"ซินเนอร์" ป้องกันแชมป์ เอทีพี ทัวร์ ไฟนอลส์ ปิดฉากปีแห่งการต่อสู้ "อัลคาราซ-ซินเนอร์"
ยานนิก ซินเนอร์ ป้องกันแชมป์ เอทีพี ทัวร์ ไฟนอลส์ ได้สำเร็จ หลังเอาชนะ คาร์ลอส อัลคาราซ 2-0 เซต ปิดฉากปี 2025 ที่ทั้งสองดาวรุ่งต่างคว้าแชมป์แกรนด์สแลมคนละ 2 รายการ และครอง 5 รายการใหญ่ที่สุดในวงการเทนนิสชายไว้ได้ทั้งหมด การดวลกันครั้งนี้ยืนยันว่า ซินเนอร์ และ อัลคาราซ คือคู่แข่งที่แท้จริงในวงการเทนนิสเวลานี้
KEY
POINTS
- ยานนิก ซินเนอร์ สามารถป้องกันแชมป์เอทีพี ทัวร์ ไฟนอลส์ ได้สำเร็จ หลังเอาชนะ คาร์ลอส อัลคาราซ 2-0 เซต (7-6(4), 7-5)
- ชัยชนะครั้งนี้เป็นการปิดฉากปีที่วงการเทนนิสชายถูกครอบงำโดยซินเนอร์และอัลคาราซ ซึ่งทั้งคู่แบ่งกันคว้าแชมป์แกรนด์สแลมคนละ 2 รายการ
- การแข่งขันของทั้งคู่ผลักดันให้ต่างฝ่ายต่างพัฒนาฝีมือ โดยซินเนอร์ได้ปรับปรุงการเสิร์ฟและความหลากหลายในการเล่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในชัยชนะครั้งนี้
วงการ เทนนิส ชายปิดฉากฤดูกาล 2025 อย่างสมบูรณ์แบบที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี ในศึก เอทีพี ทัวร์ ไฟนอลส์ เมื่อ ยานนิก ซินเนอร์ นักหวดชาวอิตาลี สามารถป้องกันแชมป์รายการนี้ไว้ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ คาร์ลอส อัลคาราซ มืออันดับ 1 ของโลกจากสเปน 2-0 เซต (7-6(4), 7-5)
ชัยชนะของ ซินเนอร์ ในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่เป็นแชมป์รายการใหญ่ของปีเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำว่า ฤดูกาล 2025 คือปีที่วงการเทนนิสถูกยึดครองโดยผู้เล่นเพียงสองคนเท่านั้นคือ ซินเนอร์ และ อัลคาราซ
ปีแห่งการครองโลกของ 'บิ๊กทู'
- ซินเนอร์ จบปี 2025 ด้วยการคว้า 2 แชมป์แกรนด์สแลม และ แชมป์ เอทีพี ทัวร์ ไฟนอลส์ โดยมีสถิติชนะ 58 แพ้ 6 (อัตราการชนะ 91%)
- อัลคาราซ จบปีด้วยการคว้า 2 แชมป์แกรนด์สแลม และรั้งตำแหน่งมือ 1 ของโลกเมื่อสิ้นปี โดยมีสถิติชนะ 71 แพ้ 8 (อัตราการชนะ 89%)
นอกจากนี้ ทั้งสองคนยังครอง 5 รายการใหญ่ที่สุดในวงการเทนนิสชายไว้ทั้งหมด และที่น่าทึ่งคือ ทั้งคู่เข้าชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมถึง 3 รายการติดต่อกัน ภายใน 4 เดือนของปีนี้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เกมคุณภาพที่เต็มไปด้วยการพัฒนา
ชัยชนะของซินเนอร์ในครั้งนี้เป็นการคว้าชัยชนะในคอร์ตฮาร์ดคอร์ตในร่มเป็นนัดที่ 31 ติดต่อกัน และเป็นชัยชนะในรายการ เอทีพี ทัวร์ ไฟนอลส์ 10 นัดติดต่อกันโดยไม่เสียเซต
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การดวลกันระหว่างสองผู้เล่นนี้ทำให้ทั้งคู่พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดย ซินเนอร์ ซึ่งแพ้ในรอบชิงฯ ยูเอส โอเพ่น ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อเพิ่มความหลากหลายและปรับปรุงการเสิร์ฟให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเห็นผลชัดเจนในเกมนี้
ขณะที่ อัลคาราซ ก็พยายามเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการเล่นเพื่อรับมือกับ ซินเนอร์ โดยการต่อสู้ของพวกเขาได้ยกระดับการเล่นให้สูงขึ้นไปอีกขั้นจนทำให้กลุ่มนักหวดที่ตามมาไม่สามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในรายการใหญ่ได้เลย
ช่วงเวลาสำคัญ
เกมนี้เต็มไปด้วยจังหวะที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะในเซตแรกที่ต้องสู้กันถึงไทเบรก และเป็น ซินเนอร์ ที่อาศัยลูกหยอดและลูก ล็อบ (Lob) ที่พัฒนามาก่อนเอาชนะไปได้ 7-6(4)
แม้ อัลคาราซ จะขอเวลานอกเนื่องจากอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายในช่วงท้ายเซตแรก แต่เขาก็ยังกลับมาสู้ต่อในเซตที่สองได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม ซินเนอร์สามารถเบรกเกมเสิร์ฟของ อัลคาราซ ได้ในช่วงท้ายเกมที่ 12 คว้าชัยชนะไปได้ในที่สุด 7-5