
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "ร้านอาหารแห่งหนึ่งใจ จ.อยุธยาฯ" เผยคลิปเสียงอ้างเป็นตำรวจโทรขอเงินรายเดือน พอปฏิเสธ ถูกแกล้งมีเจ้าหน้าที่บุกตรวจถี่ จนลูกค้าผวาหาย ผู้จัดการร้านอาหารใน จ.พระนครศรีอยุธยา เผยคลิปเสียงบทสนทนาโทรศัพท์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจยศ “สารวัตร” พูดคุยในลักษณะขอรับเงินรายเดือน 1,000 บาท แลกกับการไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบร้าน ชี้พอปฏิเสธ กลับถูกเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าตรวจค้นถี่ สร้างความหวาดกลัวให้ลูกค้า จนกระทบยอดขายอย่างหนัก
5 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง "ร้านแห่งหนึ่ง" ร้านอาหารประเภท “ยำ 79 บาท” ซึ่งตั้งอยู่ภายใน ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีบรรยากาศเรียบง่าย มีดนตรีสดโฟล์คเดี่ยวเล่นช่วงหัวค่ำ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น.
น.ส.นุ่น อายุ 33 ปี หุ้นส่วนและผู้จัดการร้าน เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนได้ร่วมกันเปิดร้านอาหารแห่งนี้มาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2567 โดยมีใบอนุญาตประกอบกิจการและจำหน่ายสุราถูกต้องตามกฎหมาย
"ช่วงกลางเดือนมกราคม มีตำรวจเข้ามาตรวจร้าน ขอดูใบอนุญาต ซึ่งเราก็ให้ตรวจตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไร จนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มีผู้ชายโทรมา อ้างตัวว่าเป็นสารวัตร พูดจาในลักษณะว่า ถ้าอยากให้ร้านสงบ ไม่โดนตรวจถี่ ก็ขอรับเงินเดือน ละ1,000 กับค่าตู้แดงอีก 500 บาท”
ในบทสนทนาดังกล่าวยังมีการพาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจังหวัด ชุดเฉพาะกิจของผู้การ รวมถึงกล่าวถึงหน่วยงานตำรวจหลายหน่วย ซึ่งทำให้รู้สึกไม่สบายใจ จึงบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน และปรึกษากับหุ้นส่วน
"เราทำร้านอาหารธรรมดา ไม่ใช่ผับ ไม่ได้เปิดเกินเวลา ทุกอย่างมีใบอนุญาตครบ จึงรู้สึกว่าการเรียกรับเงินแบบนี้ไม่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องจ่าย”
หลังจากไม่ได้ตอบรับข้อเสนอของชายคนดังกล่าว ร้านเริ่มถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจถี่ขึ้นอย่างผิดสังเกต โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน พบว่าเจ้าหน้าที่มากันจำนวนมาก บางครั้งรวมกว่า 20 คน มีทั้งรถตู้และรถกระบะรวม 5 คัน เข้ามาพร้อมกัน
"เจ้าหน้าที่ใช้ไฟฉายส่องในร้าน ขอดูบัตรประชาชนของลูกค้า ทำให้ลูกค้าหลายคนตกใจ กลัวว่าจะมีปัญหาอะไร จนบางคนไม่กล้ากลับมานั่งอีก ตอนนี้กระทบยอดขายชัดเจน”
ด้านนายพุฒิ อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน เผยว่า หลังจากทราบเรื่อง ได้ไปขอตรวจสอบ ที่สภ.พระนครศรีอยุธยาว่าชายคนดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ และมีการตรวจสอบยืนยันว่าบุคคลในคลิปเสียงเป็นตำรวจจริง ซึ่งทาง ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับทราบเรื่อง และมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว
สิ่งที่เรารู้สึกคือ ทำไมพอเราร้องเรียน กลับมีเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจร้านมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ ทั้งที่การตรวจแบบนั้นกลับทำให้ลูกค้ากลัว ไม่กล้ามาอีก เราอยากทำมาหากินอย่างสุจริต แต่กลับต้องมารับแรงกดดันแบบนี้
ยืนยันว่า สิ่งที่นำคลิปออกมาเปิดเผย ไม่ได้มีเจตนาจะสร้างความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ แต่ต้องการให้สังคมช่วยตั้งคำถามว่า การใช้อำนาจในลักษณะนี้สมควรหรือไม่ และต้องการให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรม
รายงานข่าวแจ้งว่า บางช่วงในบทสนทนา ชายที่อ้างตัวเป็นสารวัตร กล่าวว่า คือในส่วนของเมืองทั้งหมด โรงพักนะ มันจะมีพวกนักบิน ที่เป็นหน่วยของผู้การ มีของนู้นนี่นั่นอะไรอีก มันต้องเจอปัญหาอย่างงี้
และไม่ใช่ดูแลเฉพาะพื้นที่ ต้องดูแลหน่วยเฉพาะกิจ หน่วย นปพ. หน่วยเฉพาะกิจผู้การ และบางทีอาจจะมีตำรวจท่องเที่ยวมาแซมด้วย ก็ไปคุยกับเขาเอง