แพทยสภาตั้งโต๊ะ แจงปม ชั้น 14 เปิด 7 ขั้นตอน ตอนนี้ถึงไหนแล้ว

10 เมษายน 2568 ที่ กระทรวงสาธารณะสุข ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนของแพทยสภา พร้อมด้วย ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา กรรมการเเพทยสภา , รศ.พิเศษ นพ.เมธี วงศ์ศรีสุวรรณ  , รศ.นพ.ต่อพล วัฒนา กรรมการเเพทยสภา ร่วมกันเเถลงข้อเท็จจริง หลังจากที่มีข่าวว่า วันนี้ เเพทยสภาจะมีการตัดสิน หลังมีการสอบจริยธรรมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ กรณีชั้น 14 และแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่ให้การดูแลรักษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่สามารถตัดสินได้ เนื่องจากมีเอกสารสำคัญเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลดังกล่าว

ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนของแพทยสภา อธิบายเบื้องต้นว่า ยังไม่มีการตัดสินความผิดตามที่มีข่าวลือออกไป พร้อมกับได้ร่างออกเป็นเอกสาร เเถลงการณ์ชี้แจง เพราะติดภารกิจที่ต้องประชุมต่อ โดยเนื้อหาในเเถลงการณ์ระบุว่า เอกสารที่ได้รับมาเพิ่มจากทั้ง 2 หน่วยงาน เป็นเอกสารสำคัญ มีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี และ คณะอนุกรรมการสอบสวนเป็นผู้ร้องขอเพิ่มเติมในเดือนมีนาคม 2568 ทางคณะอนุกรรมการสอบสวนได้นำเอกสารจำนวนหลายร้อยหน้าดังกล่าวมาพิจารณา และเห็นว่าเอกสารมีความครบถ้วนโดยขณะนี้ อยู่ในระหว่างการให้ความเห็น และ สรุปสำนวนการสอบสวน เพื่อเสนอตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งตามกรอบการทำงานที่กฎหมายกำหนดไว้

ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวน ทราบดีว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจและมีความห่วงใย พร้อมทั้งขอยืนยันว่ามีความเป็นอิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ ในฐานะผู้รับผิดชอบในกระบวนการพิจารณาของแพทยสภา มีทั้งสิ้น 7 ขั้นตอน  ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 4 แล้ว

และในอีก 3 ขั้นตอนที่เหลือนั้น จะต้องผ่านการพิจารณาจากกรรมการแพทยสภา ซึ่งเป็นแพทย์ จำนวน 70 ท่าน ที่มาร่วมกันทำงานในนามของแพทยสภา เพื่อรักษามาตรฐานจริยธรรมของวิชาชีพแพทย์ และให้ความคุ้มครองประชาชนผู้รับบริการทางการแพท์อย่างดีที่สุด

ขณะเดียวกัน รศ.พิเศษ นพ.เมธี วงศ์ศรีสุวรรณ อธิบายถึงลำดับขั้นตอนว่า  กระบวนการพิจารณา ขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือ อนุกรรมการสอบสวน ซึ่งหากผลสอบสวนกรณีที่มีมูล ก็จะส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการสอบสวนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ในขั้นตอนนี้ก็จะส่งเรื่องไปยังราชวิทยาลัย หรือ วิทยาลัย ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความเห็นเพิ่มเติม ยังไปไม่ถึงอนุกรรมการกลั่นกรองเเพทยสภา ถ้าเราไม่ทำตามนี้ เราอาจจะถูกตรวจสอบจากศาลปกครอง

เปิด 7 ขั้นตอน สอบจริยธรรม ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตามข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยวิธีพิจารณาจริยธรรมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2563

• ขั้นตอนที่ 1 : คณะอนุกรรมการจริยธรรม พิจารณาเรื่องร้องเรื่องต้นว่ามีมูลหรือไม่
• ขั้นตอนที่ 2 : คณะอนุกรรมการกลั่นกรองจริยธรรม พิจารณาเรื่องร้องเรียนที่ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการจริยธรรม
• ขั้นตอนที่ 3 : คณะกรรมการแพทยสภา ประกอบด้วย กรรมการ 70 คน (มาจากโดยตำแหน่ง 3 คน และ การเลือกตั้ง 35 คน) พิจารณาและลงมติว่าเรื่องร้องเรียนมีมูลหรือไม่มูล
• ขั้นตอนที่ 4 : กรณีที่มีมูล จะส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการสอบสวนดำเนินการ ในขั้นตอนนี้อาจจะมีการส่งเรื่องไปราชวิทยาลัยหรือวิทยาลัยแพทย์ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อขอความเห็นเพิ่ม
• ขั้นตอนที่ 5 : คณะอนุกรรมการกลั่นกรองจริยธรรม พิจารณาผลการสอบสวนอีกครั้ง
• ขั้นตอนที่ 6 : คณะกรรมการแพทยสภาทั้ง 70 คน พิจารณาและมีมติตัดสินคดี
• ขั้นตอนที่ 7 : เสนอผลการตัดสินให้สภานายกพิเศษของแพทยสภา(รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข) พิจารณารับรอง กรณีที่สภานายกพิเศษไม่เห็นด้วยกับผลการตัดสิน จะส่งเรื่องกลับมาให้คณะกรรมการแพทยสภา 70 คนพิจารณาอีกครั้ง โดยหากคณะกรรมการแพทยสภา มีมติยืนยันด้วยคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ให้ตัดสินตามมติของคณะกรรมการแพทยสภา

ด้าน ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา กรรมการเเพทยสภา ยืนยันว่า การชี้เเจงวันนี้ เพื่อสื่อสารให้ประชาชนทุกคน เกิดความเข้าใจถึงขั้นตอนทั้งหมด เพื่อจะได้ไม่เกิดความสับสน ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดอะไรที่เกี่ยวกับการสอบสวน เราพยายามดำเนินการให้อยู่ตามกรอบเวลาที่กำหนด บางทีข้างนอกยังไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้  ขั้นตอนเหล่านี้มีความสำคัญ เพราะมันเคยมีคดีอยู่คดีหนึ่ง ที่เเพทยสภาเคยตัดสินไป เมื่อไปถึงศาลปกครอง หากกระบวนเราทำไม่ถูกต้อง เรื่องมันจะย้อนกลับมา เราจึงทำตามสิ่งที่ถูกกำหนดเอาไว้ อยากให้ทุกท่านเข้าใจตรงกัน

โดยกรรมการจะประชุมกันเดือนละครั้ง ยืนยันว่า การดำเนินการไม่ได้เกิดความล่าช้า ทุกคนมีอิสระในการทำงาน ยืนยันว่าเราไม่ช้า เราดำเนินการถูกต้องชัดเจน เเละไม่ต้องการที่จะให้กระบวนการข้ามขั้นตอน เเล้วสุดท้ายเด้งออกมาจากศาลปกครอง เเละ ทุกอย่างจะทำให้เกิดความล่าช้ากว่านี้