เก็บตก UCL รอบตัดเชือก "อาร์เซน่อล" พ่าย "เปแอสเช" ชวดเข้าชิง

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง โชว์ความแข็งแกร่งในการรับมือเกมรุกดุดันของอาร์เซน่อล ก่อนเฉือนชนะ 2-1 ในเกมรอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา รวมผลสองนัดเอาชนะไป 3-1 ตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับอินเตอร์ มิลาน

ลูกทีมของมิเกล อาร์เตต้าเริ่มเกมได้อย่างคึกคัก มีโอกาสทองถึงสามครั้งในช่วงแปดนาทีแรก โดยดีแคลน ไรซ์โหม่งหลุดกรอบก่อนที่จานลุยจิ ดอนนารุมม่าจะโชว์ซูเปอร์เซฟสองจังหวะติดต่อกัน คือการปฏิเสธลูกยิงจ่อของกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และลูกยิงไกลเต็มแรงของมาร์ติน โอเดการ์ด

แม้จะเปิดเกมได้ดีกว่า แต่ปืนใหญ่ก็ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังจากจังหวะที่เปแอสเชได้ฟรีคิกแล้วเคลียร์กันไม่ขาด บอลมาเข้าทางฟาเบียน รุยซ์ ที่ซัดเต็มข้อจากนอกกรอบเสียบตาข่ายไม่เหลือ

น่าเป็นห่วงสำหรับอาร์เซน่อลที่ช่วงหลังเสียประตูจากลูกตั้งเตะบ่อยครั้ง โดยลูกนี้นับเป็นประตูที่ 5 จากลูกนิ่งนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ซึ่งมากที่สุดร่วมกับอิปสวิช ทาวน์ในทุกรายการ

แม้พยายามเปิดเกมรุกอย่างหนัก อาร์เซน่อลครอสบอลถึง 17 ครั้งในครึ่งแรก ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยทั้งเกมในการเล่นยุโรปฤดูกาลนี้ (15.6 ครั้ง)

ซาก้า จุดประกายความหวัง แต่ไม่เพียงพอ

เข้าสู่ครึ่งหลัง บูกาโย่ ซาก้าเกือบตีเสมอได้หลังผ่านหนึ่งชั่วโมง แต่ก็ยังเป็นดอนนารุมม่าที่ปัดออกไปได้ปลายมืออย่างเหลือเชื่อ

หลังจากนั้นไม่นาน เปแอสเชได้จุดโทษจากการแฮนด์บอลของไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่ หลังดู VAR แต่ดาวิด รายา ก็เซฟลูกยิงของวิตินญ่าเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดในแดนหลังของทีมเยือนก็เปิดโอกาสให้เจ้าถิ่นลงโทษ เมื่อโธมัส ปาร์เตย์เสียบอลในเขตโทษให้ อุสมาน เดมเบเล่ ตัวสำรองจ่ายถวายพานให้ อาชราฟ ฮาคิมี่ ยิงเสียบมุมเป็น 2-0

แม้จะได้ประตูตีไข่แตกจากซาก้าในช่วง 15 นาทีสุดท้ายหลังจากเลอันโดร ทรอสซาร์ แย่งบอลจากมาร์ควินญอสแล้วเปิดเข้ากลางมาให้ยิงซ้ำเข้าไป แต่ความหวังของอาร์เซน่อลก็จบลงเมื่อซาก้าได้โอกาสทองอีกครั้งจากการเปิดของริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี แต่กลับยิงข้ามคานจากระยะเพียง 6 หลา ทั้งที่โอกาสนี้มีค่า xG สูงถึง 0.81

จบไม่คม - ดอนนารุมม่าเซฟกระจาย

แม้จะสร้างโอกาสยิงถึง 19 ครั้ง และมีค่า xG รวมถึง 3.14 ในเกมนี้ ซึ่งมากที่สุดที่เปแอสเชเจอใน UCL ฤดูกาลนี้ แต่อาร์เซน่อลกลับเปลี่ยนเป็นประตูได้แค่ลูกเดียว และหากรวมสองนัด พวกเขายิงได้แค่ลูกเดียวจากค่า xG รวม 4.77

“ผมภูมิใจกับลูกทีมมาก พวกเขาทำได้ดีในสถานการณ์ที่ยากลำบากจากอาการบาดเจ็บหลายคน ดอนนารุมม่าช่วยให้เปแอสเชชนะ เขาสุดยอดจริงๆ”  มิเกล อาร์เตต้ากล่าวหลังเกม พร้อมย้ำว่า "ไม่มีทีมใดในยุโรปที่เล่นดีกว่าเราในปีนี้"

ดีแคลน ไรซ์ ก็เห็นด้วยกับเจ้านาย โดยกล่าวว่า “เราครองเกมในช่วงต้นแบบชัดเจน ถ้าเปลี่ยนสักหนึ่งโอกาสในช่วง 15-20 นาทีแรกได้ เกมจะเปลี่ยนไปทันที แต่นั่นแหละฟุตบอล มันไม่ใช่วันของเรา”

เป้าหมายต่อไป: คว้าตั๋ว UCL ฤดูกาลหน้า

ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้อาร์เซน่อลแพ้รวดทั้ง 4 รอบรองฯ แบบเหย้า-เยือนภายใต้การคุมทีมของอาร์เตต้า และตอนนี้เป้าหมายหลักคือต้องคว้าตั๋วไปแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้าให้ได้

พวกเขายังต้องเจองานหนักในพรีเมียร์ลีก โดยต้องไปเยือนลิเวอร์พูลที่เพิ่งคว้าแชมป์ และเปิดบ้านรับนิวคาสเซิล หนึ่งในทีมลุ้นท็อปไฟว์ หากเก็บได้อีก 4 แต้มจาก 3 เกมสุดท้าย ก็จะการันตีตั๋ว UCL ทันที

เปแอสเช: มุ่งมั่นคว้าแชมป์ภายใต้ยุคใหม่

ด้าน เปแอสเช นี่คือการเข้าชิงถ้วยยุโรปสูงสุดเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งจบลงด้วยตำแหน่งรองแชมป์ และนับเป็นความสำเร็จใหญ่ในฤดูกาลแรกนับตั้งแต่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ย้ายไปเรอัล มาดริด

การจากไปของเอ็มบัปเป้ไม่ได้ถูกแทนที่ด้วยซูเปอร์สตาร์รายใหม่อย่างที่ผ่านมา แต่เป็นการเปลี่ยนแนวทางของสโมสรที่เคยทุ่มทุนดึงสตาร์ดังอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ลิโอเนล เมสซี และเนย์มาร์ มาเสริมทัพ

ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ เปแอสเชชุดนี้กลับเป็นทีมที่แข็งแกร่ง สดใหม่ และเล่นฟุตบอลได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีเป้าหมายคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกของสโมสร 

"เรามีศรัทธาในโค้ชและนักเตะของเรา โดยเฉพาะดาวรุ่งที่มีความหิวกระหาย พวกเขาทุ่มเทเพื่อทีม เพื่อเสื้อตัวนี้ เพื่อเมืองนี้ และเพื่อสโมสร" นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี ประธานสโมสรกล่าวกับ CBS Sports

"ยังเหลืออีกหนึ่งนัด... เรายังไม่จบภารกิจ"

ก่อนหน้านี้ เปแอสเชเคยปราบทั้งแอสตัน วิลล่าและลิเวอร์พูล และปีที่แล้วต้องหยุดเส้นทางในรอบนี้หลังพ่ายดอร์ทมุนด์ ขณะที่ปี 2020 พวกเขาเคยแพ้ให้กับบาเยิร์น มิวนิกในนัดชิงฯ

"มันคือความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม" มากินญอส กัปตันทีมกล่าว "เราผ่านเกมที่ยากมาหลายเกม ผมเคยแพ้ในรอบชิงมาก่อน ผมรู้ดีว่ามันเจ็บแค่ไหน และผมจะถ่ายทอดประสบการณ์นั้นให้เพื่อนร่วมทีม"