
KEY
POINTS
การแข่งขันฟุตบอล ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา มีผลการแข่งขันสำคัญที่ทำให้ทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ฝรั่งเศส พลาดโอกาสในการคว้าตั๋วเข้ารอบสุดท้าย
ฝรั่งเศส รองแชมป์โลก 2022 พลาดโอกาสการันตีการเข้ารอบ ฟุตบอลโลก 2026 หลังจากถูก ไอซ์แลนด์ ไล่ตามตีเสมอ 2-2 ในเกมที่เรคยาวิก ทำให้พวกเขาเสียสถิติชนะรวด 3 นัดติดต่อกัน
เกมนี้ ฝรั่งเศส ที่ขาด คีลิยัน เอ็มบัปเป กัปตันทีมที่บาดเจ็บข้อเท้า เป็นฝ่ายถูก ไอซ์แลนด์ นำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 39 ก่อนที่ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า จะยิงแซงให้ฝรั่งเศสนำ 2-1 แต่ ไอซ์แลนด์ ก็มาตามตีเสมอได้จาก คริสเตียน ฮลีนส์สัน ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
แม้ผลเสมอจะทำให้ ฝรั่งเศส ยังคงนำจ่าฝูงกลุ่ม D ด้วย 10 คะแนน นำหน้า ยูเครน ที่เอาชนะ อาเซอร์ไบจาน 2-1 อยู่ 3 คะแนน แต่พวกเขาก็ต้องไปลุ้นคว้าตั๋วในนัดถัดไป
นอกจากนี้ เกมระหว่าง เวลส์ กับ เบลเยียม ยังต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะ หลังจากมี หนูตัวหนึ่ง วิ่งเข้าไปในสนาม ซึ่ง เบรนแนน จอห์นสัน กองหน้าของเวลส์ ต้องช่วยไล่มันออกจากสนาม ท่ามกลางเสียงเชียร์จากแฟนบอล
สวิตเซอร์แลนด์ ก็พลาดโอกาสสำคัญในการการันตีการเข้ารอบเช่นกัน หลังจากบุกไปทำได้แค่เสมอกับ สโลวีเนีย 0-0 ในกลุ่ม B หากพวกเขาชนะจะการันตีการเข้ารอบทันที ขณะที่ในกลุ่มเดียวกัน โคโซโว เอาชนะ สวีเดน 1-0 ทำให้ โคโซโว มี 7 คะแนน ตามหลัง สวิตเซอร์แลนด์ อยู่ 3 คะแนน
ทีมชนะเลิศของกลุ่มทั้ง 12 กลุ่มจะผ่านเข้ารอบ ฟุตบอลโลก 2026 โดยอัตโนมัติ ส่วนทีมรองชนะเลิศ 12 ทีม จะได้เข้ารอบเพลย์ออฟ ร่วมกับ 4 ทีมที่ดีที่สุดจากศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024-25 รวมเป็น 16 ทีม เพื่อชิงตั๋วอีก 4 ใบสุดท้ายในเดือนมีนาคม 2026