จากกรณีการเสียชีวิตของ "อดีตผู้กำกับโจ้" พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ข.ช.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้ต้องขังคดีคลุมถุงดำ ด้วยการผูกคอในห้องที่ 50 แดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อกลางดึกวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุเกิดความสงสัยของญาติ ไม่เชื่อว่าปลิดชีพตัวเอง พร้อมเปิดเอกสารร้องเรียนกรณีมีข้อพิพาทกับ ผู้คุม และ ผู้ต้องขัง จนกลายเป็นจุดสนใจของประชาชนต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า เรือนจำ หรือ คุก เป็นดินแดนสนธยา ความจริงจะถูกตีแผ่ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ออกมาแถลงข่าวและพยายามชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที พร้อมยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกขั้นตอน พร้อมอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกอย่าง จนกว่าญาติจะสิ้นสงสัย ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
"เรือนจำกลางคลองเปรม" หรือ "คุกลาดยาว" ได้รับฉายาจากชาวต่างชาติ ว่า "แบงคอก ฮิลตัน" เป็นเรือนจำความมั่นคงสูงสุด โดยย้ายมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเดิม (ปัจจุบันคือสวนรมณีนาถ) เป็นเรือนจำที่ใช้คุมขังนักโทษในคดีอุกฉกรรจ์ อยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เรือนจำแห่งนี้คุมขังนักโทษเด็ดขาดที่มีโทษตั้งแต่ 15 ปี ถึงประหารชีวิต เรือนจำตั้งอยู่ที่ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
เรือนจำคลองเปรม ยังเป็นที่ตั้งของทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง โดยเป็นสถานที่คุมขังนักโทษเด็ดขาดในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี และนักโทษระหว่างรอการพิจารณาคดีในความผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติดที่มีกำหนดโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งเรือนจำแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเรือนจำพิเศษกรุงเทพโดยเป็นที่คุมขังนักโทษระหว่างพิจารณาคดีและนักโทษเด็ดขาดที่โทษไม่เกิน 15 ปี และเรือนจำแห่งนี้เป็นที่ตั้งของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
ล่าสุด กรมราชทัณฑ์ ได้ออกเอกสารข่าวเมื่อคืนวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา อธิบายและบอกรายละเอียดของ "เรือนจำกลางคลองเปรม" หรือ "คุกครองเปรม" มีเนื้อหาระบุว่า..
กรมราชทัณฑ์จำแนกประเภทหรือชั้นของเรือนจำ โดยอาศัยเกณฑ์อย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
เรือนจำกลางคลองเปรมเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง มีอำนาจในการควบคุมผู้ต้องขังถึงกำหนดโทษประหารชีวิต ภายในแบ่งออกเป็น 10 แดน ภายนอก 1 แดน โดยจำแนกไว้ตามความเหมาะสมกับผู้ต้องขัง แต่ละประเภท เพื่อประโยชน์ในการควบคุม และการอบรมพัฒนาพฤตินิสัย คุมขังเฉพาะผู้ต้องขังเพศชาย รวมถึงกลุ่มผู้ต้องขังข้ามเพศ โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
เรือนจำฯ แบ่งการควบคุมเป็น 11 แดน โดยเป็นการควบคุมภายในเรือนจำ 10 แดน ได้แก่
แดน 1 แดนฝึกวิชาชีพ งานโรงพิมพ์ราชทัณฑ์และผู้ต้องขังกลุ่มเฉพาะ เช่น กลุ่มข้ามเพศที่แปลงเพศโดยสมบูรณ์ หรือข้ามเพศที่ยังไม่แปลงเพศ เป็นต้น คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 50 ปี
แดน 2 แดนความมั่นคง คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษ 50 ปีขึ้นไปถึงตลอดชีวิต
แดน 3 ผู้ต้องขังกระทำผิดซ้ำจำนวนหลายครั้ง คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษ ไม่เกิน 50 ปี
แดน 4 แดนฝึกวิชาชีพ คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 50 ปี
แดน 5 แดนความมั่นคง คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษ 50 ปีขึ้นไปถึงประหารชีวิต และ/หรือผู้ต้องขังที่มีลักษณะ ดังนี้
แดน 6 แดนแรกรับ, ผู้ต้องขังป่วย และผู้ต้องขังชรา คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 50 ปี
แดน 7 แดนการศึกษาและพัฒนาจิตใจ
แดน 8 แดนกักโรค
แดน 9 แดนสูทกรรม คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 10 ปี
แดน 11 แดนพยาบาล
สำหรับการควบคุมภายนอก มีการแยกแดนออกไปแต่อยู่ติดกับเรือนจำกลางคลองเปรม คือ แดน 10 สถานกักกันคลองเปรม ไว้คุมขังผู้ต้องกักกัน
อนึ่ง หากผู้ต้องขังรายใดกระทำผิดวินัย หรือมีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ หรืออยู่ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง เรือนจำจะพิจารณาย้ายผู้ต้องขังไปควบคุมไว้ในแดน 5 (แดนความมั่นคง) เพื่อแยกการควบคุม ซึ่งรวมถึงผู้ต้องขังข้ามเพศ
สำหรับผู้ต้องขังที่แยกการควบคุมนั้น จะควบคุมไว้ในห้องคุมขังช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น ส่วนเวลากลางวันผู้ต้องขังสามารถออกไปทำกิจกรรมได้ เช่น การเยี่ยมเยียนจากญาติ การพบทนายความ การทำกิจกรรมอื่นตามที่เรือนจำกำหนด เป็นต้น
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุอดีต "ผู้กำกับโจ้" ผูกคอเสียชีวิต กรมราชทัณฑ์ ระบุว่าพร้อมให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้วงเวลาก่อนเกิดเหตุ จนถึงการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง หรือภายในระยะเวลาที่หน่วยงานร้องขอ และพร้อมเปิดเรือนจำฯ ให้ทุกหน่วยเข้าตรวจสอบสถานที่ได้
ขอย้ำว่า เรือนจำฯ ได้ดำเนินการตามมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (SOPs) รวมถึงสิทธิการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกันทางกฎหมาย โดยได้ยึดแนวทางปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกรายอย่างเท่าเทียมให้เป็นไป ตามมาตรฐานสากลและหลักทัณฑวิทยา