
30 เมษายน 2568 ที่รัฐสภา นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เดินทางมาเพื่อชี้แจงกรณี ตึก สตง. ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมา ต่อคณะกรรมการการป้องกันและปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ที่มีนายฉลาด ขามช่วง สส.เพื่อไทย เป็นประธาน
ทันทีที่ นายมณเฑียร เดินทางมาถึง ผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถาม แต่มีตำรวจสภาประมาณ 4 นายคุ้มกันแน่นหนา ผู้สื่อข่าวจึงเดินตามและพยายามสอบถามอีกครั้งว่า วันนี้พร้อมชี้แจงต่อ กมธ. หรือไม่ หรือมีการ เตรียมข้อมูลใดมาเป็นพิเศษ แต่ นายมณเฑียร มีสีหน้าเรียบเฉยและปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามใด ๆ ต่อสื่อมวลชน
เมื่อถามย้ำว่า มีการเตรียมข้อมูล ใดมาเป็นพิเศษหรือไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับ ก่อนจะเดินเข้าห้องรับรอง
ขณะที่ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่า สตง. ในฐานะที่ปรึกษา กมธ.ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีขอให้ตรวจสอบตึก สตง.ถล่ม ว่า ขั้นตอนก่อนที่ตนจะพ้นจากตำแหน่ง เมื่อได้ที่ดินจะนำแบบแปลนที่เคยออกแบบไว้มาใช้หรือออกแบบใหม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารชุดต่อมา เดิมตั้งใจว่าเมื่อหาที่ตั้งเหมาะสมได้แล้ว หนีปัญหาน้ำท่วม เดินทางไกลได้แล้ว ก็นำพื้นที่กว้าง ๆ มาลงแปลนที่ได้ออกแบบ ก็เป็นอันพอใจแล้ว ขั้นตอนหลังจากนั้นไม่สามารถดูแลได้ เนื่องจากตนพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว
นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า การที่ตนเดินทางมาชี้แจงต่อ กมธ.ในวันนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเก่า ทั้งก่อนที่จะมีการออกแบบก่อสร้าง จากผู้รับเหมา ผู้ควบคุมงาน ตนในฐานะอดีตผู้ว่า สตง. ปี 2557-2560 ก็มีส่วนเลือกและกำหนดให้ใช้ที่ดินแปลงนี้ ใช้ในการก่อสร้างอาคารหลังใหม่
ส่วนการปรากฏภาพที่ถ่ายร่วมกันกับ นายบิงลิน วู และนายหลง เฉวียนวู นักธุรกิจชาวจีน ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างตึก สตง.นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้น หลังจากที่มีผู้รับจ้างแล้ว ซึ่งผู้รับจ้างหลักคือ บริษัทอิตาเลียนไทย ส่วน บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น เป็นผู้ร่วมค้า การจะไปถ่ายรูป มีภาพร่วมกันและบุคคลนั้นชื่ออะไร ถ้าบุคคลในสังคมไม่มีประเด็น
นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า ช่วงที่พูดถึงคือช่วงที่ได้ผู้รับจ้างที่เป็นกิจการร่วมค้าแล้ว ซึ่งกิจการร่วมค้าอยู่ในระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ สามารถมีกิจการร่วมค้าได้ แต่บริษัทต้องมีผลงานไม่เกินกว่าร้อยละ 50 ของวงเงินงบประมาณ แต่ผู้ร่วมค้าต้องเป็นบริษัทคนไทย จดทะเบียนในประเทศไทย สามารถทำสัญญาร่วมค้ากันได้และนำมาเสนอราคาต่อได้
ส่วนจะมีนอมินีแอบแฝงในกิจการค้านี้หรือไม่ ในขณะนั้นยังไม่มีระเบียบกำหนดว่า จะต้องไปตรวจสอบลึกถึงกิจการของนอมินีขนาดนั้น จะเห็นได้ว่าตั้งแต่เกิดเหตุตึกถล่มมา ดีเอสไอ ได้มาทำหน้าที่แล้ว อาจจะมีการจับกุมตัว แต่ไม่สามารถส่งฟ้องได้ สะท้อนว่า ถ้าจะตรวจสอบเรื่องนอมินี ไม่ใช่จะตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า แต่ต้องพิสูจน์เรื่องเส้นทางการเงิน เพราะตามระเบียบกำหนดว่า ผู้แข่งขันประมูลโครงการ มีการฮั้วงานในลักษณะสมยอม เอื้อกันถือหุ้นไขว้ไปมา เป็นบริษัทในเครือเดียวกันแล้วมาแข่ง เชื่อว่าจะต้องตรวจสอบเรื่องเหล่านี้แน่นอน
นายพิศิษฐ์ ยืนยันว่า เรื่องการออกแบบตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะพ้นจากตำแหน่งตั้งแต่เลือกพื้นที่ก่อสร้างตึกเสร็จสิ้น แต่การออกแบบเกิดในปี 2561-2562 มีการทำสัญญาในปี 2563-2564 ตนพ้นจากตำแหน่งไป 3-4 ปีแล้ว
ด้าน นายฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ป.ป.ช. กล่าวว่า วันนี้มีการเชิญ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่า สตง. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม และอธิบดีกรมแรงงาน เข้าชี้แจง ได้รับทราบว่า ผู้ว่าฯ สตง. พร้อมคณะ จะเดินทางมาด้วยตนเอง ซึ่งตนได้เรียนไปในเบื้องต้นว่า ต้องให้ความกระจ่างกับสภาฯ เนื่องจากมีประชาชนสงสัยจำนวนมาก การประชุมในวันนี้ เพื่อสอบหาข้อเท็จจริง วันนี้จึงเป็นเวทีที่ท่านต้องพูดกับสภาฯ เชื่อว่าข้อมูลที่เรามีการคาดการณ์ไว้ทั้งหมดนั้น จะได้ฟังจากปาก ผู้ว่าฯ สตง. ซึ่งในวันนี้ ได้มีการเชิญอดีตผู้ว่าฯ สตง.มาเป็นที่ปรึกษาด้วย
นายฉลาด ย้ำว่า บุคคลที่มาในวันนี้ ต้องให้ข้อเท็จจริงกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เนื่องจากหน่วยงานของรัฐ ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็อยู่ระหว่างการสอบสวน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอง ก็อยู่ระหว่างสืบหาข้อเท็จจริง แต่หน่วยงานที่จะให้ข้อเท็จจริงได้ คือ ผู้ว่า สตง.
ส่วนมีการตั้งธง หรือเรื่องที่จะสอบถามใดบ้างนั้น เรามีคำถามจากคณะกรรมาธิการฯ จำนวนมาก ซึ่งทุกคนอยากรู้ข้อเท็จจริง เนื่องจากแต่ละคนก็มีข้อมูลจากหลายแหล่ง โดยวันนี้ข้อมูลทั้งหมดจะรวมกันอยู่ที่เดียวว่า ผู้ว่า สตง.จะให้คำตอบอย่างไร ซึ่งคำตอบนั้น ก็คือข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ มีการแจ้งว่า สามารถพูดความจริงในคณะกรรมาธิการฯ บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายที่เกิดขึ้น ไม่มีใครสามารถปรักปรำ หรือทำร้ายท่านได้ ให้ท่านได้พูดความจริงในฝั่งของท่าน สิ่งที่ไม่สามารถพูดในที่สาธารณะ ก็สามารถพูดในคณะกรรมการธิการฯ ได้ในทางลับ
สำหรับคำถามส่วนใหญ่ เป็นเรื่องที่ยังไม่ได้รับคำตอบ เช่น เรื่องข้อมูลการบริหารสัญญา ที่มีการตอบเป็นเอกสารมา ในเชิงลึกคณะกรรมาธิการฯ ก็ได้มีการศึกษาเพิ่มเติมมา ทุกคนให้ความสนใจในการหาข้อเท็จจริง ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นประโยชน์ของประชาชน
โดยโครงสร้างการก่อสร้างนั้น ก็เป็นข้อเท็จจริงที่ทราบกันอยู่แล้ว ตามเอกสารที่ปรากฏ แต่นอกจากนั้น จะมีเรื่องการบริหารสัญญา การใช้วัสดุก่อสร้างจริงหรือไม่ตามที่เป็นข่าว และจากกรณีตึกถล่มที่ทำให้เกิดฝุ่นเยอะนั้น เราก็สงสัยว่า ส่วนผสมของปูนซีเมนต์ มีสัดส่วนเท่าไหร่ รวมถึงวิศวกรผู้ควบคุมงาน ที่มีข่าวว่า ไม่ได้ควบคุมโดยตรง มีเพียงชื่อ รวมถึงคนออกแบบด้วย ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ตรวจสอบคนอื่น วันนี้สภาได้มีโอกาสตรวจสอบท่าน และท่านต้องตรวจสอบตัวเองด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้น มีจุดบกพร่อง จุดอ่อน ตรงไหน เพื่อเป็นอุทาหรณ์อย่างดียิ่ง ซึ่งสภาจะให้ความกระจ่างในเรื่องนี้
ส่วนการเชิญ รมว.อุตสาหกรรม นั้น เป็นการสอบถามเรื่องคุณภาพเหล็ก ซึ่งผู้ประกอบการ อาจมีวิธีการซิกแซก เวลาก่อสร้างเอาเหล็กที่มีคุณภาพผ่าน มอก.ไปตรวจสอบก่อนการก่อสร้าง แต่อาจใช้อีกหนึ่งประเภทในการก่อสร้าง ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบก็ได้ อยู่ที่การควบคุมงาน และต้องผ่านการรับรองในเบื้องต้น เนื่องจากภายหลังเกิดเหตุ มีการนำเหล็กไปตรวจสอบ แล้วไม่ตรงตามที่ยืนยัน จึงต้องสอบถามไปยังบริษัทผู้ผลิต และสอบถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่ามีมาตรการในความควบคุมขนาดไหน มีมาตรฐานขนาดไหน สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ประกอบการคนไทยและต่างชาติได้หรือไม่ ว่าการดำเนินการของเราเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.