Hellbound ความวิปริตของศรัทธา การเข่นฆ่า เพื่อความเชื่อในแบบตน พระเจ้ามีอยู่เพื่อใคร? (1)
ซีรีย์เกาหลี Hellbound เป็นอีกหนึ่งซีรีย์คุณภาพส่งลงเน็ตฟลิกที่หลายคนคาดหวังจากรายชื่อทีมงาน แต่หลังรับชมกลับเสียงแตก เพราะนี่ไม่ใช่ซีรีย์ที่ถ่ายทอดสารที่ต้องการเล่ามาตามตรง แต่ต้องทำความเข้าใจและตีความบริบทเพื่อเข้าถึงสัญญะที่ซ่อนอยู่ภายใน
Highlights
- Hellbound เป็นซีรีย์เกาหลีที่ถูกพูดถึงมาก จากเนื้อหาหนักอึ้งมืดหม่น และการดำเนินเรื่องค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ กระนั้นก็ได้รับความนิยมสร้างยอดผู้ชมเป็นจำนวนมาก
- เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากการที่มีชายคนหนึ่งถูกสัตว์ประหลาดรุมทำร้าย สร้างความแตกตื่นจากความไม่รู้ของผู้คน จนเริ่มมีการมองหาคำตอบและที่พึ่งทางใจ
- กลุ่มสัจธรรมใหม่ก้าวเข้ามาเป็นคำตอบ ด้วยความเชื่อย่อยง่ายอ้างอิงจากหลักศาสนาคริสต์ รวมถึงพลังการโฆษณาทำการตลาดที่ยอดเยี่ยม ทำให้ลัทธินี้แพร่กระจายได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง
- ตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นคือจองจินซูผู้ก่อตั้ง จากการถูกประกาศสั่งตายเมื่อ 20 ปีก่อนและความอยากเอาชนะ นำไปสู่การสร้างเรื่องราวและคุณค่าการตายให้ตัวเองจากคนธรรมดากลายเป็นผู้ไถ่บาปให้มวลมนุษย์
--------------------
*มีการเปิดเผยเนื้อหาภายในซีรีย์ Hellbound
ซีรีย์เกาหลี Hellbound ได้ทำการออกฉายเป็นจำนวน 6 ตอน ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2021 ด้วยชื่อของยอดผู้กำกับ ยอนซังโฮ ที่เคยฝากชื่อไว้กับ Train to Busan(2016) หนังซอมบี้เกาหลีบนรถไฟที่เราคุ้นเคยกันดี นี่จึงเป็นซีรีย์ที่ผู้คนพากันคาดหวังว่าเนื้อหาจะต้องเข้มข้นหนักหน่วง
และ Hellbound ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง กับยอดรับชมติด 10 อันดับแรกกว่า 71 ประเทศทั่วโลกหลังออกฉาย นับว่าตามรอยความสำเร็จของรุ่นพี่อย่าง Squid game ไปติดๆ ด้วยการหยิบเอาเนื้อหาปีศาจ นรก รวมถึงความเชื่อออกมาตีแผ่ได้มืดมน โกลาหล จนน่าอึดอัด
กระแสของ Hellbound อาจไม่ได้แรงหรือเป็นที่พูดถึงมากเท่า Squid game ส่วนหนึ่งมาจากความเข้าถึงยาก เนื้อหา กับการเล่าเรื่องไม่เป็นที่ถูกใจคนดูนัก เสียงของผู้รับชมค่อนข้างแตกจนยากจะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง แต่นั่นคงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เมื่อซีรีย์แนวนี้ไม่ได้ทำเพื่อให้ทุกเพศทุกวัยรับชมตั้งแต่ต้น
เรื่องราวเริ่มต้นจากการที่ชายคนหนึ่งถูกสัตว์ประหลาด 3 ตัวรุมทำร้ายอย่างทารุณก่อนเผาเขาเป็นตอตะโก สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความแตกตื่นให้แก่ผู้คนเป็นวงกว้าง พร้อมคำถามของผู้คนว่าพวกมันเป็นใคร? มาจากไหน? และมีจุดประสงค์ใดในการทำร้ายชายคนนี้?
การปรากฏตัวเข้าทำร้ายผู้คนหรือเหยื่อตามวันเวลาที่กำหนด เมื่อเสร็จสิ้นการลงมือก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย คือจุดเด่นของเหล่าสัตว์ประหลาดประจำเรื่อง ทำหน้าที่ราวกับเพชฌฆาตมุ่งตรงเข้าไปเด็ดหัวเป้าหมายแล้วหนีหาย กลายเป็นความสับสนอลหม่านต่อฝูงชนจากสิ่งที่เกิดขึ้น
แน่นอนเมื่อเกิดเรื่องอธิบายไม่ได้หรือสิ่งนอกเหนือความเข้าใจผู้คนย่อมเกิดข้อสงสัย น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถมอบคำตอบให้ได้ชัดเจน เมื่อนี่เป็นเรื่องนอกเหนือความเข้าใจของผู้คนและวิทยาศาสตร์ ดูคล้ายปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ จนเริ่มขยับขยายกลายเป็นความหวาดกลัวเมื่อไม่รู้ว่ามันคืออะไร
แท้จริงไม่ใช่เรื่องแปลกเราหวาดกลัวสิ่งไม่รู้มายาวนาน สมัยก่อนเราหวาดกลัวพลังงานธรรมชาติ ภัยพิบัติ หรือโรคภัย เข้าใจว่ามันเกิดจากปีศาจร้ายคอยมองหาต้นตอความผิดพลาดให้กล่าวโทษ สมัยก่อนเรานิยามสิ่งเหล่านี้เป็นอำนาจเหนือธรรมชาติ อยู่นอกการควบคุมและเข้าใจทำได้แค่เคารพบูชาจนถึงหวาดกลัว เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในหมู่ผู้คนในสังคม
แต่สิ่งหนึ่งที่คอยเป็นคำตอบให้เรื่องเหนือธรรมชาติและความไม่รู้ของคนเราเสมอมาคือ ศาสนาและความเชื่อ
กลุ่มสัจธรรมใหม่ ลัทธิความเชื่อที่นำความไม่รู้มาใช้งาน
ภายใต้ความโกลาหล วุ่นวาย และสับสนของผู้คนในสังคม ผู้ที่กระโดดออกมาเคลมว่านี่เกิดขึ้นจากน้ำมือพระเจ้าคือกลุ่มสัจธรรมใหม่ นำโดยชายหนุ่มจองจินซู ผู้กล่าวอ้างว่าทุกคนที่ตายถูกพิพากษาล้วนเป็นคนบาป ตราหน้าพวกเขาว่าชั่วช้าสมควรได้รับการลงทัณฑ์ นั่นคือนิยามที่พวกเขามอบให้การกระทำสัตว์ประหลาดเหล่านั้น
เดิมทีนี่เป็นกลุ่มที่ได้รับความเชื่อถือมากในหมู่วัยรุ่น จากการผลิตสื่อคอนเทนท์น่าสนใจเป็นคลิปและบทความลงอินเตอร์เน็ท ซึ่งนั่นเป็นสิ่งเข้าถึงความเชื่อของผู้คนเป็นวงกว้างโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้ง่าย เมื่อรวมกับสังคมปัจจุบันเองผู้คนต่างต้องการความเชื่อมายึดเหนี่ยวจิตใจ การพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมย่อมทำให้ผู้คนเข้าถึงจับต้องได้ง่ายกว่า
พวกเขาเป็นเจ้าแรกที่ให้คำตอบเรื่องสัตว์ประหลาดเหล่านั้นแล้วบอกว่านี่คือคำตอบอันเที่ยงแท้ หลังเกิดคำถามกับข้อสงสัยที่ผู้คนในสังคมกำลังกังขาจึงกลายเป็นที่พึ่งทางใจโผล่มาได้ถูกที่ถูกเวลา จนถึงการโฆษณาเกาะติดทำกิจกรรมอยู่ไม่ขาด คอยให้สัมภาษณ์ เติมเชื้อไฟอยู่ตลอดของผู้ก่อตั้ง นับวันลัทธินี้จึงเริ่มมีผู้ศรัทธาและปากเสียงขึ้นทุกที
ส่วนที่นับเป็นการตัดสินใจโฆษณาได้ร้ายกาจที่สุด คือการนำเหตุการณ์ที่พวกเขาเรียกว่า ลงทัณฑ์ มาถ่ายทอดสดเผยให้ผู้คนได้รับชมไปทั่วโลก ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อยอมให้ผู้หญิงที่จะเป็นเหยื่อรายต่อไปถ่ายทอดสดการตายของตัวเอง เพื่อจากนี้ชีวิตของลูกที่ไม่มีแม่คอยเลี้ยงดูจะได้ไม่ลำบาก นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับลัทธิ เพราะพวกเขากลายเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดบนโลกในเวลาไม่กี่วัน
และเรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดเฟืองชิ้นสำคัญอย่าง จองจินซู
จองจินซู น่าจะเป็นตัวละครที่ทำให้ผู้คนตั้งคำถามกันมากที่สุดตัวหนึ่ง กับผู้ก่อตั้งลัทธิสัจธรรมใหม่ที่ต้องการขยายลัทธิความเชื่อ แพร่กระจายความหวาดกลัว จนถึงรวบรวมผู้คนเข้ามาให้เป็นหนึ่ง จากการเชื่อมโยงเหตุการณ์อาละวาดของสัตว์ประหลาดเข้ากับความเชื่อเรื่องพระเจ้า นรก และบาป ก่อนกระจายมันออกไปผ่านสื่อสมัยใหม่
พื้นเพตัวละครจองจินซูถือเป็นคนชอบเอาชนะกว่าที่คิด จากประวัติการเป็นเด็กกำพร้าถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง พอมีอิสระในการใช้ชีวิตกลับถูกประกาศว่าจะตายในอีก 20 ปีข้างหน้า เขาพยายามหาทางหลบเลี่ยงและถามว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งที่ตลอดชีวิตเขาทำตัวเป็นคนดีอยู่ในศีลธรรมแม้ชีวิตจะเลวร้าย แต่กลับไม่เคยได้รับอะไรสักอย่างนอกจากคำประกาศวันตาย
นั่นทำให้เขาค้นหาข้อมูลจากเหตุการณ์นี้อย่างบ้าคลั่ง แต่เมื่อทราบว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงคำทำนายที่มาถึงได้เขาเลยเปลี่ยนวิธีคิด จากเดิมเป็นแค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบสุ่ม ไม่สามารถคาดเดาทิศทางหรือพฤติกรรมล่วงหน้าได้ เขาทำการสร้างเรื่องราวของเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้นมาใหม่ โดยผูกโยงเข้ากับความเชื่อคริสต์คาทอลิกในโบสถ์ที่เติบโตเพื่อให้ผู้คนเข้าถึงง่าย
เรื่องราวที่จองจินซูนำไปผูกด้วยเป็นเรื่องความเชื่อในพระเจ้า บาป การลงทัณฑ์ และการตกนรก ทั้งที่ความจริงเขาคงเป็นคนสับสนที่สุดในการอ้างเหตุผลนี้ เพราะตัวเองในวัยเด็กไม่เคยทำเรื่องผิดบาปเลวร้ายเลยมาชั่วชีวิต แต่กลับถูกสารสั่งตายอย่างไม่มีสาเหตุจนได้แต่จมกับความหวาดกลัว ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการสร้างคุณค่าให้การตายครั้งนี้แทน
หลักการที่จองจินซูใช้หากลองฉุกคิดดูสักหน่อยมีความใกล้เคียงหมอดูทำนายดวงชะตา เรียกกันว่า Barnum effect โดยนำเอาข้อสันนิฐานกว้างๆ มาพูดถึง แล้วหยิบเอาเหตุการณ์ตรงกับแนวคิดตัวเองมานำเสนอให้เห็นดูน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายเพราะสาวกส่วนมากเชื่อในคำพูดเขาอยู่แล้ว ทั้งที่มันขาดข้อมูลเปรียบเทียบเชิงสถิติภาพรวมมายืนยัน ถ้าให้พูดมันคือการนำเสนอแบบมีอคติและเป้าหมายล่วงหน้าเพื่อชักจูงผู้คนนั่นเอง
จุดหมายของจองจินซูแท้จริงคือการอาศัยเรื่องราวการตายของตัวเองให้มีคุณค่า ด้วยหลักความเชื่อของศาสนาคริสต์อันแนบแน่น เขาเลยปลูกฝังความกลัวเกี่ยวกับสัตว์ประหลาด 3 ตัวนี้เป็นวงกว้างเหมือนที่ตัวเองเผชิญ พร้อมอาศัยโอกาสนี้สร้างเรื่องยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คน เปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นตามที่ตัวเองต้องการไปด้วย เป็นวิธีเอาชนะสารสั่งตายในแบบของเขา
ถ้าเขาจะต้องลงนรกก็จะขอนำบาปของคนทั้งโลกติดตัวไปด้วย อีกนัยจองจินซูกำลังแทนตัวเองเป็นพระเยซูกระมัง
อีกครั้งที่ยืนยันถึงความชอบเอาชนะของจองจินซูคือ การที่เขาลากนายตำรวจ จินคยองฮุน ผู้คอยสืบสวนเรื่องราวครั้งนี้มาอธิบายทั้งหมดก่อนให้ทางเลือก ตามคำคัดค้านที่เขาเคยตอกหน้าจองจินซูไว้ว่า ถ้าพระเจ้ามีจริงก็ไม่ได้เชื่อในเจตจำนงเสรีของมนุษย์สักนิด จึงโยนสถานการณ์ตัวเลือกบีบบังคับให้แก่เขาแทน ทั้งเพื่อเอาชนะและเป็นภาพแทนพระเจ้าตามที่บอก
เนื้อหาใน 3 ตอนแรกจบลงด้วยชัยชนะของจองจินซู ผู้คนหวาดกลัวต่อบาปและการลงทัณฑ์ ลัทธิสัจธรรมใหม่เรืองอำนาจเหนือทุกคนในสังคม เขากลายเป็นดังศาสดาชี้ทางสว่างแก่มวลมนุษย์ตามที่คาดหวัง โดยที่นายตำรวจจินคยองฮุนตัดสินใจไม่เปิดโปงเรื่องทั้งหมดจบเรื่องราวของเขาไว้เท่านั้น
แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของหายนะและขุมนรกที่กำลังจะตามมาของโลกภายใต้สัจธรรมใหม่
--------------------
ที่มา