
"วันนากโลก" (World Otter Day) ตรงกับวันพุธสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมของทุกปี ถูกตั้งขึ้นโดยองค์กร International Otter Survival Fund หรือ IOSF เพื่อให้เราตระหนักถึงภัยคุกคามที่มีต่อนาก อาทิ การคุกคามถิ่นที่อยู่อาศัย การค้าขนสัตว์ผิดกฎหมาย การลักลอบนำมาเลี้ยง ปัญหามลภาวะ และการล่า ซึ่งวันนากโลกในปี พ.ศ.2567 นี้ ตรงกับวันที่ 29 พฤษภาคม
อ้างอิงข้อมูลจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อธิบายเกี่ยวกับ "นาก" ไว้ว่า นาก (Otter) เป็นสัตว์ในวงศ์เพียงพอน หรือวงศ์วีเซล (weasel family, mustelid) ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับแบดเจอร์ เพียงพอน มิงค์ สโตธ เเละเฟอเรท โดยนากเป็นสัตว์ในตระกูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุด กินปลาเป็นอาหารหลัก และในปัจจุบันบนโลก เรามีนากอยู่มากถึง 13 ชนิด อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
ในประเทศไทยพบนากอยู่ 4 ชนิด ได้แก่ นากเล็กเล็บสั้น นากใหญ่ขนเรียบ นากใหญ่ธรรมดา และนากจมูกขน ดังนี้
นากเล็กเล็บสั้น
เป็นนากขนาดเล็กที่สุดในโลก ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย มีความยาวลำตัวและหางประมาณ 45-55 ซม. ความยาวหาง 25-35 ซม. น้ำหนัก 13 กก. พบกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางทั้งในทวีปแอฟริกาและในทวีปเอเชีย ในทวีปเอเชียพบตั้งแต่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย
นากใหญ่ขนเรียบ
จัดเป็นนากชนิดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียมาก มีความยาวลำตัวและหัว 65-75 ซม. ความยาวหาง 40-45 ซม. น้ำหนักเต็มที่ราว 7-11 กก.
มีการกระจายพันธุ์ตั้งแต่เนปาล อินเดีย ภาคตะวันตกของมณฑลยูนนาน พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนามตอนใต้ มาเลเซีย และเกาะสุมาตรา
นากชนิดนี้กินอาหารได้หลากหลายประเภท เช่น สัตว์น้ำชนิดต่างๆ รวมทั้ง นกหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น หนู ออกหากินทั้งกลางวันและกลางคืน มักอยู่รวมกันเป็นครอบครัวเล็กๆ
นากใหญ่ธรรมดา
มีลำตัวยาว ขนหนาและหยาบเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้ามา และป้องกันอากาศเย็นได้เป็นอย่างดี มีความยาวลำตัวและหัว 55-72 ซม. ความยาวหาง 37.5-48 ซม. น้ำหนักสูงสุด 3-5 กก.
พบการกระจายพันธุ์ที่กว้างขวางมากตั้งแต่ทวีปยุโรปจนถึงทวีปเอเชีย พบตั้งแต่ สหราชอาณาจักร ยุโรปตะวันตก, รัสเซีย ตุรกี ซีเรีย อิหร่าน เลบานอน ซาอุดิาระเบีย คูเวต อิรัก ปากีสถาน อินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย เกาะสุมาตรา และเกาะชวา
อาหารหลัก คือ สัตว์น้ำชนิดต่างๆ รวมทั้ง เป็ดและไก่ รวมถึง นกน้ำชนิดต่างๆ ด้วย
นากจมูกขน
นับว่าเป็นนากชนิดที่ได้ชื่อว่าหายากที่สุดในโลก เพราะมีรายงานพบเห็นเพียงไม่กี่ครั้งและมีการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมน้อยมาก มักพบนากชนิดนี้ตามพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น ปากแม่น้ำใกล้กับทะเล หรือชายฝั่ง มักอาศัยอยู่เป็นฝูงเล็กๆ
พบการกระจายพันธุ์ตั้งแต่ตอนใต้ของกัมพูชา บริเวณดินดอดสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนาม มาเลเซีย ภาคตะวันตกของเกาะสุมาตรา และบอร์เนียว สำหรับประเทศไทย พบบริเวณภาคตะวันตกและภาคใต้
นากน่ารัก แต่ไม่น่าเลี้ยง
นาก ถูกลักลอบขายทางออนไลน์ เนื่องจากภาพที่เห็นทางโซเชียล มักสร้างความเข้าใจผิดว่านากเป็นสัตว์น่ารัก น่าเลี้ยง แต่ความจริงแล้วผิดกฎหมาย แถมอาจเป็นอันตรายต่อทั้งผู้เลี้ยง คนรอบข้าง และต่อตัวนากเอง
ที่สำคัญ นาก เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ภายใต้ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 หากคิดจะเลี้ยงนาก ย่อมเสี่ยงคุก โดยกฏหมายกำหนดโทษไว้ ดังนี้
ซึ่งในธรรมชาติ "นาก" เป็นสัตว์บกที่สามารถว่ายน้ำและหากินในน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว อาศัยอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำหรือพื้นที่ชุ่มน้ำต่างๆ เรียกได้ว่าเป็น "สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำ" เลย
นอกจากนี้ นาก ยังได้ชื่อว่าเป็น สัตว์นักล่าแห่งพื้นที่ชุ่มน้ำ มีหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาห่วงโซ่อาหารให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศในพื้นที่นั้นๆ ดังนั้น หากไม่มีนากอยู่ในป่า ก็จะทำให้ระบบนิเวศแห่งนั้นสูญเสียความสมดุลไป และยากต่อการฟื้นฟูให้กลับมาดังเดิม
ปัจจุบัน นาก ถูกคุกคามจากสัตว์อื่นๆ มนุษย์ และถูกคุกคามแหล่งอาศัย รวมถึงความสะอาดของแหล่งน้ำ เนื่องในวันนากโลกปีนี้ เราจึงอยากชวนมาร่วมตระหนักถึงภัยที่คุกคามนากกัน รวมทั้ง การอนุรักษ์แหล่งน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของนาก เพื่อให้เพื่อนตัวเล็กนี้อยู่คู่กับธรรมชาติต่อไปอีกนานเท่านาน
ขอบคุณข้อมูลจาก :
เฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
Environman
ภาพ : shutterstock