
9 ตุลาคม 2568 เพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ ได้โพสต์ภาพผู้กองลี่ ตำรวจบึงกาฬ ตัดสินใจออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเองและแฟนสาว ด้วยการถือป้ายกลางสี่แยกไฟแดงท่ามกลางสายฝน หลังแฟนสาวเคยไปเซ็นค้ำประกันเงินกู้ให้เพื่อนสนิทเมื่อปี 2556 ทำให้ทั้งคู่ถูกฟ้องร้องเรียกเงินคืนจำนวนมาก โดย “ผู้กองลี่” เปิดเผยว่าตนกำลังไร้ทางออก ขณะที่ผู้กู้ซึ่งเป็นถึงศึกษานิเทศก์ในจังหวัดบึงกาฬ กลับใช้ชีวิตหรูหราขับรถเบนซ์อย่างสุขสบาย
ย้อนรอยหนี้ค้ำประกัน 10 ปี “ผู้กองลี่” เปิดเผยว่า ปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2556 แฟนสาวได้ไปเซ็นค้ำประกันเงินกู้ให้กับเพื่อน โดยทำสัญญากู้ยืมเป็นจำนวนเงิน 2,100,000 บาท (สองล้านหนึ่งแสนบาท) ซึ่งตนเองไม่แน่ใจว่าเพื่อนนำเงินไปใช้ทำอะไร อาจเป็นการสร้างบ้านหรือเรียนต่อระดับปริญญาโท กระทั่งในปี 2565 ผู้กองลี่และแฟนสาวถูกฟ้องร้อง เนื่องจากผู้กู้ไม่ชำระหนี้ โดยมียอดเงินค้างชำระ ณ ขณะนั้นรวม ๆ แล้วประมาณ 1,800,000 บาท ขณะนี้ทรัพย์สินยังอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมายไร้ทางออก...ต้องจำใจสู้กลางสี่แยก
“ผู้กองลี่” ซึ่งรับจำใจต้องออกมาถือป้ายเรียกร้องความเป็นธรรมกลางสี่แยกไฟแดงในตัวเมืองบึงกาฬ ท่ามกลางสายฝน เนื่องจากกำลังเผชิญกับผลกระทบจากการถูกฟ้องร้องจากกรณีค้ำประกัน สิ่งที่สร้างความคับแค้นใจให้กับผู้กองลี่เป็นอย่างมากคือ ขณะที่ตนและแฟนสาวต้องเดือดร้อนอย่างหนัก แต่ผู้กู้เงินตัวจริง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าหน้าที่ศึกษานิเทศก์ในจังหวัดบึงกาฬ กลับใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย "กินหรู อยู่สบาย ขับรถเบนซ์" ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ผู้กองลี่” จึงอยากวิงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสังคมช่วยเหลือให้ได้รับความเป็นธรรมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จากการต้องรับผิดชอบในฐานะผู้ค้ำประกัน ทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อหนี้ และถูกผู้กู้ลอยแพในที่สุด