svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

10 ดีลยอดแย่ของ "โมชิรี่" ที่ทำให้ "เอฟเวอร์ตัน" เผชิญวิบากกรรม

26 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ส่อง 10 การเสริมทัพยอดแย่ของ "เอฟเวอร์ตัน" ภายใต้การบริหารงานของ "ฟาร์ฮัด โมชิรี่" ที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมสุ่มเสี่ยงต่อการถูก "ตัดแต้ม" ถึง 12 คะแนนในเวลานี้

กลายเป็นเรื่องน่าวิตกของสาวก "เอฟเวอร์ตัน" หลังส่อถูกตัดแต้มถึง 12 คะแนนจากการละเมิดกฎการเงิน และอาจทำให้ทีมเจ้าของแชมป์ลีกสูงสุด 9 สมัย รวมถึงเคยผงาดคว้าแชมป์ยุโรป ในถ้วย คัพ วินเนอร์ส คัพ มาแล้ว 1 ครั้งในกลางยุคทศวรรษที่ 1980 ต้องสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น

ซึ่งปัจจัยสำคัญของภาวะขาดทุนอย่างหนักของสโมสรในเวลานี้คือการเสริมทัพที่ล้มเหลวภายใต้การบริหารงานของ "ฟาร์ฮัด โมชิรี่" นักธุรกิจชาวอังกฤษ-อิหร่าน ที่เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร เริ่มตั้งแต่การเข้าซื้อหุ้น 49.9% ในปี 2016 ก่อนจะกวาดหุ้นเกือบทั้งหมด (94%) ในปี 2022

โดยหลายฝ่ายในวงการฟุตบอลต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า โมชิรี่ มีแต่เงินทุนแต่ไม่มีความรู้ด้านการบริหารสโมสรฟุตบอล ซึ่งนอกจากการดึงตัวกุนซือที่ผิดพลาดแล้ว ยังทุ่มเงินเสริมทัพได้ล้มเหลว มีหลายครั้งที่จ่ายเงินมหาศาลไปคว้าตัวนักเตะชื่อดัง แต่สุดท้ายกลับทำผลงานไม่ได้ตามเป้าหมาย

และนี่คือ 10 ดีลยอดแย่ของเอฟเวอร์ตัน ภายใต้ยุคของเจ้าของทีมผู้นี้

ซาโลมอน รอนดอน (ภาพ: The Guardian) 10. ซาโลมอน รอนดอน
เหตุผลเดียวที่กองหน้าเวเนซูเอล่ารายนี้ได้ย้ายมาอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ก็เพราะเคยร่วมงานกับ ราฟา เบนิเตซ ที่มาเป็นกุนซือ เอฟเวอร์ตัน ในขณะนั้น โดยแม้จะย้ายมาแบบไม่มีค่าตัว แต่ก็ต้องจ่ายค่าเหนื่อยแสนแพง และเจ้าตัวก็ตอบแทนสโมสรด้วยการยิงไปแค่ 3 ประตูจาก 31 นัดเท่านั้น สุดท้ายก็ยกเลิกสัญญากันไปก่อนถึงกำหนด

ธีโอ วัลคอตต์ (ภาพ: The Indepandent) 9. ธีโอ วัลคอตต์
"ดาวรุ่งตลอดกาล" จาก อาร์เซน่อล ที่ประสบปัญหาบาดเจ็บตลอดอาชีพ แต่ เอฟเวอร์ตัน ก็กล้าจ่ายถึง 20 ล้านปอนด์ดึงตัวมาร่วมทีม ซึ่งเจ้าตัวก็ยิงได้เพียง 11 ประตูจาก 85 เกมเท่านั้น ทำให้นี่เป็นหนึ่งในการเสริมทัพที่ล้มเหลวอย่างปฏิเสธไม่ได้

มอยเซ่ คีน (ภาพ: The Independent) 8. มอยเซ่ คีน
เอฟเวอร์ตัน ยอมทุ่มเงินถึง 29 ล้านปอนด์ดึงตัวกองหน้าดาวรุ่งรายนี้มาจาก ยูเวนตุส  แต่หลังจากลงเล่นให้สโมสรเพียง 39 นัดและผ่านการปล่อยยืมตัวไปสามฤดูกาล เขาก็ถูกขายคืนให้กับ "ยูเว่" ทันที เพราะ คีน ยิงได้แค่ 4 ลูกเท่านั้นเอง

ฟาเบียน เดลฟ์ (ภาพ: Royal Blue Mersey) 7. ฟาเบียน เดลฟ์
ฟาเบียน เดลฟ์ ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 8.5 ล้านปอนด์ ซึ่งจริงๆแล้วเจ้าตัวทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกับการเล่นในถิ่นกูดิสัน พาร์ค เพียงแต่โชคร้ายเจอปัญหาอาการบาดเจ็บแทบตลอดเวลา สุดท้ายจึงลงเล่นแค่ 41 นัดเท่านั้นตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาล และพลาดลงสนามไปถึง 63 เกม

มีรายงานว่า เดลฟ์ มีปัญหาสภาพร่างกายอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญา แต่ เอฟเวอร์ตัน ก็ยังดึงดันที่จะคว้าตัวมาร่วมทีมอยู่ดี

ฌอง-ฟิลิปป์ กบาแม็ง (ภาพ: Everton Football Club) 6. ฌอง-ฟิลิปป์ กบาแม็ง
เอฟเวอร์ตัน ดึงตัวกองกลางทีมชาติไอวอรี่โคสต์รายนี้มาจาก ไมนซ์ ด้วยค่าตัวถึง 25 ล้านปอนด์ แต่สุดท้ายกลายเป็นนักเตะอีกรายที่ต้องเจอกับปัญหาบาดเจ็บ โดยนับตั้งแต่ย้ายมาในปี 2019 จนถึงปัจจุบัน กบาแม็ง เล่นให้ เอฟเวอร์ตัน ไปแค่ 6 นัดเท่านั้นเอง (ปล่อยให้ ซีเอสเคเอ มอสโก กับ แทรปซอนสปอร์ ยืมตัวใช้งาน ในช่วง 2 ปีหลัง)

ฮาเมส โรดริเกซ (ภาพ: Reuters)

5. ฮาเมส โรดริเกซ
ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน แบบไม่มีค่าตัว ท่ามกลางความคาดหวังจากแฟนบอลเพราะเจ้าตัวพกดีกรีแชมป์ ยูซีแอล 2 สมัยมาด้วย โดยแม้จะเริ่มต้นได้ดีกับกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ แต่เมื่อ "อันเช่" ย้ายไปคุมทัพราชันชุดขาว เจ้าตัวก็ไม่สามารถปรับสไตล์การเล่นให้เข้ากับแท็กติกของกุนซือคนใหม่อย่าง ราฟา เบนิเตซ ได้ จนมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ่อยครั้ง พร้อมกับหมดอนาคตในถิ่น กูดิสัน พาร์ค ไปในทันที

ยานนิค โบลาชี่ (ภาพ: TEAMTalk) 4. ยานนิค โบลาชี่
เป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาแรกๆภายใต้ยุคของ โมชิรี่ โดย ยานนิค โบลาชี่ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ คริสตัล พาเลซ ทำให้ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ยอมจ่ายถึง 25 ล้านปอนด์ดึงตัวมาร่วมทัพ และเจ้าตัวก็ออกสตาร์ทได้อย่างร้อยนแรง ทำไป 5 ประตูจาก 13 เกมแรก ก่อนจะโชคร้ายบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาดต้องพักยาว และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถกลับสู่ฟอร์มเดิมได้อีกเลย ก่อนจะออกจากสโมสรไปแบบไร้ค่าตัว

เดวี่ คลาสเซ่น (ภาพ: Everton Football Club) 3. เดวี่ คลาสเซ่น
จอมทัพที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ที่สุดของวงการฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ โดย เอฟเวอร์ตัน ดึงตัวมาจาก อาแจ็กซ์ ด้วยค่าตัวถึง 23.6 ล้านปอนด์ในปี 2017

อย่างไรก็ตาม คลาสเซ่น ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นอันรวดเร็วของพรีเมียร์ลีกได้ ท้ายสุดก็ออกจากทีมหลังผ่านไปแค่ 1 ซีซั่น โดยลงสนามไปแค่ 7 นัดเท่านั้นก่อนย้ายไป แวร์เดอร์ เบรเมน ชนิดที่ทำให้ เอฟเวอร์ตัน ขาดทุนยับถึง 13 ล้านปอนด์

เซงค์ โทซุน (ภาพ: Everton Football Club) 2. เซงค์ โทซุน
หลังยอมปล่อย โรเมลู ลูกากู ไปให้ แมนฯยูไนเต็ด เอฟเวอร์ตันเลือกที่จะทุ่มเงิน 30 ล้านปอนด์เป็นค่าตัวของดาวยิงโนเนมอย่าง โทซุน โดยช่วงแรก เจ้าตัวเริ่มต้นกับทีมใหม่ได้ดีภายใต้การคุมทัพของ แซม อัลลาไดซ์ แต่เมื่อเปลี่ยนกุนซือมาเป็น มาร์โก ซิลวา ก็กลับกลายเป็นคนละคน โดยยิงได้แค่ 4 ลูกเท่านั้นใน 2 ฤดูกาลถัดมา สุดท้ายก็ย้ายไปอยู่กับ เบซิคตัส แบบไม่มีค่าตัว นั่นหมายความว่า 30 ล้านปอนด์ที่จ่ายไปสูญเปล่าอย่างสิ้นเชิง

ซานโดร รามิเรซ (ภาพ: Everton Football Club) 1. ซานโดร รามิเรซ
อดีตนักเตะจากศูนย์ฝึก ลา มาเซีย ย้ายมาอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัว 5.25 ล้านปอนด์เมื่อปี 2017 แต่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง โดยได้ลงเล่นแค่ 16 นัด ยิงไป 1 ประตู ก่อนถูกปล่อยยืมให้ทีมต่างๆ เช่น เซบีย่า และ เรอัล โซเซียดาด สุดท้ายก็ออกจากทีมไปแบบไม่มีค่าตัวในปี 2020

logoline