ชวนไหว้เจ้าแม่หม่าโจ้ว จากเมืองจีน มาประดิษฐาน ที่ม.นวมินทราธิราช

23 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช พร้อมด้วย สมาคมจิ่นเจียง-ฉวนโจว รวมถึงผู้บริหารภาครัฐและเอกชนของไทย ได้เดินทางไปยังเมืองผูเถี่ยน มณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมพิธีอัญเชิญองค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว จากวัดหม่าโจ้ว  เพื่อมาประดิษฐาน ณ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เมื่อวันที่ 27-28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วได้เดินทางมาถึงประเทศไทยในเช้าตรู่ของวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 และนำไปประดิษฐาน ณ อาคารพระตำหนัก กรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ

 

 

โดยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เวลา 09.09 น. คณะผู้บริหารและบุคลากรของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ได้จัดพิธีเฉลิมฉลองการอัญเชิญองค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว จากอาคารพระตำหนักกรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ ไปประดิษฐานที่บริเวณศาลเจ้าแม่ไข่มุกข์ (เจ้าแม่หม่าโจ้ว)  มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช โดยการอัญเชิญมาครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันเป็นมงคลแห่งการเฉลิมฉลอง 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน และเนื่องในวาระมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษาของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

 

ในฐานะสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยได้เช่าพื้นที่ศาลเจ้าแม่ไข่มุกข์ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหลังจากสำรวจร่วมกับกรมศิลปากรและผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ศาลแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าแม่หม่าโจ้ว ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน และสันนิษฐานว่าเป็นศาลเจ้าแห่งแรกในประเทศไทยของชาวจีนเชื้อสายฮกเกี้ยน ที่สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

 

 

ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ทำพิธีสักการะองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีน และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมพิธีได้ทำการสักการะองค์เจ้าแม่หม่าโจว้ พร้อมทั้งนำคณะสิงโตมาทำการแสดงตลอดช่วงเวลาของการทำพิธี 

หลังจากนั้นเวลาประมาณ 10.30 น. ได้อัญเชิญองค์เจ้าแม่หม่าโจ้ว กลับเข้าไปประดิษฐาน ณ อาคารพระตำหนักกรมหมื่นทิวากรวงษ์ประวัติ เพื่อเก็บรักษาไว้อย่างดี 

 

 

พิธีรับองค์เจ้าแม่หม่าโจ้วในครั้งนี้ จึงนับเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและจีน และยังเป็นการส่งเสริมความเข้าใจในด้านวัฒนธรรมและประเพณี ของทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก

 

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช(นมร.) เป็นสถาบันการศึกษาที่ให้ความสำคัญกับองค์ความรู้ด้านการพัฒนาเมือง โดยเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรม จึงได้เปิดโครงการองเที่ยวเชิงอนุรักษ์รอบรั้วมหาวิทยาลัย เนื่องจาก นมร.ตั้งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานคร มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูงมาก ทำให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทั้่งชุมชนเก่าแก่ วัดไทย วัดคริสต์ ศาลเจ้า

 

เช่น วัดประสาท บุญญาวาส , วัดคอนเซ็ปชัญ , วัดนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ , วัดโบสถ์สามเสน , ศาลเจ้าแม่ทับทิมสามเสน เป็นต้น