
KEY
POINTS
การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ได้เดินทางมาถึงบทสรุปแล้ว เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา โดยผลการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศและชิงเหรียญทองแดงเป็นไปอย่างดุเดือด สร้างความประทับใจให้กับแฟนวอลเลย์บอลที่เข้ามาชมที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก
ในรอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติอิตาลี ทีมอันดับ 1 ของโลก และแชมป์โอลิมปิกล่าสุด กับ ทีมชาติตุรกี แชมป์เนชั่นส์ลีก 2023 และแชมป์ยุโรป
ผลการแข่งขันเป็นไปอย่างสูสี โดยทั้งสองทีมผลัดกันแพ้-ชนะ จนต้องไปตัดสินกันในเซตที่ 5 และสุดท้ายเป็นทีมชาติอิตาลีที่ทำผลงานได้ดีกว่า เอาชนะไปได้ 3-2 เซต (25-23, 13-25, 26-24, 19-25, 15-8) ทำให้พวกเธอคว้าแชมป์โลกไปครองได้เป็นสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ หลังจากเคยทำได้ในปี 2002
เกมนี้ เปาล่า เอโกนู ทำคะแนนสูงสุดให้กับอิตาลีที่ 22 คะแนน ขณะที่ เมลิสซา วาร์กัส ทำไปถึง 33 คะแนนให้กับตุรกี แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะพาทีมคว้าชัยชนะได้
ส่วนในรอบชิงเหรียญทองแดง เป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติบราซิล รองแชมป์โลกเมื่อครั้งที่แล้ว กับ ทีมชาติญี่ปุ่น ที่เคยเป็นแชมป์โลกมาแล้ว 3 สมัย
ทั้งสองทีมต่อสู้กันอย่างสูสี โดยผลัดกันทำแต้มอย่างสนุก แต่สุดท้ายเป็นบราซิลที่เอาชนะไปได้ 3-2 เซต (25-12, 25-17, 19-25, 29-27, 18-16) ทำให้คว้าเหรียญทองแดงไปครองได้เป็นสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์
เกมนี้ กาบี้ กัปตันทีมทำคะแนนสูงสุดให้กับบราซิลถึง 35 คะแนน ขณะที่ โยชิโนะ ซาโตะ ทำไป 34 คะแนนให้กับญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของทั้งสองทีม