“ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เริ่มต้นปี 2024 ภายใต้ความกดดันมากมาย ด้วยความพ่ายแพ้ติดต่อกันสองครั้งในพรีเมียร์ลีก (แพ้ เวสต์แฮม 0-2 และแพ้ ฟูแล่ม 1-2) ตามมาด้วยการแพ้ลิเวอร์พูล 0-2 ในศึกเอฟเอ คัพ ในช่วงเวลาดังกล่าว (ต้น ธ.ค.-ต้น ม.ค.) “เดอะ กันเนอร์ส” แค่ชนะเพียงครั้งเดียวจาก 7 นัดในทุกรายการ เริ่มมีการตั้งคำถามถึงความต้องการกองหน้าตัวเป้าคนใหม่ บางคนถึงกับวิพากษ์วิจารณ์ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมด้วยซ้ำว่าอาจไม่ดีพอที่จะพา "ปืนใหญ่" ไปถึงแชมป์ลีก
แต่หลังจากพักเบรกหน้าหนาวในช่วงสั้นๆ "เดอะ กันเนอร์ส" กลับโชว์ฟอร์มชนิดหาข้อผิดพลาดไม่เจอ ด้วยการเก็บชัยชนะในลีก 8 นัดติดต่อกัน พร้อมทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งจ่าฝูง ทำให้ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า กลับมาลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวอีกครั้ง
ทีมจอมถล่มประตู
ใน 8 เกมหลังสุด อาร์เซน่อลยิงได้ถึง 33 ประตู (โดยเฉพาะใน 5 แมตช์หลังสุดที่ยิงได้ถึง 23 ลูก) ในการแข่งขัน 8 นัดดังกล่าว อาร์เซน่อลชนะด้วยผลต่าง 5 ประตูขึ้นไปถึง 4 ครั้ง ประกอบไปด้วยการชนะ คริสตัล พาเลซ 5-0, ชนะ เวสต์แฮม 6-0, ชนะ เบิร์นลี่ย์ 5-0 และชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 6-0
เทียบกับก่อนหน้านี้นับตั้งแต่ได้ มิเกล อาร์เตต้า มาคุมทีม 154 เกม ปืนใหญ่ชนะด้วยผลต่าง 5 ประตูขึ้นไปได้แค่ 4 ครั้งเท่านั้น
ปัจจุบันอาร์เซน่อลเป็นทีมที่ทำประตูได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก (70 ประตูจาก 28 เกม) และยังครองสถิติเสียประตูน้อยที่สุดในลีกอีกด้วย (เสียไปแล้ว 24 ประตู) ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน เพราะหลังจากผ่านไป 28 เกม อาร์เซน่อลไม่เคยยิงประตูได้มากเท่านี้มาก่อน และยังทำประตูได้มากกว่าทีมชุด "ไร้พ่าย" ในฤดูกาล 2003/04 ถึง 15 ประตูในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย
ใครๆก็ยิงได้
จุดเด่นในเกมรุกของ อาร์เซน่อล ก็คือ ประตูที่ทำได้ของพวกเขามาจากนักเตะทั่วทั้งสนาม โดยนับตั้งแต่เริ่มปี 2024 มีนักเตะอาร์เซน่อลถึง 11 คน ที่ได้มีชื่อเป็นผู้ทำประตู ประกอบไปด้วย บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, มาร์ติน โอเดการ์ด, ไค ฮาแวร์ตซ์, เลอันโดร ทรอสซาร์, กาเบรียล เชซุส, ดีแคลน ไรซ์, เบน ไวท์, ยาคุบ คีวิออร์, กาเบรียล มาร์กัลเญส และวิลเลียม ซาลิบา ไม่มีทีมในพรีเมียร์ลีกทีมอื่นที่มีผู้ทำประตูแตกต่างกันมากไปกว่านี้ในช่วงเวลาเดียวกันอีกแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้ว ลิเวอร์พูลมีผู้ทำประตู 10 คน ขณะที่แมนฯ ซิตี้มีเพียง 4 คนในปี 2024
แน่นอนว่าสถิติทั้งหมดที่กล่าวมาคงเป็นเพียงสถิติที่น่าชื่นชมแต่ไม่มีถ้วยรางวัล ดังนั้น แฟนๆ เดอะ กันเนอร์ส คงได้แต่หวังว่า มิเกล อาร์เตต้า จะแปรเปลี่ยนสถิติเหล่านี้ให้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในเดือนพฤษภาคม ซึ่งหากพวกเขาสามารถรักษาฟอร์มปัจจุบันเอาไว้ได้ ก็มีโอกาสไม่น้อยที่พวกเขาจะโค่นลิเวอร์พูลและแมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 20 ปีได้สำเร็จ