svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิด 3 ปัจจัยเสี่ยง 4 ข้อเสนอ "หลุมยุบ" หน้า "วชิรพยาบาล"

นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ ชี้ ถนนทรุดตัวหน้า "วชิรพยาบาล" อาจเป็นหลุมยุบใหญ่ที่สุดในประเทศ เปิด 3 ปัจจัยเสี่ยง 4 ข้อเสนอเรียกร้องตั้งกรรมการกลางสอบสวน จี้รัฐยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยการก่อสร้างใต้ดินในชั้นดินอ่อน


26 กันยายน 2568 จากเหตุการณ์ถนนทรุดตัว บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กันยายน 2568 ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และ อ.ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ถนนยุบตัวดังกล่าว อาจจะเป็นหลุมยุบใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศ ปัจจัยความเสี่ยงที่ทำให้เกิดหลุมยุบดังกล่าว เกิดขึ้นจาก 

  1. ชั้นดินอ่อน 
  2. น้ำในดินที่มีอยู่ในธรรมชาติหรือจากท่อน้ำ
  3. การก่อสร้างใต้ดิน ซึ่งมีอุโมงค์ และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 

ถนนยุบ เกิดขึ้นจากดินใต้ถนนจำนวนมหาศาลไหลเข้าไปในโครงสร้างใต้ดิน ผ่านทางจุดอ่อนหรือจุดที่ไม่แข็งแรง ซึ่งอาจเป็นตำแหน่งรอยต่อระหว่างอุโมงค์กับโครงสร้างสถานี หรืออาจเป็นบริเวณที่ชิ้นส่วนอุโมงค์ หรือผนังสถานี เสียหายแตกร้าว เมื่อดินจำนวนมหาศาลเคลื่อนตัวเข้าไปในโครงสร้างใต้ดินเหล่านี้ ถนนด้านบนก็จะยุบตัวตามลงมา เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ดังนั้นการออกแบบ และการก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชั้นดินอ่อน จะต้องทำให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม และมีส่วนเผื่อความปลอดภัยที่มากพอ

เปิด 3 ปัจจัยเสี่ยง 4 ข้อเสนอ "หลุมยุบ" หน้า "วชิรพยาบาล"

ความเสี่ยงจากหลุมยักษ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ดินรอบข้างไหลเข้ามาในหลุม และทำให้โครงสร้างข้างเคียงทรุด และแตกร้าวได้ อีกทั้งมีปัจจัยเรื่องน้ำฝนที่ทำให้ดินเหลวและเคลื่อนตัวได้ง่ายขึ้นอีก 

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ กล่าวต่อว่า หลังจากเหตุการณ์นี้ จะต้องทบทวนระบบการก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินในชั้นดินอ่อนใหม่ทั้งหมด โดยมีข้อเสนอดังนี้

1. หาสาเหตุที่ถนนยุบให้ได้โดยเร็ว โดยคณะกรรมการฯ ที่มีความเป็นกลาง ประกอบด้วยหน่วยงานทางวิชาการและวิชาชีพ รายงานการสอบสวนสาเหตุจะต้องเปิดเผยสู่สาธารณะ โดยไม่ปิดบัง เพื่อให้หน่วยงานวิศวกรรมอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมเป็นกรรมการ ได้แสดงความคิดเห็น 

2. จัดการปัญหาเหตุการณ์นี้โดยด่วน เพื่อป้องกันดินเคลื่อนตัวเพิ่มเติม โดยแบ่งการจัดการออกเป็น 3 พื้นที่ได้แก่ 

  1. ส่วนที่เป็นหลุมยุบ 
  2. โครงสร้างข้างเคียงที่ได้รับความเสียหาย
  3. อุโมงค์ และรอยต่อระหว่างอุโมงค์กับสถานีซึ่งอาจแตกร้าวเสียหาย ซึ่งต้องพิจารณาทางเลือกทางวิศวกรรมที่เหมาะสม เช่น การซ่อมแซมหรือเสริมกำลังโครงสร้างข้างเคียง การตรวจวัดการเคลื่อนตัวของโครงสร้าง การรักษาสมดุลของดิน เป็นต้น 

3. ตรวจสอบซ้ำในโครงการอื่นๆ ที่มีการก่อสร้างในลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งที่กำลังก่อสร้างขณะนี้ และที่ก่อสร้างในอนาคต อาจจะต้องเพิ่มสัดส่วนความปลอดภัยทางวิศวกรรมให้สูงขึ้นกว่าที่ใช้ในปัจจุบัน 

4. ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางวิศวกรรมสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินในชั้นดินอ่อน จัดให้มีระบบหรืออุปกรณ์ตรวจวัดการเคลื่อนที่ของดินแบบต่อเนื่องและเรียลไทม์ และมีระบบแจ้งเตือนการทรุดตัวล่วงหน้า เพื่อให้ปิดการจราจรหรือแจ้งเตือนประชาชนรอบข้างได้ทันท่วงที