
การแข่งขันฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว โดยคืนวันอังคารที่ 8 กรกฎาคมนี้ เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ นิวเจอร์ซีย์ จะเป็นการพบกันระหว่าง "สิงห์บลูส์" เชลซี มหาอำนาจจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และแชมป์เก่าปี 2021 กับ ฟลูมิเนนเซ่ ตัวแทนสุดท้ายจากอเมริกาใต้ เพื่อแย่งชิงตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
หลังจากที่เชลซีเฉือนเอาชนะ พัลไมรัส มาได้ในรอบก่อนหน้านี้ และฟลูมิเนนเซ่โค่นยักษ์ใหญ่เอเชียอย่าง อัล-ฮิลาล ได้สำเร็จ ทั้งสองทีมก็พร้อมจะประจันหน้ากันในเกมสำคัญนี้
"สิงห์บลูส์" ยังคงอยู่ในช่วงฟอร์มที่ยอดเยี่ยม หลังคว้าแชมป์ยุโรปและผ่านเข้ารอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของคลับ เวิลด์ คัพ ด้วยผลงานชนะ 4 จาก 5 นัดที่ผ่านมา
ในรอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เชลซีเอาชนะ พัลไมรัส ไปได้ 2-0 จากประตูของ โคล พาลเมอร์ และการทำเข้าประตูตัวเองของ ออกุสติน เกอาย แม้ว่า เอสเตเวา ที่กำลังจะย้ายมาอยู่กับเชลซีจะยิงประตูให้พัลไมรัสได้ก็ตาม
ก่อนหน้านี้ ลูกทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ยังเคยเอาชนะ เบนฟิก้า ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แม้จะต้องเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษเนื่องจากสภาพอากาศ แต่พวกเขาก็ยังคงก้าวผ่านไปได้
แม้เชลซีจะจบอันดับสองในกลุ่ม D หลังจากพ่ายแพ้ต่อ ฟลาเมงโก้ คู่แข่งร่วมเมืองของฟลูมิเนนเซ่ไป 1-3 แต่หลายคนมองว่าพวกเขาก็อยู่ในสายการแข่งขันที่ค่อนข้างดี หลีกเลี่ยงการเจอทีมยักษ์ใหญ่จากยุโรปหลายทีม
เชลซีเคยคว้าแชมป์คลับ เวิลด์ คัพ มาแล้วในปี 2021 ซึ่งพวกเขาเอาชนะพัลไมรัสเช่นกัน และหลังจากคว้าแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีกในเกมสุดท้ายก่อนเดินทางมาสหรัฐฯ พวกเขาจึงตั้งใจที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้เป็นรายการที่สองในฤดูกาลนี้
แน่นอนว่าฟลูมิเนนเซ่ก็มีแผนการที่แตกต่างออกไปสำหรับรอบรองชนะเลิศในคืนวันอังคารนี้ พวกเขาได้รักษาความฝันในการเป็นแชมป์โลกไว้ได้ด้วยการเอาชนะ อัล-ฮิลาล ทีมจากซาอุดีอาระเบียในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ในเกมที่ออร์แลนโด ฟลูมิเนนเซ่ขึ้นนำจากประตูสุดสวยของ มาร์ติเนลลี่ แต่ อัล-ฮิลาล ก็ตีเสมอได้จาก มาร์กอส เลโอนาร์โด อย่างไรก็ตาม เฮอร์คิวลิส ตัวสำรองก็กลายเป็นฮีโร่อีกครั้ง ยิงประตูชัยให้ทีมขึ้นนำ 2-1 ก่อนที่ ฟาบิโอ ผู้รักษาประตูวัย 44 ปี จะโชว์ฟอร์มเซฟสำคัญรักษาสกอร์ไว้ได้
ฟลูมิเนนเซ่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม F โดยชนะอุลซาน ฮุนได และเสมอแบบไร้สกอร์ 2 นัดติดต่อกัน พวกเขาไม่แพ้ใครมา 11 นัดติดต่อกัน และเก็บคลีนชีตได้ 5 จาก 7 นัดหลังสุด
สิ่งที่น่าสังเกตคือ ครึ่งหนึ่งของ 8 ประตูที่ฟลูมิเนนเซ่ยิงได้ในสหรัฐอเมริกา มาจากช่วงนาทีที่ 70 เป็นต้นไป และแนวรับที่นำโดยกัปตันทีมอย่าง ติอาโก้ ซิลวา เสียไปเพียงประตูเดียวในครึ่งหลังเท่านั้น
แม้ว่าแชมป์โกปา ลิเบร์ตาโดเรส ปี 2023 จะยังคงเป็นความหวังของฟุตบอลอเมริกาใต้ แต่พวกเขาก็ยังห่างไกลจากการเป็นทีมที่ดีที่สุดของบราซิล โดยจบอันดับ 6 ในลีกบราซิลปี 2025 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ เรนาโต้ เกาโช่ กลายเป็นโค้ชคนที่สี่ในประวัติศาสตร์สโมสรที่ทำสถิติชนะครบ 100 นัด ฟลูมิเนนเซ่ก็ต้องการชัยชนะอีกเพียง 2 นัดเท่านั้นที่จะคว้าแชมป์โลกระดับสโมสร
เชลซีจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมจากเกมที่พบกับพัลไมรัสอย่างแน่นอน เนื่องจาก เลียม ดีแล็ป และ ลีวาย โคลวิลล์ ได้รับใบเหลืองในรอบก่อนรองชนะเลิศ และจะติดโทษแบนในเกมนี้
นิโคลัส แจ็คสัน กองหน้าอีกรายยังคงไม่มีชื่อในเกมล่าสุด แม้จะพ้นโทษแบน 2 เกมแล้ว ดังนั้นนักเตะใหม่อย่าง ชูเอา เปโดร จึงเป็นตัวเต็งที่จะลงแทน ดีแล็ป ในแนวรุก ส่วน โทซิน อดาราบิโอโย อาจลงทำหน้าที่แทน โคลวิลล์
รีซ เจมส์ กัปตันทีมได้รับบาดเจ็บในการวอร์มอัพ และต้องพักร่วมกับ โรเมโอ ลาเวีย จึงต้องรอดูว่าทั้งคู่จะฟิตทันลงสนามที่นิวเจอร์ซีย์หรือไม่ ขณะที่ มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางคนสำคัญพร้อมลงสนามหลังจากพ้นโทษแบน 1 นัด ส่วน เจมี่ กิตเทนส์ นักเตะใหม่ยังไม่มีสิทธิ์ลงเล่นในรายการนี้
ฟลูมิเนนเซ่ก็มีผู้เล่นที่ติดโทษแบนเช่นกัน โดย ฮวน ปาโบล เฟรย์เตส กองหลังตัวกลาง และ มาร์ติเนลลี่ กองกลาง จะหมดสิทธิ์ลงสนาม การขาดหายไปของ มาร์ติเนลลี่ อาจทำให้ เฮอร์คิวลิส ที่ยิงประตูได้ในเกมล่าสุด ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริง
ในรอบน็อกเอาต์ เรนาโต้ เกาโช่ ได้ปรับมาใช้ระบบกองหลัง 3 คน โดยมี ติอาโก้ ซิลวา กัปตันทีมวัย 40 ปี ซึ่งจะลงสนามพบกับอดีตต้นสังกัดเก่าแม้จะมีอาการบาดเจ็บจมูก ลงเล่นร่วมกับ เฟรย์เตส และ อิกนาซิโอ แต่การขาดหายไปของ เฟรย์เตส อาจทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนแผน
และแน่นอนว่า กองหน้ามากประสบการณ์อย่าง เคร์มัน คาโน่ และ จอห์น อาริอาส เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง จะยังคงนำทัพในแนวรุกของฟลูมิเนนเซ่ โดยเฉพาะ อาริอาส ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในทัวร์นาเมนต์นี้ เป็นผู้เล่นที่มีสถิติการยิง, สร้างสรรค์โอกาส และเลี้ยงบอลสำเร็จสูงสุดของทีม
---
เชลซีดูเหนือกว่าเล็กน้อยในแง่ของขุมกำลังและประสบการณ์ในเวทีระดับโลก อย่างไรก็ตาม ฟลูมิเนนเซ่ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและเกมรับที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะการมี ติอาโก้ ซิลวา คุมแนวรับ ซึ่งจะเป็นการเผชิญหน้ากับอดีตทีมรัก การที่ฟลูมิเนนเซ่มักจะยิงประตูได้ในช่วงท้ายเกมก็เป็นสิ่งที่เชลซีต้องระวัง
เกมนี้จะเป็นการวัดใจว่า เชลซีจะสามารถเจาะแนวรับที่เหนียวแน่นของฟลูมิเนนเซ่ได้หรือไม่ และฟลูมิเนนเซ่จะใช้จังหวะโต้กลับและความเฉียบคมของแนวรุกในการสร้างเซอร์ไพรส์ได้หรือไม่ เดิมพันคือตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ที่รอพบผู้ชนะระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หรือ เรอัล มาดริด