
มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 หรือ SEA Games 2025 ที่ประเทศไทยรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพในรอบ 18 ปี กำลังจะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ แม้ฝ่ายจัดงานยืนยันว่า "พร้อม 100%" แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมและโซเชียลมีเดียกลับพุ่งเป้าไปที่ "ความไม่พร้อม" และ "ความเงียบเหงา" ของการเป็นเจ้าภาพ โดยมี 4 ประเด็นร้อนที่สร้างดราม่าอย่างหนักก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น
แม้จะเหลือเวลาไม่กี่วันก่อนพิธีเปิด แต่ซีเกมส์ครั้งนี้ถูกยกให้เป็น "ซีเกมส์ที่เงียบที่สุดในประวัติศาสตร์" เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่แทบไม่ทราบโปรแกรมการแข่งขัน สถานที่ หรือแม้แต่การมีอยู่ของงาน ทำให้บรรยากาศการเป็นเจ้าภาพไม่ตื่นเต้นเท่าครั้งอดีต (เช่น ซีเกมส์ 1995 ที่มีเพลง "Win It In Your Heart" ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ออกมาปฏิเสธว่าประเทศไทย "ไม่พร้อม" แต่ยอมรับว่าการประชาสัมพันธ์ต้องเร่งดำเนินการ โดยตั้งเป้าให้เงินสะพัดในประเทศถึง 1.5 หมื่นล้านบาท หากการโปรโมทสำเร็จตามแผนที่วางไว้
เดิมการแข่งขันถูกกำหนดจัดขึ้นใน 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, ชลบุรี และสงขลา แต่เนื่องจากเกิดอุทกภัยหนักในพื้นที่ภาคใต้ รัฐบาลจึงตัดสินใจ ย้ายการแข่งขัน 10 ชนิดกีฬาของจังหวัดสงขลาทั้งหมด มาจัดที่กรุงเทพฯ และชลบุรี เพื่อความปลอดภัย
นอกจากปัญหาภัยพิบัติแล้ว ยังมีรายงานว่าสนามแข่งขันบางแห่ง เช่น สระว่ายน้ำใน กกท. มีการก่อสร้าง/ปรับปรุงล่าช้าจนเกือบเสร็จไม่ทัน แถมยังมีการตั้งคำถามถึงงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์บางอย่างที่ดูราคาสูงเกินไป ทำให้หลายฝ่ายมองว่าปัญหาเหล่านี้ถูกโยงกับประวัติศาสตร์ความล้มเหลวของการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติในอดีตของไทย เช่น เอเชียน อินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตส์ เกมส์ ที่ไทยถูกยกเลิกการเป็นเจ้าภาพไปเมื่อปีก่อน
ประเด็นร้อนแรงที่สุดคือ การหักลดเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา และการเบิกจ่ายล่าช้า ซึ่งสร้างความไม่พอใจและบั่นทอนกำลังใจในหมู่นักกีฬาอย่างมาก ก่อนหน้านี้ "หมิว-พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์" (มือ 1 แบดมินตันหญิงไทย) ประกาศถอนตัวจากซีเกมส์ ก่อนจะมีการเจรจาจนยอมกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง ขณะที่ผู้จัดการทีมมวยไทยถึงกับเผยว่า นักกีฬาทุกคนฝึกซ้อมด้วยความรู้สึก "หมดกำลังใจ" เนื่องจากความล่าช้าและไม่โปร่งใสของระบบการบริหารงบประมาณสมาคมกีฬา ทำให้นักกีฬาไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงมาหลายเดือนแล้ว
กัมพูชา ได้ประกาศถอนทีมจากการแข่งขันหลายชนิดกีฬาอย่างกะทันหันโดยอ้างเหตุผลด้าน "ความปลอดภัย" หลังเกิดข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีการปะทะกันก่อนหน้านี้ ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อมหกรรมกีฬาในอาเซียนโดยตรง
การถอนทีมของกัมพูชาส่งผลให้ตารางการแข่งขันบางชนิดต้องมีการปรับเปลี่ยน แต่กลับเป็นไปอย่างล่าช้า ทำให้ตารางแข่งสุดท้ายของบางกีฬายังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ จนถูกนำไปโยงกับกระแสวิจารณ์ว่า "ความไม่พร้อมของเจ้าภาพ"
แม้จะเต็มไปด้วยดราม่า แต่ทีมชาติไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันถึง 1,531 คน โดยตั้งเป้าครองเจ้าเหรียญทองสมัยที่ 7 ในฐานะเจ้าภาพให้ได้ การถ่ายทอดสดจะครอบคลุมหลากหลายช่องทางฟรีทีวี (NBT, T-Sport, One31, PPTV, TrueVisions)
โอกาสในการพลิกภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพอยู่ที่ พิธีเปิด (9 ธ.ค.) ซึ่งมีการยืนยันว่า แบมแบม-กันต์พิมุกต์ (Got7) ศิลปินระดับโลก ที่เข้ามาร่วมในแคมเปญโปรโมตเพื่อดึงดูดความสนใจจากแฟนคลับและเยาวชน จะขึ้นแสดงในพิธีเปิดด้วย
และต้องจับตากันต่อว่าการแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ในพิธีเปิดครั้งนี้ จะเป็นบททดสอบสำคัญว่าประเทศไทยจะสามารถลบภาพลักษณ์ "ซีเกมส์ที่เงียบเหงา" ได้หรือไม่