
KEY
POINTS
"เจ้าเท่ห์" เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ปีกตัวรุกวัย 28 ปี ได้สิ้นสุดสัญญายืมตัวกับ เซเรโซ โอซากา ทีมดังแห่งศึก เจลีก 1 ประเทศญี่ปุ่น และได้ย้ายกลับมาร่วมทัพ "เดอะ แรบบิท" บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ต้นสังกัดเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาล 2025/26 ที่กำลังจะมาถึง การกลับมาของ เจริญศักดิ์ ครั้งนี้ ทำให้ในฤดูกาลหน้า จะไม่มีนักเตะไทยค้าแข้งอยู่ในเจลีก 1 เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี
เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ถูก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปล่อยให้ เซเรโซ โอซากา ยืมตัวไปใช้งานเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ด้วยสัญญา 6 เดือน ท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอลชาวไทยที่จะได้เห็นแข้งไทยโลดแล่นในลีกสูงสุดของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาครึ่งฤดูกาลที่ญี่ปุ่น มิดฟิลด์ตัวรุกรายนี้ ไม่ได้รับโอกาสลงสนามในศึกเจลีก 1 เลยแม้แต่นัดเดียว มีเพียงการลงสนามในฟุตบอลถ้วย เลอแวง คัพ ไป 2 นัด รวมเวลา 78 นาที โดยทำผลงานได้อย่างน่าสนใจด้วยการทำไป 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ก่อนที่สัญญาจะหมดลงและ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะยืนยันการดึงตัวกลับมาร่วมทีมในที่สุด
การกลับมาของ เจริญศักดิ์ ถือเป็นรายที่สองที่ บีจี ปทุมฯ ดึงกลับมาจากญี่ปุ่น ต่อจาก เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่เพิ่งกลับมาจาก เอฮิเมะ เอฟซี ทีมในศึกเจลีก 2 ก่อนหน้านี้
การกลับมาของ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ทำให้สถานการณ์ของนักเตะไทยในลีกอาชีพของญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยในตอนนี้ จะเหลือนักเตะไทยค้าแข้งอยู่ในบอลอาชีพญี่ปุ่นเพียง 2 คนเท่านั้น ได้แก่ สุภโชค สารชาติ กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ซึ่งตกชั้นไปเล่นในศึกเจลีก 2 และ ปรเมศย์ อาจวิไล ที่ย้ายไปร่วมทีม จูบิโล อิวาตะ ในเจลีก 2
นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ที่จะไม่มีนักเตะไทยลงเล่นในสโมสรระดับ เจลีก 1 เลย นับตั้งแต่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ย้ายไปเล่นกับ คอนซาโดเล ซัปโปโร เมื่อกลางปี 2017 เป็นต้นมา ซึ่งในแต่ละฤดูกาลที่ผ่านมา จะมีนักเตะไทยอย่างน้อย 1 คน ค้าแข้งอยู่ในลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่นมาโดยตลอด จนกระทั่งการกลับมาประเทศไทยของ เจริญศักดิ์ ในครั้งนี้
สำหรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด การได้ เจริญศักษ์ วงษ์กรณ์ กลับมาร่วมทีม จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในแนวรุก ก่อนที่ศึกไทยลีก ฤดูกาล 2025/26 จะเริ่มต้นขึ้น ซึ่ง “เดอะ แรบบิท” ยังคงมีเป้าหมายในการกลับมาท้าทายตำแหน่งแชมป์อย่างเต็มตัว