สลด จอดรถเปลี่ยนแพมเพิสให้หลาน ถูกรถพ่วงชนอัดก๊อบปี้ 10 ล้อ ดับ 8

25 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้(24เม.ย.2568) เวลา 22.10 น. ศูนย์วิทยุพระนคร ได้รับรายงานอุบัติเหตุหมู่ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนท้ายรถยนต์เก๋ง และดันไปอัดก็อปปี้เสยท้ายรถบรรทุกสิบล้อ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ติดอยู่ภายในซากรถ บริเวณจุดจอดรถฉุกเฉิน บนถนนมอเตอร์สาย 7 ช่วง หลักกิโลเมตรที่ 23+500 ขาออก มุ่งหน้าบ้านฉาง จ.ชลบุรี ก่อนถึงด่านลาดกระบัง ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 เจ้าหน้าที่สมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง เดินทางไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุอยู่ในช่องทางซ้าย ซึ่งเป็นจุดจอดรถฉุกเฉิน พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียนชลบุรี บรรทุกยางมะตอย สภาพหน้ารถพังยับเยิน ภายในห้องโดยสารพบ นายเสน่ห์ ดอกตะเคียน อายุ 60 ปี นั่งอยู่เบาะคนขับ ถูกอัดติดอยู่กับพวงมาลัยได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตัดถ่างนำตัวออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9

ขณะที่ ด้านหน้ารถพ่วงชนติดอยู่กับรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อ เชฟโรเลต แคปติวา สีขาว ทะเบียนอุดรธานี สภาพพังยับเยินทั้งคัน ภายในห้องโดยสารพบผู้เสียชีวิต จำนวน 8 ราย ติดอยู่ในซากรถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ใช้เครื่องตัดถ่างทยอยนำร่างออกมา ดังนี้

1. เด็กหญิง อายุประมาณ 2-3 ขวบ จุดที่พบเบาะหลังซ้าย
2. เพศหญิง วัยกลางคน จุดที่พบเบาะหลังซ้าย พบร่างคู่กับเด็ก
3. เบาะซ้ายข้างคนขับ เพศหญิงวัยกลางคน
4. เด็กหญิง อายุ 2-3 ขวบ เบาะหลัง
5. เบาะหลังซ้ายเด็กชาย อายุประมาณ 10 ขวบ
6. เพศหญิง เบาะหลังซ้าย
7. เพศหญิง
8. เพศชาย พบร่างตรงตำแหน่งคนขับ

นอกจากนี้ พบชิ้นส่วนมนุษย์ ทั้งแขนและขา รวมถึงศีรษะบางส่วน ยังไม่ทราบเพศ ต้องรอผลพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอีกครั้ง โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด เจ้าหน้าที่มูลนิธิจะนำส่งชันสูตรที่นิติเวชสถาบันรามาจักรกรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย คือ เด็กหญิง อายุ 12 ปี และ หญิงสาว อายุ 18 ปี เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือนำโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 และยังพบถัดไปอีกที่ด้านหน้ารถยนต์อเนกประสงค์ พบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียนชุมพร เป็นรถบรรทุกน้ำมันพืช สภาพท้ายรถได้รับความเสียหายจากการถูกพุ่งชน

จากการสอบถาม นาย เจตน์ สุขกลิ่น อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุช่วงแรก บอกว่า ทันทีที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บเป็นเด็กหญิง 2 ราย กระเด็นออกมาจากตัวรถ จึงปฐมพยาบาลและพาตัวส่งโรงพยาบาล โดยจากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บนั่งมาในรถและกำลังเดินทางไปหาพ่อกับแม่ที่อยู่ในจังหวัดระยองโดยมีน้าและอามา รวมถึงหลานสาว รวมทั้งหมด 10 คน ซึ่งเด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน เป็นจังหวะที่ลงมายืนท้ายรถเพื่อเปลี่ยนแพมเพิสให้กับหลาน และกำลังจะพากันขึ้นรถเดินทางต่อแต่มาประสบอุบัติเหตุถูกชนท้ายจนกระเด็น

ขณะที่ นายกวางแก้ว จันทร์ปทุม อายุ 51 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมันพืช ที่จอดคันแรก บอกว่า ตนเองและภรรยาขับรถบรรทุกน้ำมันพืชจากจังหวัดชุมพร เพื่อจะไปส่งให้ลูกค้าที่จังหวัดปราจีนบุรี จนมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่องทางจอดรถฉุกเฉิน จึงพากันจอดรถหวังจะทานข้าวกันในรถ แต่พอจอดได้ไม่ถึง 5 นาที ก็เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งความแรงของการชนทำให้รถขยับไถลไปข้างหน้าหลายสิบเมตร

พ.ต.อ.กึกก้อง ดีศวัฒน์ ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น รถเก๋งคันนี้โดยสารมาทั้งหมด 10 คน มาจากกรุงเทพมหานคร กำลังมุ่งหน้าไปหาญาติที่จังหวัดระยอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถบรรทุกจอดอยู่ด้านหน้าในช่องทางฉุกเฉิน หรือจุดพักรถชั่วคราวอยู่ก่อน 1 คัน คนขับจึงได้จอดรถต่อท้ายเพื่อให้คนในรถลงมาหยิบแพมเพิสมาเปลี่ยนให้เด็กบนรถ

ต่อมาได้มีรถบรรทุกอีกหนึ่งคันวิ่งเข้ามาในช่องทางฉุกเฉินและพุ่งชนท้ายเข้ากับรถคันเกิดเหตุอย่างรุนแรง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากดังกล่าว ซึ่งขณะนี้สามารถติดต่อทางครอบได้แล้วอยู่ระหว่างเดินทางมายังโรงพยาบาล ส่วนรายละเอียดทางด้านพนักงานสอบสวนจะได้เข้าสอบปากคำคนขับและผู้บาดเจ็บอีกครั้งพร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตึในครั้งนี้