืนอยู่ชายแดนมีใครรู้บ้าง ซึ่งทหารผ่านศึกก็บอกว่า สู้ๆครับ และกล่าวว่า เขาบอกว่าไม่รู้จะมีถ้าเขาไปทำไม น้ำท่วมก็ทหารไปช่วยทั้งหมด นี่ไปช่วยขนกระเป๋าอยู่สนามบินอีก แล้วแผ่นดินนี้เป็นของใครของเราทุกคนช่วยกันรักษาแผ่นดินนี้เอาไว้
โดยนายกรัฐมนตรีใช้รถยนต์ Toyota Alphard สีดำหมายเลขทะเบียน กง 44 สิงห์บุรี ในการเดินทางครั้งนี้
ทั้งนี้พื้นที่ จ.สิงห์บุรี เป็นพื้นที่ของนายชัยวุฒิ และนายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.สสิงห์บุรี พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งต้องจัดการการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีว่า จะเป็นการย้ำ ความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรี และนายชัยวุฒิ เพื่อให้ไปช่วยงานที่พรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้นายชัยวุฒิ ยังสังกัดอยู่พรรคพลังประชารัฐ และทำงานให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อคืน ( 5 ม.ค.66 ) ที่ผ่านมามีการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ จ.ลพบุรี ทั้งหมด 4 เขต พร้อมปราศรัย บอกว่า พล.อ.ประวิตร ใจดีและรับฟังเสียงประชาชน ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่านายชัยวุฒิไม่ย้ายไปยังรวมไทยสร้างชาติ