ขวัญใจชาวมาราธอน: วิจัยเผย เพลงจาก “Beyonce” ช่วยให้วิ่งเร็วขึ้น
จากผลวิจัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า “เพลง” มีผลต่อการออกกำลังกาย ล่าสุดมีงานวิจัยที่เปิดเผยว่า มี‘ศิลปิน’ คนไหนบ้างที่ส่งผลให้ผู้ฟังมีอัตราการวิ่งที่ใช้ระยะเวลาเร็วขึ้นหรือช้าลง
ทุกครั้งที่ออกกำลังกาย เชื่อว่าหลายคนคงมีเพลลิสต์สุดโปรดที่เปิดฟังเมื่อไหร่ก็เพิ่มแรงใจให้ฮึกเฮิมได้ทุกครั้ง แต่ละคนก็อาจมีแนวเพลงที่ชอบแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น K-POP ฮิปฮอป หรือแม้กระทั่งเพลงประกอบอนิเมชั่นจากดิสนีย์ แต่รู้หรือไม่ว่าจากงานวิจัย ดนตรีแต่ละประเภทที่เราเลือกฟังตอนออกกำลังกาย รวมถึงศิลปินที่เป็นเจ้าของบทเพลง สามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพของร่างกายเราได้ โดยเฉพาะกับการวิ่ง!
แม้ชุดกีฬาหรือชุดสำหรับออกกำลังกายจะมีความยืดหยุ่นเหมาะกับสภาพร่างกายผู้ใช้มากแค่ไหน แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนออกกำลังกายและวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอาจเกิดจากปัจจัยภายนอกอีกหลายอย่าง โดยหนึ่งในปัจจัยที่ว่าและมีผลเป็นอย่างมากคือบทเพลงที่นักวิ่งเลือกฟังขณะออกกำลัง
Pour Moi เริ่มเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่างจากผู้วิ่งจ๊อกกิ้งจำนวน 60 คน ที่ฟังเพลงจากศิลปินที่แตกต่างกัน เพื่อเปรียบเทียบความเร็วในการวิ่งว่า “นักวิ่งที่อัตราความเร็วเพิ่มสูงขึ้น เขาฟังเพลงของศิลปินคนไหน?” ผลการวิจัยรวบรวมโดยการบันทึกเวลาวิ่งของผู้เข้าร่วมวิจัยที่ในขณะวิ่ง แต่ละคนจะฟังเพลงจากศิลปินหลากหลายกลุ่ม และการวิ่งในระยะ 1 กิโลเมตรจะฟังเพลงจากศิลปินเพียง 1 คนเท่านั้น จากนั้นจดบันทึกข้อมูลสถิติผ่านอุปกรณ์ Smart fitness
ผลสรุปจากการทดลองพบว่า ศิลปินที่ทำให้ผู้ฟังวิ่งได้เร็วขึ้นอันดับ 1 ก็คือ Diva สุดทรงพลัง “ควีนบี (Queen B)” หรือที่รู้จักกันในนามตัวแม่แห่งวงการเพลงอาร์แอนด์บี “บียอนเซ่ (Beyoncé)” ซึ่งนักวิ่งที่ได้ฟังเพลงของบียอนเซ่ สามารถร่นเวลาวิ่งได้ถึง 33 วินาทีต่อกิโลเมตรจากความเร็วที่ดีที่สุดของผู้วิ่ง (Personal Best หรือ PB)
จาก QUEEN B สู่ PB
PB หรือ Personal Best เป็นอีกศัพท์หนึ่งที่ใช้กันในวงการนักวิ่งอย่างแพร่หลาย มีความหมายถึง ระยะเวลาที่ดีที่สุดที่นักวิ่งสามารถทำได้ในระยะหนึ่ง ซึ่งจากที่เราทราบกันว่าเพลงของ “ ควีนบี (Queen B)” หรือบียอนเซ่สามารถช่วยให้ผู้ฟังมีระดับการวิ่ง Personal Best ที่ดีขึ้นเฉลี่ยกิโลเมตรละ 33 วินาที หรือหากวิ่งในระยะ 3 ไมล์ (4.8 กิโลเมตร) ก็จะมีระยะเวลาที่ดีขึ้นเกือบ 2 นาที 45 วินาที
ไม่เพียงแค่เสียงเพลงจากบียอนเซ่เท่านั้น เพลงจากศิลปินคนอื่นๆก็มีผลต่อระยะเวลาการวิ่งด้วยเช่นกัน โดยอดีตสมาชิกวง One Direction บอยแบนด์อันดับหนึ่งในยุค 2010 อย่าง “แฮร์รี่ สไตล์ (Harry Styles)” ก็ติดโผมาเป็นอันดับสองกับบทเพลง “Watermelon Sugar” ที่ช่วยร่นระยะเวลาให้กับผู้ฟังได้ถึง 31 วินาทีต่อกิโลเมตร
ในขณะที่อันดับสาม ตกเป็นของนักร้องสาวที่เป็นดั่งไอคอนของยุค 90 “บริทนีย์ สเปียร์ (Britney Spear)” กับบทเพลง ‘Baby One More Time’, ‘Oops... I Did It Again’ และ ‘Toxic’ ที่จะช่วยลดระยะเวลาการวิ่งได้ถึง 28 วินาทีต่อกิโลเมตร นอกจากนี้ในอันดับที่สี่และห้า นักร้องสาวเสียงทรงพลังอย่าง “อเดล (Adele)” และ “เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift)” ก็ติดโผมาตามลำดับเช่นกัน
ฟังผิดชีวิตเปลี่ยน ศิลปินคนไหนถ้าฟังระหว่างออกกำลังกาย สปีดจะช้าลง?
นอกจาก Pour Moi จะพบว่ามีศิลปินที่ทำให้ผู้ฟังมีความเร็วในการวิ่งที่ดีขึ้นแล้ว จากการศึกษายังพบว่ายังมีศิลปินอีกบางกลุ่มที่หากฟังตอนออกกำลังกายแล้วจะส่งผลให้อัตราความเร็วในการวิ่งลดลงอีกด้วย! ซึ่งหากเปิดเผยรายชื่อออกมาแล้ว หลายคนคงมีอันต้องว้าวแล้วไม่อยากจะเชื่ออยู่เป็นแน่
แร็ปเปอร์หนุ่ม “เดรก (Drake)” คือศิลปินอันดับหนึ่งที่ส่งผลให้ความเร็วในการวิ่งช้าลง โดยสาเหตุอาจมาจากโทนเสียงที่ดูชิล ง่ายๆสบายๆของเขา ใครที่ได้ฟังแล้วก็อาจมีความรู้สึกไม่เร่งรีบ ปล่อยตัวตามสบาย จนส่งผลให้สปีดความเร็วลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าเมื่อนักวิ่งฟังเพลงของเดรกขณะออกกำลังกายแล้ว ในระยะทาง 1 กิโลเมตรจะใช้เวลามากขึ้นถึง 21 วินาที
ในขณะที่อันดับสองกลับกลายเป็นวงบอยแบนด์ระดับโลกอย่าง “บีทีเอส (BTS)” ที่แม้บทเพลงจะทรงพลังมากแค่ไหน แต่ซิงเกิ้ล “Boy With Luv” กลับทำให้นักวิ่งมีอัตราเร็วที่ลดลง และใช้เวลาในการวิ่งมากขึ้นประมาณ 9 วินาที ส่วนอันดับที่สามตามมาอย่างติดๆกับแร็ปเปอร์สาวจากแอลเอ “โดจา แคท (Doja cat)” ที่ผลการศึกษาพบว่าทำให้นักวิ่งใช้ระยะเวลามากกว่าเดิมประมาณ 5 วินาที
บทสรุปส่งท้าย
แม้จากการวิจัยจะสรุปได้ว่าบทเพลงจาก “บียอนเซ่” มีผลดีต่อนักวิ่งโดยช่วยร่นระยะเวลาได้มากขึ้น ในขณะที่บทเพลงจากแร็ปเปอร์ชาวแคนนาเดียนอย่าง “เดรก” มีผลในทางตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง หลายคนอาจเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ บ้างอาจรู้สึกว่าเราออกกำลังได้มีประสิทธิภาพมากกว่าหากได้ฟังเพลงจาก “บีทีเอส” หรือ “โดจา แคท” แต่ท้ายที่สุดแล้วการเลือกเพลงขณะไปวิ่งหรือออกกำลังกายก็จัดได้ว่าเป็นความพึงพอใจส่วนบุคคล ที่มีจุดประสงค์หลักในการออกกำลังกายเพื่อดูแลสุขภาพ ไม่ว่าการออกกำลังจะเหนื่อยร่างมากแค่ไหน การได้ฟังเพลงที่ชอบจากศิลปินที่ใช่ก็สามารถเติมกำลังใจและช่วยให้เพลิดเพลินได้ในทุกๆครั้ง
--------------------
ข้อมูลอ้างอิง: