อิล เฟโนมีโน โรนัลโด และภารกิจกอบกู้ ครูไซโร
ก่อนยุคของ CR7 ในปัจจุบัน เมื่อเอ่ยชื่อ โรนัลโด ทุกคนย่อมนึกถึงศูนย์หน้าทีมชาติบราซิล เจ้าของฉายา ‘อิล เฟโนมีโน’ ในยุครุ่งเรือง ล่าสุด อดีตหัวหอกระดับตำนานก็มีภารกิจใหม่ในการกอบกู้ ครูไซโร ต้นสังกัดแรกในชีวิตให้กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
Highlights
- ในยุครุ่งเรืองสุดขีด ตอนทศวรรษที่ 1990 และ 2000 โรนัลโด คือปรากฎการณ์ของวงการฟุตบอล ก่อนจะประสบปัญหาบาดเจ็บอย่างหนักที่เข่า
- หลังกลับไปแขวนสตั๊ดในบ้านเกิด โรนัลโด ผันตัวไปเป็นนักธุรกิจ และหวนกลับสู่วงการฟุตบอลในฐานะนักลงทุน ด้วยการเทกโอเวอร์ เรอัล บายาโดลิด ในสเปน และล่าสุด ครูไซโร ต้นสังกัดแรกในชีวิต
- ความท้าทายที่รออยู่ คือความคาดหวังมหาศาลจากแฟนบอล และปัญหาโครงสร้างวงการฟุตบอลของประเทศที่อาจทำให้การกอบกู้ครั้งนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด
--------------------
ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แฟนฟุตบอลอาจได้เห็นรายงานว่า เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป หรือ เอฟเอสจี กลุ่มทุนจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเจ้าของปัจจุบันของสโมสรลิเวอร์พูล พลาดโอกาสเทกโอเวอร์ ครูไซโร อดีตยักษ์ใหญ่ในลีกบราซิล ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับเซเรียบี (ลีกลำดับ 2 ของประเทศ)
เหตุผลคือทาง ครูไซโร เลือกตอบรับข้อเสนอมูลค่า 400 ล้านเรอัล หรือประมาณ 70 ล้านดอลลาร์ จากบริษัทที่ชื่อ ทารา สปอร์ตส์ ซึ่งก่อตั้งโดยอดีตฮีโร่ของสโมสร และชาวบราซิลทั้งชาติ "โรนัลโด"
เจ้าของฉายา "อิล เฟโนมีโน" ออกตัวว่าเขาไม่ใช่ฮีโร่ของสโมสร แต่จะพยายามทำอย่างเต็มที่ เพื่อนำต้นสังกัดเดิมกลับไปสู่จุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง
อิล เฟโนมีโน คือใคร?
ในช่วงรอยต่อ ระหว่างยุค 1990 และ 2000 หนึ่งในซูเปอร์สตาร์ชั้นนำของวงการฟุตบอล ต้องนับรวมชื่อของ โรนัลโด หลุยส์ นาซารีโอ เดอ ลิมา หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า โรนัลโด รวมอยู่ด้วย
ฉายา อิล เฟโนมีโน ของ โรนัลโด มาจากความยอดเยี่ยมในสนามที่ว่ากันว่าเป็น "ปรากฎการณ์"
และสถิติต่าง ๆ ในวงการฟุตบอลอาจจะไม่เป็นอย่างที่เห็นกันในปัจจุบันก็ได้ หากเจ้าตัวไม่โชคร้าย ต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บเข่าเรื้อรังเกือบตลอดชีวิตการเล่น
ถึงอย่างนั้น ชีวิตนักฟุตบอลของ โรนัลโด ก็ยังประสบความสำเร็จอย่างสูง
ทั้งตำแหน่งแชมป์โลกสองสมัย ในปี 1994 และ 2002 จากการเข้าชิง 3 ครั้ง แชมป์โคปา อเมริกา 2 สมัย, แชมป์คอนเฟดเดอเรชันส์คัพ และเหรียญทองแดงในโอลิมปิก 1996
เคยลงเล่นให้กับยอดทีมในยุโรป และคว้าแชมป์ต่าง ๆ มาครอง ทั้ง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา, อินเตอร์ และ เอซี มิลาน ฯลฯ พร้อมด้วยรางวัลส่วนตัวต่าง ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะนักเตะยอดเยี่ยมของโลก 3 สมัยจาก ฟีฟ่า
ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เจ้าตัวไม่ได้มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ด้วย
ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด
ในช่วงปลายของชีวิตการเล่น โรนัลโด กลับไปลงเล่นให้ โครินเธียนส์ ในบ้านเกิด ก่อนเลิกเล่นอย่างเป็นทางการในปี 2011 และผันตัวไปทำธุรกิจหลากหลาย
ทั้งการเป็นเจ้าของทีมแข่งรถ A1 Team Brazil ร่วมกับ เอเมอร์สัน ฟิตติปัลดี อดีตนักขับฟอร์มูล่าวันชาวบราซิล เข้าถือหุ้นในทีมฟุตบอล ฟอร์ท ลอเดอร์เดล สไตรเกอร์ส ในนอร์ธอเมริกันลีก และเปิดโรงเรียนสอนฟุตบอลของตัวเอง ในชื่อ Ronaldo Academy ในหลายประเทศทั่วโลก
จนเมื่อปี 2018 โรนัลโด ก็หวนคืนสู่วงการฟุตบอลแบบเต็มตัว ด้วยการเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร เรอัล บายาโดลิด ในสเปน หลังจ่ายเงิน 30 ล้านยูโร เพื่อซื้อหุ้น 51% ของสโมสร และทยอยซื้อหุ้นสโมสรเพิ่มขึ้น จนปัจจุบัน โรนัลโด ถือหุ้นสโมสรอยู่ถึง 82% แล้ว
ปัญหาคือนับแต่เจ้าตัวเข้ามาถือหุ้นสโมสร ผลงานของ บายาโดลิด ซึ่งเคยขึ้นไปถึงอันดับ 5 ในฤดูกาล 2017-18 กลับตกต่ำลงเรื่อย ๆ และจบในอันดับ 19 พร้อมตกชั้นไปสู่ลีกา 2 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
หวนคืนสู่จุดเริ่มต้น
ย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอล โรนัลโด ถูก ฟลาเมงโก สโมสรที่เขาชื่นชอบตั้งแต่เด็กปฏิเสธการเซ็นสัญญา เพราะไม่สามารถหาเงินค่ารถเพื่อเดินทางไปซ้อมได้
แต่เจ้าตัวโชคดีที่ แจร์ซินโญ ตำนานทีมชาติบราซิลเห็นแวว และแนะนำให้ ครูไซโร ต้นสังกัดเก่าของตนติดต่อไปหา
และเพียงแค่สามเดือนหลังการเซ็นสัญญา โรนัลโด ในวัย 16 ปี ก็ถูกดันจากทีมเยาวชนขึ้นสู่ชุดใหญ่ทันที พร้อมสร้างสถิติยิง 44 ประตูจาก 47 นัดในทุกรายการ
นำต้นสังกัดเป็นแชมป์ฟุตบอลถ้วย โคปา เดอ บราซิล ในปี 1993 และแชมป์ของรัฐในปีถัดมา ก่อนย้ายไปเผชิญโชคในยุโรปกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในที่สุด
ความผูกพันระหว่าง โรนัลโด กับ ครูไซโร จึงเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงสองปี แต่ก็มีความสำคัญที่ช่วยให้เจ้าตัวได้แจ้งเกิด จนถูกเรียกตัวติดทีมชาติบราซิลไปเล่นฟุตบอลโลก 1994 และได้สัมผัสแชมป์โลกครั้งแรก
การหวนคืนสู่ถิ่นเก่าของ โรนัลโด จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษว่าจะนำ ครูไซโร เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดของประเทศได้หรือไม่
"นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะเฉลิมฉลอง เรามีงานหนักที่ต้องทำอีกหลายอย่าง เพื่อนำ ครูไซโร กลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง"
"ผมไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ ที่มีพลังวิเศษสามารถเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ผมมาพร้อมกับความรับผิดชอบ และด้วยความช่วยเหลือจากทีมบริหาร เรามีเป้าหมายที่จะเติบโตขึ้นในระยะกลางและระยะยาวต่อไป"
ความท้าทายที่รออยู่
แต่ความท้าทายที่รอ โรนัลโด และทีมงานก็ถือว่าหนักหนาเช่นกัน
การบริหารที่ผิดพลาดก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแค่ทำให้ ครูไซโร ตกมาเล่นในลีกรองติดต่อกันเป็นปีที่สามเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องหนี้สินกว่า 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งผู้บริหารชุดปัจจุบันจะต้องหาทางเคลียร์ให้ได้ภายในเวลา 10 ปี
แม้ในแง่มุมทางธุรกิจ นี่อาจเป็นการลงทุนของ โรนัลโด ที่เห็นศักยภาพของความเป็นทีมเก่าแก่ และมีผู้ติดตามมากมาย
แต่ โรดริโก คาเปโล ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินในวงการฟุตบอลบราซิล มองว่าปัญหาของ ครูไซโร นั้นหนักว่า บายาโดลิด อีกสโมสรที่ โรนัลโด เป็นเจ้าของมาก
เช่นเดียวกับแรงกดดันที่มากกว่า ในฐานะอดีตยักษ์ใหญ่ของประเทศที่มีแฟนบอลตั้งความคาดหวังไว้สูง
ขณะที่โครงสร้างฟุตบอลบราซิลในปัจจุบันนั้น ยังค่อนข้างยุ่งเหยิง และรายได้จากสปอนเซอร์ที่กระจุกอยู่กับสโมสรใหญ่เพียงไม่กี่ราย และที่สำคัญ ทีมเหล่านั้นมีแต่จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
เห็นได้จากการที่ พัลเมรัส, ฟลาเมงโก และ แอตเลติโก มิไนโร ผลัดกันครองความยิ่งใหญ่ทั้งในระดับประเทศ และระดับทวีป จนแม้แต่แชมป์ของชาติอื่นก็ยังไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปได้
จึงไม่แปลกที่ โรนัลโด จะออกตัวตั้งแต่แรกในการคืนสู่เหย้าครั้งนี้ว่าเขาไม่ใช่ฮีโร่ และภารกิจการกอบกู้ครั้งนี้ ก็ยังไม่แน่ว่าจะมีบทสรุปสวยหรูอย่างการร่วมงานกันครั้งแรกหรือไม่
--------------------
Source