
3 เมษายน 2568 เมื่อเวลา 20.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่มาตอดตามความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหาย อีก 79 คน ที่ อาคาร สตง.แห่งใหม่ถล่ม โดยได้เข้าไปดูพื้นที่บริเวณโซน B ซึ่งขึ้นไปสังเกตการณ์การทำงานจากอาคารลานจอดรถด้านหลัง ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
นายอนุทิน เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังเน้นหาผู้รอดชีวิต โดยทีมอาสาจากต่างประเทศและไทย ทำงานกันอย่างแข็งขันและผู้ว่าฯ กทม. , รองผู้ว่า กทม. ก็อยู่ในพื้นที่ตลอด ส่วนเมื่อคืนที่มีเสียงตอบโต้ ก็ทำให้ทางหน้างานต้องเร่งหาเสียงนั้นให้เจอ แต่ปัจจุบันยังไม่พบ ซึ่งก็ยังทำงานอยู่ต่อเนื่อง และตนเองก็ได้เข้าไปในโซน B พบว่า กู้ภัยยังทำงานเต็มที่ และมีจำนวนหลายคน ตนเองไม่ทราบเพราะทีมกู้ภัยอยู่ระหว่างดำเนินการ จนถึง 21.00 น. ก็ยังไปไม่ถึงโพรง ซึ่งอุปสรรคสำคัญ คือซากปรักหักพังที่ปิดเส้นทาง เพื่อเข้าไปถึงผู้ประสบภัย ซึ่งโครงสร้าง ที่ทับซ้อนกัน "เหมือนเจาะภูเขาทั้งลูก"
ทั้งนี้ จึงต้องเร่งเจาะไปตามเครื่องมือที่ส่งสัญญานชีพ จะเน้นไปที่จุดนั้นก่อน ส่วนเรื่องการวางแผนให้กู้ภัยและผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ โดยจะมีการใช้เครื่องมือยิงคลื่นเข้าไปตลอดเวลา ซึ่งเมื่อวานมีเสียงตอบรับ และก็ยังหาอยู่ วันนี้ก็ยังหาอยู่
"ทุกอย่างมีความหวังหมด ขอให้มีโอกาสเพียงน้อยนิด แม้ครึ่งเปอร์เซ็นต์ หรือ 1% ก็จะหยุดทุกอย่างเพื่อไปหา โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนมีขวัญกำลังใจที่ดี ทุกคนทุ่มเทเสียสละทำงานเต็มที่ อยากจะช่วยคนรอดชีวิตให้มากที่สุด วันนี้ก็เข้าวันที่ 7 แล้วก็คงต้องเร่งหาผู้รอดชีวิต และเร่งเคลียร์พื้นที่ หาผู้เสียชีวิตตามจำนวนที่พบก่อนหน้า" นายอนุทิน ระบุ
ส่วนการตรวจสอบผู้รับเหมานั้น นายอนุทิน ย้ำว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการ และทราบแล้วว่าเป็นบริษัทอะไร และบริษัทก็มีความรับผิดชอบไม่ได้ไปไหนก็ยังมาช่วยเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และทุกอย่างมีหลักฐานสัญญา ดังนั้นเรื่องเอกสารไม่ต้องห่วงไม่มีหายแน่นอนและมีครบทุกอย่าง
ส่วนแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตกำลังหาขณะนี้ได้สั่งให้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หาวิธียกเว้นหลักเกณฑ์เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือเยียวยาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะตามเกณฑ์ ผู้เสียชีวิตให้ได้
"ผมฟังแล้วก็จะเป็นลม 29,000 ตามกฎหมาย ซึ่งความจริงเป็นไปไม่ได้ ผมบอก ปภ.ไปว่าอย่ามาพูดแบบนี้ ต้องไปแก้ ไปหากฎเกณฑ์ ไปเจรจากับกรมบัญชีกลาง เพื่อหาวิธีช่วยเหลือ เพื่อยกเว้นหลักเกณฑ์ ขนาดน้ำท่วมบ้านพัง ยังเยียวยาหลังละ 49,000 บาท นั่นคือบ้าน แต่นี่คือชีวิตคน ดังนั้นต้องหาวิธีให้มีการชดเชยความสูญเสียอย่างเต็มที่"
แนวโน้มมันต้องเป็นไปได้ ถ้าไปทลวงกฎเกณฑ์เดิมไม่ได้ ก็ต้องใช้มติ ครม. และเชื่อว่า นายก และครม.ยินดีที่จะให้การเยียวยา เพราะไม่ใช่การเยียวยาแค่การบาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต แต่ต้องดูแลเรื่องจิตใจไม่ให้ตื่นตระหนกไม่ให้แพนิก พร้อมยืนยันว่า ไม่ต้องกังวลเพราะมีงบประมาณอยู่ โดยเฉพาะงบประมาณเรื่องการทดลองราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปขอกรมบัญชีกลางและอนุมัติมาแล้วกว่า 200 ล้าน ดังนั้นมีผู้เสียหายเท่าไรก็จะต้องให้เกิดประโยชน์ ดูแลผู้เคราะห์ร้ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนกรณีต่างด้าวก็ต้องยึดหลักมนุษยธรรม ต่างด้าวก็เป็นคน เข้ามาทำอาชีพสุจริต สัญญาก็มีอยู่แล้วว่าต้องจ้างแรงงานโดยถูกกฎหมาย และโครงการใหญ่ๆ ไม่มีแรงงานเถื่อน แล้วก็จะมีประกันสังคม
นายอนุทิน ยังยืนยันอีกว่า ทุกอย่างต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ สอบสวน ดำเนินคดี โดยมีทั้งการตรวจสอบโครงสร้าง คุณภาพวัสดุ และดีเอสไอยังเข้ามาตรวจสอบว่าจะมีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ และ สตง.ต้องตรวจสอบรายละเอียดสัญญา ยังไงก็ต้องหาคนรับผิดชอบเรื่องนี้