พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า อุตุฯ เตือน ช่วงไหนร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 40 องศาฯ
20 มีนาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วัน ระหว่างวันที่ 20 – 26 มีนาคม พ.ศ. 2568 โดยระบุว่า ระหว่างวันที่ 20-26 มีนาคม พ.ศ. 2568 ในวันที่ 20 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นกับมีลมแรง
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 21-26 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ประกอบกับในช่วงวันที่ 25-26 มี.ค. ลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่าง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ข้อควรระวัง
- ในวันที่ 20 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างและห่างฝั่งทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดและควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน
คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 20 – 26 มีนาคม พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ
- ในวันที่ 20 – 21 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า
- อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 36 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
- ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 26 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
- โดยในช่วงวันที่ 25 – 26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค
- อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 40 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ในช่วงวันที่ 20 – 21 มี.ค. อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง
- อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 - 32 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.
- ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 26 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
- อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 38 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ภาคกลาง
- ในวันที่ 20 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง
- อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม
- ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 26 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่
- อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37 – 40 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม
ภาคตะวันออก
- ในวันที่ 20 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง
- อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 26 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
- อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 37 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
- ในวันที่ 20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
- ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักบางแห่งทางตอนล่าง
- ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
- ในวันที่ 20 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่
- ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ส่วนในช่วงวันที่ 21 - 26 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่
- ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
- อุณหภูมิต่ำสุด 22 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 36 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
- ในวันที่ 20 มี.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง
- อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.
- ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 26 มี.ค. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
- อุณหภูมิต่ำสุด 26 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 38 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา