โดยเมื่อวันที่ 31 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) โดยมี “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานกรรมการ บอร์ด กกท.เป็นประธาน มีมติของบอร์ด กกท.ที่จะขอยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ซึ่งกำหนดไว้ เป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่กรุงเทพและชลบุรี ซึ่งมีการเตรียมงานไปมากพอสมควร
ส่วนเหตุผลของการขอยกเลิกนั้น บอร์ด กกท.มองว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ทำให้เกิดปัญหาการเตรียมงานสะดุด โดยเฉพาะเรื่องของการอนุมัติการสนับสนุนด้านงบประมาณ
โดย บอร์ด กกท. ได้มอบหมายให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นำเรื่องสู่การขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในมตินี้ และจากนั้นก็ประสานไปยังคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เพื่อให้แจ้งการขอยกเลิกการจัดการแข่งขัน ไปยังสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) หรือ อาจจะเป็นการขอเลื่อน เพื่อให้ทางประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่จะเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬานี้ครั้งที่ 7 ได้จัดในปี 2568 ที่กรุงริยาด ได้จัดก่อน แล้วประเทศไทยค่อยขอจัดต่อจากประเทศซาอุฯ ในปี 2570 อีกครั้งหากไม่มีชาติใดรับจัด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ "เสธ.โต" พลเรือเอกสุรวุฒิ มหารมณ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย ออกมาให้ความเห็นว่า การยกเลิกเป็นเจ้าภาพจะทำให้เสียชื่อประเทศชาติในความคิดเห็นของตน ทำไมปล่อยเวลาให้ล่วงเลยนานมาแล้วไม่ทำงานกัน พอเวลาใกล้จะทำไม่ทันก็หาเรื่องเลิก
ซึ่งประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพมหกรรมเกมแข่งขันระดับนานาชาติมากว่าสิบๆครั้ง ใหญ่กว่านี้ตั้งเยอะแยะไม่เคยที่จะผิดพลาดจนจัดไม่ได้ไม่ว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนหรือไม่ ซึ่งในเมื่อครั้งที่กีฬาซีเกมส์ ที่จะจัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา ก็ยังจัดได้ไม่มีปัญหาและประสบความสำเร็จผ่านพ้นไปด้วยดี
การที่จะเลื่อนหรือยกเลิกต้องคิดให้ดี ชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นของทุกคน ไม่ใช่ของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง ไม่ใช่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เพราะเราทำสัญญาเอ็มโอยูไว้ชัดเจน ซึ่งเราก็เลื่อนมา 2 ปีแล้วจากสถานการณ์โควิด จึงไม่มีเหตุผลอะไรตอนนี้ที่จะบอกยกเลิกการแข่งขัน เพียงแต่ว่าที่แน่ๆ คนทำงานมีประสิทธิภาพไม่พอ เลยทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้
พลเรือเอกสุรวุฒิ มหารมณ์ ยังกล่าวต่อว่า ทางออกตอนนี้ต้องจัดกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ให้ได้ตามกำหนดวันเวลาเดิมที่ตั้งเอาไว้ ซึ่งต้องเริ่มทำกันวันนี้อย่างจริงจังทำได้แน่นอน ทุกคนต้องจริงจังร่วมกันจัดเกมนี้ขึ้น เงินไม่ใช่ปัญหา ตนคิดว่าควรจะใช้ความพยายามในการแก้ปัญหามากกว่า
ถ้าจัดรายการนี้ไม่ได้ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปในอีก 2 ปีข้างหน้า ความเชื่อถือของคนกีฬาในระดับเอเชียและอาเซียนจะมองประเทศไทยอย่างไร อย่าอ้างเรื่องการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่ทุกรัฐบาลจะต้องเข้ามาดำเนินการสิ่งที่ไทยได้ทำเอาไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมาเนื่องจากมีข้อตกลงมีสัญญากันไว้อยู่แล้ว หากกรณีเลิกใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของค่าปรับ เพราะต้องหาคนรับผิดชอบเนื่องจากเป็นเงินหลวง
ตนขอย้ำว่าจะมาอ้างเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลแล้วจัดไม่ได้เด็ดขาด ขอให้ทุกคนคิดถึงผลเสียที่จะเกิดจากการยกเลิกครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญด้วย และที่สำคัญการยกเลิกจัดการแข่งขันก็ต้องรอมติจากคณะรัฐมนตรีรัฐบาลชุดใหม่ที่มีอำนาจในทางกฎหมาย ไม่ใช่การประชุมจากเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา